เข้าสู่ระบบผ่าน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 1042

ตอนที่ 1042 การแสดงเดี่ยว (1)

ผู้บรรยายทั้งสองของจงโจวถึงกับตาเขียวปั้ด!

ในหน้าจอถ่ายทอดสดแฟนๆ ก็ระเบิดความโกลาหลในทันที!

‘ให้ตายเถอะ!’

‘ทำไมเป็นปลาตัวนี้อีกแล้วฟระ!?’

‘ตามหลอกตามหลอนไม่เลิก ไม่ว่าไปที่ไหนก็เจอ!’

‘ก่อนหน้านี้ผู้บรรยายยังบอกอยู่เลยว่า เซี่ยนอวี๋แต่งได้แต่เพลงเปียโน แถมแต่งมาได้ไม่กี่เพลงด้วยซ้ำ!’

‘แล้วซอเอ้อร์หูที่ระเบิดสนามไปเมื่อวานล่ะ!?’

‘ตอนนี้ยังมีเพลงขลุ่ยมาอีกคืออะไร!?’

‘คำพูดของผู้บรรยายเหมือนลมตดเลยไหมล่ะ พวกเราถูกเซี่ยนอวี๋ตบหน้าไปกี่รอบแล้วตั้งแต่เริ่มงาน นอกจากเพลงพ็อปแล้ว ปลาตัวนี้เล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่างเลยนะ!’

‘แต่สิ่งที่ตลกที่สุดคือชื่อเพลงไม่ใช่หรือไง?’

‘บ้านเกิด?’

‘ทิวทัศน์?’

‘จะบอกว่าเหมือนกันเฉยๆ ก็ไม่ได้ ต้องบอกว่าเหมือนกันเป๊ะๆ เลยต่างหาก!’

‘อาจารย์อีเถิงเฉิงครับ ได้โปรดได้โปรดพาจงโจวของพวกเราล้างแค้นให้สำเร็จด้วยเถอะ!’

ล้างแค้น!

ต้องล้างแค้นให้ได้!

ถ้าเป็นหมวดหมู่เพลงร้อง การที่ธีมเพลงชนกันนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ทั้งธีมความรักอะไรทำนองนั้นเป็นเรื่องปกติ

อย่างเช่นการแข่งขันเพลงพ็อป

บทเพลงส่วนใหญ่ล้วนเป็นเพลงธีมความรัก

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มการแข่งขันหมวดเครื่องดนตรี การที่เพลงมีธีมเหมือนกันนั้นถือว่าเกิดขึ้นได้ยากอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกรณีที่เพลงสองเพลงที่เข้ารอบชิงกลับเลือกใช้เครื่องดนตรีเดียวกันคือขลุ่ยบลูสตาร์ แถมชื่อเพลงยังเหมือนกันราวกับออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันอีก!

บังเอิญเกินไป!

นี่คือความบังเอิญครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นบนเวทีมหกรรมดนตรีบลูสตาร์ และคนที่อยู่เบื้องหลังความบังเอิญครั้งนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเซี่ยนอวี๋ ผู้ที่เพิ่งอวดพรสวรรค์ด้านการประพันธ์บทเพลงบรรเลงซอเอ้อร์หูในช่วงสองวันที่ผ่านมาอีกด้วย!

ภายใต้ฉากหลังที่แตกต่างกัน

สองบทเพลงกลับกลายเป็นการปะทะที่แฝงด้วยนัยยะอันละเอียดอ่อน!

ความคิดเกี่ยวกับการล้างแค้น ได้กลายเป็นสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในสมองของผู้ชมชาวจงโจวแทบทุกคน!

สำหรับผู้ชมชาวจงโจวแล้ว ทุกครั้งที่ได้เผชิญหน้ากับเซี่ยนอวี๋คือสงครามเพื่อล้างแค้น!

ถึงแม้จงโจวจะคว้าเหรียญทองมาได้มากมายแค่ไหน แต่กลับไม่เคยจัดการกับเจ้าปลาตัวนี้ได้สักที จนกลายเป็นปมในใจของชาวจงโจวจำนวนมหาศาล!

และทางเดียวที่จะรักษาโรคนี้ได้ คือการโค่นเซี่ยนอวี๋ให้ได้เท่านั้น!

ถึงขั้นที่มีชาวจงโจวบางคน เริ่มภาวนาอยู่ในใจแล้วด้วยซ้ำ

บนเวที

ลู่เหยียนอันตัวแทนจากฉินโจวยกขลุ่ยบลูสตาร์ขึ้นอย่างแน่วแน่

เสียงของขลุ่ยบลูสตาร์นั้นคล้ายกับขลุ่ยเซรามิกของโลก แต่มีพลังในการถ่ายทอดอารมณ์ที่แข็งแรงกว่า และสามารถข้ามช่วงเสียงได้มากกว่า

ท่ามกลางสีหน้าประหลาดใจของผู้ชม

เสียงสายน้ำไหลเอื่อยๆ ก็ดังขึ้นมา

ราวกับมาจากป่าลึกอันเงียบสงัด

นี่คือท่อนนำของบทเพลง ใช้เป็นพื้นหลังเพื่อปูบรรยากาศของบทเพลง

การแข่งขันประเภทเดี่ยวเครื่องดนตรีแม้จะมีการจำกัดสัดส่วนของเสียงประกอบอยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถจำกัดได้ทั้งหมด เพราะหากไม่มีเสียงคลอประกอบเลย ความสามารถในการแสดงอารมณ์ของเครื่องดนตรีเดี่ยวก็จะไม่เพียงพอ และอาจทำให้ความสมบูรณ์ของบทเพลงเสียไป กฎเกณฑ์นี้ถือว่ามีความยืดหยุ่นและเป็นธรรม เพราะแม้แต่การแข่งร้องเพลงเอง ก็ยังต้องมีดนตรีประกอบ ไม่ใช่ร้องเปล่าๆ ได้ทั้งหมด ต้องมีดนตรีหรือการเรียบเรียงเสียงดนตรีมาช่วยเสริม

เสียงสายน้ำไหลสะท้อนก้องอยู่ในหุบเขาอันกว้างใหญ่

สองเสียงนั้นดูราวกับกำลังขานรับกันอยู่จากที่ไกล

เสียงเบสต่ำดังกระแทกเข้ากับทุกจังหวะแรกที่หนักหน่วง ราวกับกำลังสลายม่านหมอกแห่งความสับสน

เสียงขลุ่ยบลูสตาร์ดังกังวานขึ้นมา

ทุกอย่างสอดประสานและเป็นธรรมชาติ

ธรรมชาติเสียจนผู้ฟังรู้สึกถึงความผ่อนคลายลึกซึ้งทั้งร่างกายและจิตใจ

ในชั่วขณะนั้นเอง

สีหน้าของทุกคนพลันเปลี่ยนไป

และเพียงเสี้ยววินาทีของการเปลี่ยนแปลงนั้นเอง เสียงขลุ่ยบลูสตาร์คล้ายกับกำลังแทรกซึมลึกเข้าไปในจิตใจของทุกคน คล้ายกับท่วงทำนองจากสรวงสวรรค์ที่ได้ยินในวัยเยาว์

บางคนหลับตาลงอย่างแผ่วเบา

ราวกับทุกคนได้ก้าวเข้าสู่ความฝันที่ทั้งแปลกใหม่และคุ้นเคย ห้วงความคิดล่องลอยไปตามเสียงเพลงนั้นอย่างไม่รู้ตัว

นั่นคือส่วนลึกของความทรงจำใช่หรือ?

ประหนึ่งลมภูเขาเย็นชื่นใจพัดมาแตะต้องใบหน้าอย่างแผ่วเบา

ใต้ท้องฟ้าสีคราม มีร่องรอยบินผ่านของนกน้อยทอดยาว

ป่าไผ่เอนไหวอย่างอ่อนโยนตามจังหวะลม

ท่ามกลางสีเขียวขจีตระการตา อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมไอดินและพรรณไม้งาม

ทฤษฎีดนตรีที่ยิ่งใหญ่ย่อมเรียบง่ายไม่เคยล้าสมัย เสียงประสานของบันไดเสียงห้าระดับดั้งเดิม ดูเหมือนจะสอดคล้องกับโสตประสาทของมนุษย์ทุกคนอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับต้องการปลุกภาพบางอย่างที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกของหัวใจให้ฟื้นตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

เสียงเพลงทอดยาวเอื่อยเฉื่อย

บางครั้งแว่วคล้ายสายลมกรีดร้องเหนือภูผาสูง

บางครั้งคล้ายเสียงสะท้อนเบาๆ จากหุบเหวลึก

เมฆขาวบนฟากฟ้า ลอยเรียงทอดตัวเป็นสายอย่างอ้อยอิ่ง

ควันไฟจากปล่องครัวเรือนลอยขึ้นเบาบาง

ผู้คนราวกับถูกนำพากลับไปยังบ้านเกิดของตนเองอีกครั้ง

ย้อนสู่วัยเยาว์อันแสนไร้เดียงสาและสดใส นาข้าวเขียวชอุ่มพลิ้วไหวกลางแสงแดด และเสียงกบร้องระงมจากท้องทุ่ง ยังคงคุ้นเคยดังเดิม

เด็กๆ วิ่งเล่นเท้าเปล่าในผืนนา

ปล่อยให้โคลนตมสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนใบหน้า ท่ามกลางเสียงจักจั่นร้องเซ็งแซ่ใต้ร่มเงาไม้

ใต้ต้นไม้ใหญ่

สายน้ำใสเย็นไหลเอื่อยอย่างเงียบสงบ ราวกับไหลเรื่อยไปถึงดินแดนอันไกลโพ้น

แสงแดดที่ส่องลอดผ่านใบไม้ตกกระทบเป็นลวดลาย ละอองแสงดั่งหมู่ดาวแต่งแต้มอยู่บนเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนของเด็กน้อย

เสียงเพลงแผ่วเบา งดงาม และอ่อนโยน

และแฝงเร้นไปด้วยความเศร้าสร้อย

เดินไป เดินไป ก็เติบโตขึ้น

เดินไป เดินไป ก็ไกลออกไป

ในความรู้สึกนี้ มีความหมายแท้ซ่อนอยู่ แต่ยิ่งพยายามอธิบายก็ยิ่งไม่อาจเอื้อนเอ่ยเป็นถ้อยคำได้

เพียงแค่เมื่อหันกลับไปมอง ก็ยังพอเห็นภาพทิวทัศน์ของบ้านเกิดเลือนราง

แรงกดดันจากชีวิตประหนึ่งได้ปลดเปลื้องลง ในป่าคอนกรีตของมหานครอันกว้างใหญ่ ผู้คนที่เคยชินกับการสวมหน้ากาก ก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้งบนใบหน้า

ขุนเขาสูงชัน สายน้ำรินไหล

เสียงจิ้งหรีดเรไรและกบขับขาน

ลานหน้าหมู่บ้านอันเงียบสงบ

บ้านเกิดเช่นนี้อาจไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทุกคน แต่กลับเป็นสิ่งที่ทุกคนเคยมีอยู่ในใจ เพราะนั่นคือถิ่นกำเนิดของหัวใจ

เสียงของขลุ่ยบลูสตาร์พุ่งสูงขึ้นอีกหนึ่งอ็อกเทฟในฉับพลัน

เสียงของเครื่องสายและเครื่องกระทบก็ดังขึ้นอย่างทรงพลังในชั่วขณะเดียวกัน

อารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมราวกับโบยบินไปพร้อมกับท้องนภาและเมฆขาว

ตอนที่ 1042 การแสดงเดี่ยว (1) 1

ตอนที่ 1042 การแสดงเดี่ยว (1) 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน