ตอนที่ 1072 โลกพเนจร
บรรยากาศในคอมเมนต์วันนี้เปลี่ยนไปจากเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง
ผู้อ่านเล่นอะไรแปลกๆ กันอีกแล้ว ไม่รู้ว่าอัจฉริยะคนไหนเป็นคนเริ่มก่อน พื้นที่แสดงความคิดเห็นก็มีกระแสใหม่โผล่มา
‘พวกเราถูกเจ้าแก่ฉู่ขวงต้มจนเปื่อยแล้ว!’
‘ก็ยอมรับแหละว่าผู้โศกศัลย์เขียนได้ดีมาก
แต่ระดับขององค์ประกอบไซไฟแบบนี้ ยังจะเรียกว่านิยายไซไฟได้อีกเหรอ?’
‘นั่นสิ!”
‘อย่างเก่งก็เรียกได้ว่าไซไฟสายอ่อนเท่านั้นแหละ!’
‘ไม่จริง ไม่จริงใช่ไหม ไซไฟสายอ่อนคืออะไร แบบนี้ก็เรียกไซไฟได้ด้วยเหรอ?’
‘ผมไม่สน พวกเราอยากอ่านไซไฟสายแข็งเท่านั้น!’
‘เดี๋ยวก่อนนะ ไซไฟสายอ่อนกับไซไฟสายแข็งต่างกันยังไง’
‘ไซไฟสายแข็งคือแนวที่สร้างขึ้นจากพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ดาราศาสตร์ จิตวิทยา แพทยศาสตร์ ส่วนไซไฟสายอ่อนคืองานแนวไซไฟที่เน้นประเด็นปรัชญา จิตวิทยา การเมือง หรือสังคมเป็นแกนหลัก’
‘เรื่องผู้โศกศัลย์นี่ชัดเลยว่าเป็นนิยายที่ใช้ความรักของแม่เป็นแกนหลัก!’
‘องค์ประกอบไซไฟในเรื่องก็แค่เครื่องประดับไม่ได้เป็นแก่นของเนื้อหาเลยด้วยซ้ำ!’
‘โอ๊ย เจ้าแก่ฉู่ขวง!’
‘ถ้าฉันขอไซไฟสายแข็ง คุณจะกล้ารับคำท้าไหมล่ะ!’
‘พวกเราอยากได้ไซไฟสายแข็ง เต็มไปด้วยจินตนาการสุดล้ำ ไม่ใช่แค่ไซไฟสายอ่อน แบบนี้มันต่างอะไรกับนิยายสั้นแนวเดียวกับเรื่องเฮ้ ออกมาสิกันล่ะ?’
‘เห็นว่าเจ้าแก่เคยเขียนโฉมงามประดิษฐ์มาก่อนด้วยไม่ใช่เหรอ?’
‘พูดตามหลักจริงๆ แล้ว ทั้งโฉมงามประดิษฐ์ ทั้งเฮ้ ออกมาสิ ก็ล้วนเป็นไซไฟสายอ่อนทั้งนั้น ไม่มีเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์ที่เข้มข้นหรือชัดเจนเลยสักนิด’
ต้องยอมรับว่า
บางคนในหมู่ผู้อ่านก็เข้าใจแนวไซไฟอย่างลึกซึ้ง
อย่างเรื่องเฮ้ ออกมาสิที่หลินเยวียนเคยเขียนไว้ ก็ถือว่าเข้าข่ายนิยายไซไฟเหมือนกัน แต่เพราะสั้นเกินไป จึงไม่มีองค์ประกอบแบบเข้มข้นให้เล่นมากนัก
รวมถึงเรื่องโฉมงามประดิษฐ์ก็เช่นกัน
นิยายแนวนี้แท้จริงแล้วเพียงแค่หยิบเปลือกของไซไฟมาใช้เท่านั้นเอง แต่เนื้อหากลับไม่ได้เป็นเรื่องราวที่มีองค์ประกอบของไซไฟมากมายปานนั้น จนทำให้หลายคนลืมไปเลยว่า ฉู่ขวงเคยเขียนนิยายที่มีองค์ประกอบไซไฟมาก่อนแล้ว!
ได้เลย!
อยากได้ไซไฟแบบเข้มข้นใช่ไหม
หลินเยวียนเริ่มรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาแล้ว
ไหนๆ จินมู่ก็เพิ่งเสนอให้เขาเขียนเรื่องสั้นเพิ่มเพื่อช่วยดันปริมาณการเข้าชมของบล็อก งั้นก็ถือโอกาสนี้เขียนไซไฟสายแข็งไปเลยสักเรื่องเลยดีกว่า!
แน่นอน
ก็ยังคงเป็นนิยายขนาดสั้น
เพราะเรื่องสั้นเขียนง่าย ไม่เปลืองแรง
ส่วนถ้าเป็นเรื่องยาวน่ะ
ไม่เหมาะจะลงในปู้ลั่วเท่าไหร่นัก ขาดทุนแน่นอน หลินเยวียนยังหวังจะนำนิยายยาวไปขายทำเงินอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น ในแง่ของประสบการณ์การอ่าน นิยายไซไฟแบบยาวก็เหมาะจะตีพิมพ์เป็นเล่มมากกว่า ให้ผู้อ่านซื้อกลับไปนอนอ่านสบายๆ ที่บ้านนั่นแหละถึงจะดีกว่า!
ไม่ต้องพูดมาก
เปิดคอมลุยเลย!
หลินเยวียนเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กบนโต๊ะทำงาน นิ้วเริ่มพิมพ์ลงบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว แววตาเปล่งประกายอย่างมุ่งมั่น
ออกมาเลย ต้าหลิว!
ในเมื่อจะเล่นก็ต้องเล่นให้สุด!
หลินเยวียนตัดสินใจจะเขียนผลงานของหลิวฉือซิน!
แน่นอนว่าไม่ใช่นิยายชุดสามกายอันโด่งดังของเขาอย่างแน่นอน แบบนั้นจะทำให้เกิดการเปรียบเทียบที่มากเกินไปอย่างไม่ยุติธรรม อย่าลืมว่านอกจากสามกายแล้ว หลิวฉือซินยังมีผลงานไซไฟขนาดสั้นและกลางอีกหลายเรื่องที่โด่งดังไม่แพ้กัน อย่างเช่นผลงานเรื่องหนึ่งซึ่งมีเชื่อว่า ‘โลกเพนจร’
ใช่แล้ว
นั่นคือเรื่อง ‘โลกเพนจร’
ผลงานเรื่องนี้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์จนโด่งดังไปทั่วโลก ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม และทำให้ทั่วโลกได้เห็นถึงการผงาดขึ้นของภาพยนตร์แนวไซไฟจากแดนมังกร!
ที่จริงแล้ว
นิยายต้นฉบับของหลิวฉือซินเอง ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้เวอร์ชันภาพยนตร์เลย บางคนถึงขั้นบอกว่านิยายเหนือกว่าด้วยซ้ำ!
แน่นอนว่า
เมื่อมาถึงบลูสตาร์แล้ว คงใช้ชื่อเรื่องว่าโลกหลงทางไปตรงๆ ไม่ได้ ซึ่งหลินเยวียนเองก็รู้สึกเสียดายไม่น้อย
อาจจะเปลี่ยนเป็น ‘ดาวเคราะห์เพนจร’?
หรือจะใช้ชื่อว่า ‘บลูสตาร์เพนจร’ ก็ได้?
สรุปแล้วผลงานเรื่องนี้ก็นับได้ว่าเป็นนิยายไซไฟสายแข็งที่อยู่ในใจของคนส่วนใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องนั้นทั้งล้ำลึกและน่าสนใจมากมาย
ยังดี…


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...