ตอนที่ 1005 ทุกคนเป็นหัวกะทิ (1)
เฉินจื้ออวี่ก้าวไปข้างหน้า
เสียงพูดคุยในพื้นที่รอผลยังคงดังต่อเนื่อง
หลายคนยังคงถกเถียงกันถึงผลงานที่เหนือความคาดหมายของซย่าฝาน
เมื่อก้าวขึ้นไปบนเวที เฉินจื้ออวี่กวาดตามองไปข้างหน้า แม้คณะกรรมการจะไม่ได้ส่งเสียงดังเหมือนผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ แต่พวกเขาก็ยังกระซิบพูดคุยกันเป็นระยะ
เห็นได้ชัด
ว่าเขาไม่ได้รับความสนใจมากนัก
ถ้าหากเป็นเฟ่ยหยางหรือผู้เข้าแข่งขันตัวเต็งคนอื่นที่ขึ้นเวทีตอนนี้ ไม่เพียงแค่พื้นที่รอผลจะเงียบลงทันที แม้แต่คณะกรรมการเองก็คงจะให้ความสนใจมากกว่านี้
ความคิดนี้ทำให้เฉินจื้ออวี่รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย
แต่ในตอนนั้นเอง
เขาเห็นหลินเยวียน
อาจารย์เซี่ยนอวี๋ยังคงมีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า สายตาที่มองมานั้นแลดูคล้ายกับกำลังส่งแรงใจให้เขา ชวนให้เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ในชั่วพริบตา
เฉินจื้ออวี่ก็รู้สึกโล่งขึ้น ความรู้สึกขุ่นมัวหายไปหมดสิ้น!
เขาหยิบไมโครโฟนขึ้นมา และพูดประโยคที่ต่อมาถูกผู้คนนำมาล้อเลียนนับครั้งไม่ถ้วน
“สวัสดีครับคณะกรรมการ ผมคือเฉินจื้ออวี่ นักร้องที่อ่อนที่สุดของราชวงศ์ปลา”
อุก!
การแนะนำตัวแบบไม่เหมือนใครนี้ ทำให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมาทันที
“ฮ่าๆ !”
“ทำไมสมญานามของเฉินจื้ออวี่ถึงชัดเจนขนาดนี้ทุกครั้งเลย”
“ก่อนเข้าร่วมราชวงศ์ปลา เขาคือลูกคนรองตลอดกาล หลังจากเข้ามาในราชวงศ์ปลา เขาก็กลายเป็นนักร้องที่อ่อนที่สุดของราชวงศ์ปลา”
“ประเด็นคือ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นนักร้องที่อ่อนที่สุดของราชวงศ์ปลาจริงๆ นะ!”
“ก็ใครจะไปคิดว่าซย่าฝานที่เคยอ่อนที่สุด อยู่ดีๆ จะฉีกคราบลูกแกะโชว์พลังของราชินีเพลงออกมาล่ะ!”
“คำว่านักร้องที่อ่อนที่สุดของราชวงศ์ปลา นี่ฟังแล้วเจ็บกว่าคำว่าลูกคนรองตลอดกาลอีกนะ ทั้งที่จริงๆ แล้วเฉินจื้ออวี่ก็ไม่ได้อ่อนเลย”
“ถ้าเปรียบเทียบเฉพาะราชวงศ์ปลาแล้วน่ะ เขาก็ยังถือว่าด้อยกว่าอยู่สักหน่อย”
“อย่าเพิ่งฟันธงนะ ซย่าฝานยังพลิกเกมได้เลย บางทีเฉินจื้ออวี่อาจจะทำให้เราตกตะลึงได้เหมือนกันก็ได้”
“ไปเถอะ เลิกเพ้อฝัน”
ถ้าหากเฉินจื้ออวี่ก็สามารถสร้างความตกตะลึงได้เหมือนซย่าฝาน งั้นราชวงศ์ปลาก็น่ากลัวเกินไปแล้ว
ฝั่งของคณะกรรมการเอง มีบางคนที่หัวเราะเบาๆ แต่ไม่มีใครหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาถกเถียง ระดับของเฉินจื้ออวี่ไม่ได้ถือว่าแย่ เพียงแต่ศูนย์ฝึกแห่งนี้รวบรวมเหล่านักร้องที่แข็งแกร่งที่สุดของฉินโจวเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่หากมองในแง่คุณภาพเสียงร้อง ในที่นี้ไม่ว่าจะเป็นใคร เดินออกไปข้างนอกก็ล้วนว่ามีระดับที่สามารถเทียบชั้นนักร้องแถวหน้าได้ทั้งหมด
“เริ่มได้”
เสียงของหลินเยวียนดังขึ้น
ทันทีที่เสียงพูดจบลง ทำนองเพลงก็ดังขึ้นมา
เพลงที่เฉินจื้ออวี่เลือกใช้ในการทดสอบคือ…เพลงรัตติกาลบทที่เจ็ด!
เพลงนี้ไม่นับว่าง่าย!
สไตล์การร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของเซี่ยนอวี๋นั้น เป็นสิ่งที่นักร้องหลายคนในวงการเพลงรับมือไม่ไหว
ใช่แล้ว
นักร้องมืออาชีพสามารถร้องเพลงนี้ตามทำนองได้ก็จริง แต่เพราะโทนเสียงที่แตกต่างจากเซี่ยนอวี๋ซึ่งเป็นต้นฉบับ ทำให้เสน่ห์ของเพลงไม่เหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม
เมื่อเฉินจื้ออวี่เริ่มร้อง โดยเฉพาะท่อนแรกที่เป็นการแร็ป บรรยากาศในห้องพลันเปลี่ยนไป หัวใจของใครหลายคนก็พลันสะดุดไปเสี้ยววินาที ราวกับจังหวะเต้นขาดหายไปชั่วขณะ!
โทนเสียงที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่!
จังหวะการแร็ปที่ไหลลื่นและเป็นธรรมชาติ!
ไม่ใช่เสียงสวรรค์ที่ทำให้ขนลุกตั้งแต่แรกฟัง แต่เป็นเสียงที่ดึงดูดผู้ฟังเข้าไปในเพลงและตอบสนองต่อทำนองของเพลงอย่างน่าประหลาด
“เขาผลักประตูออก สายลมยามค่ำคืนพัดไหวตะเกียงน้ำมัน
เครื่องพิมพ์ดีดหยุดลงที่ชื่อของฆาตกร ฉันหันกลับไป
ท้องฟ้ายามค่ำของเวสต์มินสเตอร์
เริ่มเปลี่ยนผัน…
หากความชั่วคือบทเพลงอันเหี้ยมโหดและงดงาม
มือของฉันจะลิขิตฉากอวสาน
อรุณรุ่งทอแสงขจัดบรรทัดสุดท้ายแห่งความเศร้าทราม
หมึกดำย้อมสีความเงียบงัน…”
ไม่ใช่แค่การแร็ปที่ลื่นไหลไร้ที่ติ!
แต่แม้กระทั่งท่วงทำนองในท่อนคอรัส เฉินจื้ออวี่ก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างประณีต!
ราวกับว่าเนื้อเรื่องของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า!
นี่คือเฉินจื้ออวี่ได้รับฉายานามว่าลูกคนรองตลอดกาลคนนั้นจริงหรือ!
นี่คือนักร้องที่อ่อนที่สุดในราชวงศ์ปลาจริงหรือ!?
ท่ามกลางเสียงร้องที่ก้องกังวานไปทั่วทั้งห้องทดสอบ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป!
…


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...