Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 345

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 345
บทที่ 345 – พระเจ้า (6)

พลังที่พระเจ้าได้ครอบครองในฐานะความโลภส่วนใหญ่ได้ถูกใช้ไปจนหมดในการปะทะกับมิคาเอลแล้ว ยังไงก็ตามเพราะการสละพลังนี้ไปทำให้พระเจ้าได้ฟื้นคืนพลังของตัวเองมาจากมิคาเอลได้

และในตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะขโมยพลังของมิคาเอลด้วยเช่นกัน

[ได้ยังไงกัน นาย… ได้ยังไง…!]
[พวกนายทั้งห้าคนก็ยังไม่อาจจะเอาชนะฉันได้ มันก็เพราะว่านายถูกผูกมัดไว้กับฉัน นาย ลูซิเฟอร์ แล้วก็กาเบรียลด้วย ลูซิเฟอร์ได้กลับมายอมจำนนต่อฉันอีกครั้ง กาเบรียลก็ได้จากไปแล้วเพราะงั้นเหลือนายแค่คนเดียวแล้ว แต่น่าเสียดายนะที่ฉันไม่ได้คิดจะปล่อยให้นายรอด ฉันต้องการพลังของนาย เพราะงั้นส่งมอบพลังมาให้ฉัน]
[ได้ยังไง นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน!]
[เจ้าเด็กน้อย เด็กที่ไร้เดียงสา ฉันจะถามอะไรนายซักอย่างนึงแล้วกันนะ]

พระเจ้าได้ชี้ไปที่จุดๆหนึ่ง ตรงนั้นก็คือกำแพงแห่งความโกลาหลที่แบ่งแยกเอลโลคาทร่ากับสวรรค์ เป็นกำแพงสุดท้ายที่ขวางกั้นสวรรค์จากผ๔เล้า

[ใครเป็นคนตั้งกำแพงนั่นกัน?]
[ใคร? หมายความว่ายังไง? แน่สิว่าคนที่ติดตั้งกำแพงไว้…]

กำแพงถูกติดตั้งโดย… ใครกันล่ะ? กำแพงนี้ได้ถูกสร้างในช่วงตอนจบมหาสงครามและกองทัพปีศาจวิบัติก็ไม่ได้บุกมาอีกเลย เพราะแบบนั้นสงครามก็เลยได้หยุดลงและ…. แต่ว่าใครกันล่ะ?

มิคาเอลยังไม่อาจจะหาคำตอบได้ พระเจ้าได้ยิ้มขึ้นและให้คำตอบออกมา

[เป็นฉันเอง]
[ได้ยังไงกัน นายทำมันได้ยังไงกัน!]
[คิดดูสิว่าทำไมเอลโลคาทร่าถึงได้มาอยู่ถัดจากสวรรค์ล่ะ?]

นัยน์ตาพระเจ้าได้เต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ ในเวลาเดียวกันนี้พลังของมิคาเอลก็ค่อยๆถูกดึงออกไปทีล่ะนิด แต่ว่าด้วยระดับพลังของเขาแล้วนี่มันจึงไม่ใช่ต่ำๆและจะถูกจัดการได้ง่าย

แม้ว่าเดิมทีมันจะเป็นพลังจากพระเจ้าก็ตาม แต่ว่ามิคาเอลคือผู้ที่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองเหมือนกับซาตาน เขาจะไม่ล้มลงแค่เพราะเสียพลังของพระเจ้าไป…!

[นั่นมันเพราะนายใช้พลังของนายในฐานะนักล่า…!]
[ผิดแล้ว นายพูดผิด มันก็เพราะว่าทั้งสองโลกเป็นของฉัน เอลโลคาทร่าเป็นเพียงแค่โลกในจิตนการที่ฉันได้ทำขึ้นมา ทั้งสองโลกเป็นชิ้นส่วนของศัตรู พวกมันคือหนึ่งเดียวกัน]

มิคาเอลได้กัดฟันแน่น เขาไม่อาจจะซ่อนความโกรธที่ได้รู้ว่าเขาถูกทำเป็นเหมือนไอ้โง่ตั้งแต่เริ่มได้เลย

[แต่ถึงแบบนั้นฉันก็เป็นพระเจ้าแล้ว! นายต่างหากที่ผิด ฉันคือคนที่ถูก! พ่อของฉัน ฉันไม่คิดว่านายคือพ่อของฉันอีกต่อไปแล้ว! ฉันจะไม่มีทางปฏิบัติตัวกับนายเหมือนเป็นลูกของนาย ฉันจะไม่คุกเข่าต่อหน้านาย และฉันจะไม่หวังอะไรจากนายอีก!]
[ใช่แล้ว นายพูดถูกนั่นแหละ ฉันคือฝ่ายผิด แต่ยังไงก็ตามมันก็ไม่ได้หมายความว่านายถูกซักหน่อย พวกเราผิดกันทั้งคู่นั่นแหละ]

ริมฝีปากพระเจ้าได้บิดเบี้ยวขึ้นมา ภายในปากของเขาไม่ว่าใครต่างก็เห็นเป็นความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด

[มานาคือสิ่งที่ผิด ฉันไม่ควรจะไว้ใจมานา ฉันควรที่จะเลือกเดินไปในเส้นทางที่แตกต่างตั้งแต่แรกแล้ว ฉันน่าจะได้รับอย่างอื่นมาแล้วน่าจะได้สร้างมากกว่านี้… การสร้าง ในที่สุดฉันก็รู้ถึงความผิดพลาดของฉันแล้ว เพราะแบบนั้นฉันก็เลยตั้งใจจะแก้ไขมัน ฉันจะลบทุกๆอย่างที่นทำพลาดไปและสร้างใหม่ให้มันถูกต้อง!]
[นั่นมันเป็นไปไม่ได้!]
[มันเป็นไปได้!]

พระเจ้าได้กางแขนกว้างออกมา สายฟ้าที่แหลมคมของมิคาเอลได้พยายามที่จะทะลวงผ่านร่างกายของเขาไป แต่ว่ากระแสของการต่อสู้ไม่อาจจะเปลื่ยนกลับไปได้อย่างง่ายดาย

[ใช่แล้วลูกของฉัน! เมื่อตอนที่ฉันถูกดึงพลังไปฉันคิดว่าทุกอย่างมันจบลงแล้ว แต่ยังไงก็ตามมันน่าขำที่นายได้มอบความหวังให้กับฉัน! พลังที่นายได้มอบให้กับฉันมาเพื่อแลกกับพลังศักดิ์สิทธิ์ของฉัน! พลังแห่งการขโมย! เพราะแบบนั้นฉันก็เลยได้มาก้าวข้ามบันทึกอีกครั้งหนึ่ง!]

เขาได้กลืนกินทุกๆอย่างที่มองเห็น พลังแห่งการขโมยที่แต่เดิมมาจากมิคาเอลได้พัฒนาขึ้นต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเพราะความตั้งใจที่ชั่วร้ายของเขา

เขาได้รวบรวมบันทึกทั้งหมด และใฝ่ฝันที่จะสร้างบันทึกใหม่ขึ้นมาด้วยพลังนี้ เขาตั้งใจที่จะเข้าใจถึงบันทึกนภาทั้งหมดและใฝ่ฝันที่จะปรับปรุงบันทึกนภา

[และฉันได้พลังของฉันคืนกลับมาแล้ว! ฉันได้พบกับเส้นทางใหม่! ฉันไม่ได้จะรวบรวมพวกคนที่มีความตั้งใจจะทรยศแบบนั้น แต่ฉันได้เลือกมอนสเตอร์ที่มีแต่เป้าหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น! ฉันต้องใช้เวลาอย่างยาวนานในการล่วงจากยศฐาบรรดาศักดิ์และอำนาจมาอยู่ในตำแหน่งที่ต้องอยู่ร่วมกับเจ้าพวกหนอนแมลงพวกนี้! มิคาเอลนายลองจินตนาการถึงความน่าหดหู่สิ้นหวังที่ฉันรู้สึกดูสิ! ความรู้สึกที่ฉันต้องปลอบพวกมอนสเตอร์ชั้นต่ำที่ชื่นชมในร่างมหึมาของฉัน! นายเข้าใจบ้างไหม!?]
[นั่นมันไม่ใช่ธุระอะไรของฉัน! ฉันไม่สนและไม่คิดจะสนด้วย นายมันก็แค่มอนสเตอร์สารเลว!]

แสงสว่างของมิคาเอลได้สว่างมากยิ่งขึ้น พลังของเขาไม่มีที่สิ้นสุด! เนื่องจากพลังของเขาถูกพระเจ้าขโมยไป มิคาเอลถึงได้เริ่มได้รับควมเข้าใจในขอบเขตพลังเฉพาะตัวของเขาเอง

เนื่องจากพระเจ้าได้เอาพลังของพระเจ้าคืนไปแล้ว มิคาเอลจึงเหลือเพียงแสงสว่างเท่านั้น แสงสว่างที่เขาปรารถนามาตลอดชีวิตยังคงอยู่กับเขา มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่ามันยังคงส่องสว่างเข้าโจมตีพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง ไม่สำคัญว่ามันจะถูกกลืนกินเท่านั้น แต่มันก็ยังคงใช้แสงสว่างเผาไหม้ต่อไป!

[ฉันคือพระเจ้า! นายมันก็แค่อดีตพระเจ้าเท่านั้น บันทึกที่ไม่อาจจะกลับมาโดดเด่น ดวงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าไปแล้ว!]
[ฉันไม่ใช่อดีตแต่เป็นอนาคต สิ่งที่นายกำลังไขว่คว้ามันคือภาพลวงตา และสิ่งที่ฉันจะได้รับคือการสร้างที่แท้จริง!]

ร่างกายพระเจ้าได้ยืดขยายออกไป มิคาเอลได้แกร่งขึ้น พระเจ้าก็แกร่งขึ้นเช่นกัน จากนั้นกระแสการต่อสู้ก็ได้พลิกกลับอีกครั้ง พระเจ้าได้กดดันมิคาเอลอีกครั้งหนึ่ง

[ยุคสมัยแห่งความอัปยศได้จบสิ้นแล้ว ฉันได้อดทนมาอย่างยาวนานแล้วเพื่อเพิ่มพลังแล้ว อารวาด ลบล้าง และป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกพบ หลบซ่อนอยู่แต่ในมุมมืด ในกาลเวลายาวนานที่ฉันได้เฝ้าคอย ลูซิเฟอร์ได้เข้าใจฉัน มาหาฉันและฉันได้รับในสิ่งที่ฉันเสียไปคืนมาแล้ว เพราะงั้นตอนนี้ฉันไม่ต้องการกำแพงนั่นอีกแล้ว]

ในระหว่างที่มิคาเอลกำลังจะโต้กลับไ เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่มีขนาดใหญ่มากๆกำลังพังลงมา เขารู้ได้โดยสัญชาตญาณว่ามันคืออะไรและหันหน้าไปมอง

กำแพงแห่งความโกลาหลที่แบ่งแยกสวรรค์กับเอลโลคาทร่ากำลังพังทลายลง เส้นกั้นระหว่างสองโลกได้หายไปแล้ว ทั้งสองโลกกำลังผสานกันโดยไร้ซึ่งความกลมเกลียว โลกทั้งสองใบต่างก็ปะทะกันโดยมีแต่ความโกลาหลเหลือทิ้งเอาไว้

แต่ถึงแบบนั้นโลกทั้งสองใบก็ได้กลายเป็นหนึ่ง พระเจ้าในอดีตและพระเจ้าในปัจจุบันต่างก็ไม่ยอมรับในกันและกันแต่ว่าก็ยังรวมเข้าด้วยกันอยู่

พลังในร่างมิคาเอลได้ถูกดูดออกไป นี่มันเพราะโลกที่เขาครอบครองพังทลายงั้นหรอ?

ไม่ พลังเวทย์ของเขากำลังลดลง เขารู้สึกได้ว่าระดับชั้นของวิญญาณของเขากำลังลดต่ำลง

[นี่มันอะไร…]
[สวรรค์กับเอลโลคาทร่าคือหนึ่งเดียวและเหมือนกัน พวกมันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่กไม่นานก็จะหายไป แต่ว่ามันก็เป็นวัตถุที่เหมาะสมที่จะทำลายนาย เพราะงั้นลูกของฉัน…. รู้สึกยังไงบ้างล่ะ? ตอนนี้เหลือนายอยู่เพียงลำพังแล้วนะ]

พลังของพระเจ้าได้ทรงพลังยิ่งขึ้น เนื่องจากสวรรค์กับเอลโลคาทร่าได้รวมเป็นหนึ่งแล้วทำให้พลังที่ถูกดึงออกมาจากมิคาเอลได้ไหลเข้าไปในตัวพระเจ้า ในที่สุดมิคาเอลก็รู้แล้วว่าทำไมพระเจ้าถึงได้ลืมฟื้นฟูพลังของเขา

[แล้วทูตสวรรค์ที่อยู่กับนายไปไหนแล้วล่ะ? คนที่ติดตามนายล่ะ? โลกภายใต้การจัดการของนายไปอยู่ไหนแล้วล่ะ? แหล่งพลังที่ทำให้นายแข็งแกร่งไปไหนแล้ว?]
[ฉัน… ฉันคือแสงสว่าง ฉันคือผู้สมบูรณ์แบบและส่องสว่าง ฉันไม่ต้องการสถานที่ที่เรียกว่าบ้าน!]
[ในขอบเขตพลังที่นายเชื่อว่ามันสมบูรณ์แบบนี้น่ะมีหลายต่อหลายคนได้มาถึงระดับนี้]
[อะไรนะ]

[บะ บันทึกเทพเจ้า… ของพวกนั้นมันก็แค่บันทึก! บวกมันก็เป็นแค่การรวมตัวของบันทึก มันไม่ใช่ของจริง!]
[ใครเป็นคนที่บอกนายแบบนั้นกันล่ะ?]
[นาย! ก็เป็นนายไงล่ะ จะเป็นใครได้อีก!]
[ใช่แล้ว ฉันเป็นคนบอกแบบนั้นเอง แต่ก็นะเจ้าหนู ฉันจะแก้ไขมันให้ถูกเอง]

[นั่นมันคือเรื่องโกหก]
[อะไรนะ…]
[คำนั่นก็แค่คำดูถูกและความหยิ่งยโสที่มีต่อเจ้าพวกนั้นของฉันเท่านั้นแหละ พวกนั้นไม่ใช่ ‘บันทึกเทพเจ้า’ จริงๆพวกนั้นแต่เดิมก็มาจากบันทึกแต่ก็ได้ก้าวข้ามบันทึกไปแล้ว ฉันคาดเดาเอาไว้ว่าคำตอบของสิ่งที่ก้าวข้ามมานาไปจนอยู่ภายในพวกมัน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันจับพวกมันเอาไว้ เพราะพวกมันเป็นตัวตนที่ไม่ได้ถูกผูกมัดด้วยบันทึก ฉันได้พยายามที่จะจับในสิ่งที่ไม่ใช่บันทึก ฉันได้เอาพวกมันทั้งหมดไปใส่ไว้ในโลกใบนี้และกักขังเอาไว้ที่นั่น]
[นี่นายกำลังพูดอะไร…]
[นี่นายยังนึกภาพไม่ออกอีกงั้นหรอ? ช่างโง่เง่าสิ้นดี ฉันพยายามที่จะสร้างที่เก็บบันทึกแห่งใหม่สำหรับจักรวาลนี้ขึ้นมา ฉันหวังที่จะกลายเป็นผู้สร้างและจัดการดูแลจักรวาลนี้]

[และจากนั้นฉันก็จะรวมกับนายอีกครั้ง ในตอนนี้ฉันจะกลืนกินนายและกลืนกินยูอิลฮานด้วยเช่นกัน มันจะสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม ฉันจะสร้างโลกใหม่ขึ้นมาและตั้งค่าให้มันถูกต้อง]
[นายกำลังดูถูกในพลังของฉัน… สิ่งมีชีวิตพวกนั้นคือความผิดพลาด นายทำได้แต่โอ้อวดถึงพลังที่นายขโมยไปจากฉันได้และดูถูกฉันที่ปรารถนาในสิ่งที่ไม่ใช่ของฉัน….]

[ลูกชายของฉันกำลังจะไปไหนล่ะ]
[อั๊ก!?]

[ช่างโง่เขลาและอับโชค นายไม่มีแม้แต่เปอร์เซ็นเดียวเลยที่จะเอาชนะฉัน]
“อะไรกัน….”
[ฉันบอกไปแล้วนี้ นายถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง]

[ไม่มีที่ให้นายไปหรอกนะ]
[อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!]

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี