ตอนที่ 1061 โซนาตาแสงจันทร์ (1)
ห้องถ่ายทอดสดของจงโจว!
ผู้บรรยายลุกขึ้นยืนพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง!
แขกรับเชิญทั้งสองคนก็พลอยลุกตามขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม!
สายตาอันร้อนแรงจากผู้ชมจงโจว จับจ้องไปยังตัวเลขบนจอภาพขนาดใหญ่ หัวใจของทุกคนเต้นแรงดั่งเสียงฟ้าคำราม!
ทันใดนั้น
ชายผู้บรรยายที่ขึ้นชื่อว่าพ่นลางร้ายใส่ทีมของตนเองจนพังมาแล้วหลายรอบ ก็เผลอหลุดตะโกนออกมาสุดเสียงว่า
“พวกเราจะได้เปิดแชมเปญฉลองแล้ว…”
ผู้บรรยายอีกสามคนที่อยู่ข้างๆ รีบเอามือปิดปากเขาแทบไม่ทัน!
ผู้ชมตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น!
คอมเมนต์หลั่งไหลขึ้นรัวๆ จนหน้าจอแทบระเบิด
‘ทำได้ดีมาก!”
‘ฉันอยากจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว!’
‘ปล่อยให้หมอนี่พูดต่อไม่ได้เด็ดขาด เดี๋ยวก็ทำเสียเรื่องอีก!’
‘ทุกครั้งที่หมอนี่พูดอะไรผลลัพธ์จะตรงข้าม!’
‘จริงๆ จะให้เขาพูดก็ไม่เป็นไรหรอก ยังไงเราก็ชนะอยู่ดี!’
‘รอบนี้คือขี่มังกรเหาะชนหน้าศัตรูเลยนะ!’
‘เซี่ยนอวี๋จะเอาอะไรมาพลิกเกมล่ะ ราตรีบรรเลงเหรอ?’
‘คู่ต่อสู้เขาคืออบิเกลนะ!’
‘จะให้ใช้มุกเดิมแล้วชนะได้ทุกครั้งมันก็เกินไปหน่อย!’
‘มาเลย มาสนุกกันให้สุด!’
ผู้บรรยายทั้งสามคนหัวเราะกันเสียงดังก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือจากเพื่อนร่วมงานที่โดนปิดปากอยู่
ฝ่ายผู้บรรยายที่พ่นลางร้ายนั้นกำลังหอบหายใจเฮือกใหญ่รู้ตัวดีว่าปากของตนเองอาจจะทำให้เกิดอาถรรพ์ขึ้นมาจริงๆ ทันใดนั้นเขาก็พลิกวิกฤติเป็นโอกาส กลับมุกแบบด้นสดทันที
“คุณผู้ชมทุกท่านครับ!”
เขาตะโกนพลางโบกไม้โบกมืออย่างตื่นเต้น
“อย่าประมาทเซี่ยนอวี๋เชียวนะครับ เจ้าปีศาจคนนี้ เขาสร้างปาฏิหาริย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วบนเวที มหกรรมดนตรีบลูสตาร์ครั้งนี้ เหมือนเทพสงครามไม่มีผิด เขาจะทำได้อีกไหม จะสามารถพลิกชะตาในตอนจบให้ฉินโจวได้หรือไม่ จะมี การพลิกผันสุดขั้วให้เราได้เห็นอีกครั้งหรือไม่!?”
ฝั่งจงโจวพากันหัวเราะลั่นในทันใด!
หมอนี่ก็ใช่ย่อยแฮะ รู้ตัวว่าปากตัวเองชอบพ่นลางร้าย ก็เลยเล่นมุกกลับด้านในวันสุดท้ายซะเลยหันไปพ่นลางร้ายใส่เซี่ยนอวี๋แทน!
พลิกชะตาในตอนจบ
พลิกผันสุดขั้ว?
ถามหน่อยเถอะ จะพลิกยังไงจาก 98.5 คะแนน?
ถือไพ่ในมืออยู่สิบเจ็ดใบ จะวางไพ่สังหารอบิเกลได้ในตาเดียวหรือไง!?
ฝั่งฉันมีโจ๊กเกอร์สี่ใบ สองสี่ใบ เอซสี่ใบ คิงสี่ใบ ยังจะแพ้ได้อีกเรอะ!?
ถ้าอยากจะเสกอาถรรพ์ใส่อบิเกลก็เชิญตามสบาย!
แต่พวกเราเปิดแชมเปญฉลองกันตอนนี้ก็คงไม่เกินไปใช่ไหมล่ะ!?
ตื่นเต้น!
จงโจวตื่นเต้นสุดขีด!
ความตื่นเต้นในวินาทีนั้น แม้แต่ชัยชนะในตารางเหรียญทองรวมยังเทียบไม่ได้เลย!
เพราะสำหรับชาวจงโจว สิ่งที่ยากไม่ใช่การขึ้นอันดับหนึ่งในตารางเหรียญทอง เพราะแต่ไหนแต่ไรจงโจวก็เป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ยากคือการโค่นเซี่ยนอวี๋ต่างหาก!
มีผู้เข้าแข่งขันจากจงโจวกี่คนแล้ว ที่ถูกเซี่ยนอวี๋กดหัวกระแทกพื้น!
แม้แต่อบิเกลเองยังเคยพ่ายแพ้ในการแข่งขันเปียโนรายการหญิงเดี่ยว เพราะมีบทเพลงน้อยกว่าจนแทบ ไม่เหลือแม้แต่โอกาสได้หายใจ
การได้เอาชนะคู่ต่อสู้แบบนั้นต่างหากถึงจะเรียกว่าความสำเร็จที่แท้จริง!
สะใจชะมัด!
…
ห้องถ่ายทอดสดของฉินโจว
สีหน้าของเหล่าผู้บรรยายเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและจนใจ
มีเพียงลู่เซิ่งและเจิ้งจิงเท่านั้นที่ยังคงสีหน้าเรียบเฉย ราวกับบรรยากาศที่กดดันรอบตัว ไม่ได้ส่งผลต่อพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
แต่ในขณะที่เจิ้งจิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่างลู่เซิ่งก็หันไปมองเธอ ใช้สายตาปรามไว้โดยไม่พูดอะไรออกไป
ชัยชนะหลังความสิ้นหวังถึงจะเป็นสิ่งที่ผู้คนจดจำได้อย่างลึกซึ้ง
หัวใจของผู้คน
เขาเข้าใจดี และเขาต้องการให้หลินเยวียนกลายเป็นวีรบุรุษในหัวใจของชาวฉินโจวอย่างสมบูรณ์
‘จบแล้ว”
‘คะแนนสูงเกินไป’
‘อบิเกลนี่แหละ สมแล้วที่เป็นพ่อเพลงระดับสูง’
‘เสียดายที่พ่อเพลงหยางไม่ได้ลงแข่ง ไม่งั้นเราอาจยังมีหวัง’
‘ถ้าจำไม่ผิด กวงหลินเก่งกว่ามู่ซินใช่ไหม?’
‘ขนาดคะแนนของมู่ซินยังไม่ต่ำเลย งั้นกวงหลินต้องได้มากกว่านี้แน่!’
‘ไม่ไหวหรอก’
‘ต่อให้กวงหลินจะเก่งแค่ไหน แต่อีกฝ่ายน่ะได้ 98.5 คะแนนนะ’
‘พ่อเพลงอวี๋เหนื่อยแย่เลย’
‘ดูหนื่อยมากจริงๆ ’
‘อย่างน้อยเราก็ยังได้เหรียญทองมาแล้วหนึ่งเหรียญนี่นา’
ไม่มีผู้ชมคนใดกล่าวโทษเซี่ยนอวี๋
เพราะการให้เซี่ยนอวี๋ต้องสู้กับอบิเกลนั้น เป็นบททดสอบที่โหดร้ายเกินไป
แม้แต่เกรียนคีย์บอร์ดตัวเอ้ที่มักจะหาเรื่องตำหนิติเตียนยังเลือกจะเงียบ และยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ ไม่พูดอะไรรุนแรงออกมาในช่วงเวลาแบบนี้
…
เมื่อเทียบกับความดีใจและความกังวลของฉินโจวกับจงโจวผู้ชมจากทวีปอื่นๆ กลับไม่ได้รู้สึกอะไรซับซ้อนขนาดนั้น
ใครจะชนะหรือแพ้ พวกเขาไม่ใส่ใจเท่าไหร่
ยังไงผลลัพธ์ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเขาโดยตรงอยู่ดี
สิ่งที่พวกเขาสนใจมีเพียงอย่างเดียวคือดูแล้วสะใจหรือไม่!
และการโจมตีอย่างทรงพลังของอบิเกลในวันนี้ ก็เรียกได้ว่าสะใจอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้ชมจำนวนมากต่างดูจนรู้สึกสะใจ เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
‘มาดูกันผลงานของกวงหลินกัน’
‘แต่รู้สึกเหมือนไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วแฮะ’
‘คะแนนของอบิเกลนี่ทะลุฟ้าไปแล้ว’
‘แต่ยังไงซะนี่ก็คือการแข่งขันรอบสุดท้ายของงานบลูสตาร์นี่นาไม่ว่าจะแพ้หรือชนะอย่างน้อยขอดูให้จบก็ยังดี’
‘จะว่าไปพูดก็ถูกนะ’
‘ยังไงราตรีบรรเลงก็เพราะอยู่ดี’


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...