ตอนที่ 1182-3 คำวิจารณ์ถาโถม (3)
ศาสตราจารย์หวังถอนหายใจด้วยสีหน้าเวทนา
นักศึกษาในห้องก็ถึงกับพูดไม่ออก
เพราะแม้แต่คนที่น่าชัง ก็ย่อมมีบางด้านที่น่าสงสาร
มู่หรงฟู่เกิดมาเป็นหลานของจักรพรรดิแคว้นต้าเยี่ยน
ตั้งแต่เด็กก็ถูกสอนให้มีเป้าหมายในชีวิตคือฟื้นฟูแคว้น เพื่อสละตนเพื่อบ้านเมือง
ทว่าการจะฟื้นฟูแคว้นหนึ่งขึ้นมาได้นั้น ใช่เรื่องที่จะทำสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียวหรือ?
ดังนั้น หลังจากที่วิ่งวุ่นมาทั้งชีวิต เป้าหมายของเขาก็ยังคงเป็นเพียงภาพลวงตาที่อยู่ไกลเกินเอื้อม แม้จะมีลูกพี่ลูกน้องหญิงที่รักเขาอย่างลึกซึ้ง ก็ช่วยอะไรไม่ได้
เขาอาจจะทำให้หวังอวี้เยียนผิดหวัง แต่ในแง่ของหน้าที่ต่อวงศ์ตระกูลและสายเลือด เขาก็ถือว่ายังทำดีที่สุดแล้ว ตลอดหลายสิบปีในยุทธภพ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อผลักดันภารกิจของตนให้ถึงที่สุด ทว่ากระแสโลกไม่ใช่สิ่งที่ใครคนเดียวจะเปลี่ยนได้ และความรักก็ไม่ใช่สิ่งที่แค่พยายามก็สมหวัง เรียกได้ว่าเขาล้มเหลวทั้งเรื่องหน้า ที่การงานและเรื่องความรัก
สำหรับผู้ชายคนหนึ่ง
โดยเฉพาะคนที่ทั้งเก่งทั้งหล่อ มีพรสวรรค์ครบถ้วนอย่างมู่หรงฟู่แล้ว
นั่นจะเป็นความเจ็บปวดและความว่างเปล่าขนาดไหน?
“ผมไม่ได้พยายามแก้ต่างให้มู่หรงฟู่ดูดีนะ แค่อยากให้ทุกคนอย่ามองเขาเป็นแค่ตัวร้ายอย่างผิวเผิน ความผิดของเขาไม่ใช่เกิดจากตัวเขาคนเดียว ผมถึงกับมีข้อสันนิษฐานที่พวกคุณอาจไม่ยอมรับ ผมว่าถ้าเรื่องในหนังสือเกิดขึ้นจริง ถ้ามีคนเหล่านี้จริงๆ สุดท้ายหวังอวี้เยียนอาจจะไม่ได้เลือกทิ้งมู่หรงฟู่ ถ้าต้วนอวี้ไม่ใช่หนึ่งในสามตัวเอกของเรื่อง”
“ผมไม่เห็นด้วย!”
นักศึกษาคนหนึ่งโต้ขึ้นมาด้วยอารมณ์รุนแรง “เฉียวเฟิงกับซวีจู๋ก็ไม่มีพ่อเลี้ยงดูเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ยังเดินในครรลองที่ถูกต้องได้นะครับ!”
“อย่างนั้นหรือ?”
ศาสตราจารย์หวังส่ายหน้าเบาๆ “ทั้งสองคนอาจไม่มีพ่อก็จริง แต่คนที่เป็นแบบอย่างให้กับเฉียวเฟิงกับซวีจู๋ในเรื่องโลกทัศน์และค่านิยม ก็คือพระจากวัดเส้าหลิน หัวหน้าพรรคกระยาจกผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรม คือชาวนาใจดีในหมู่บ้าน สมัยเด็กๆ เฉียวเฟิงก็เคยมีนิสัยรุนแรง เช่น เอามีดไปฆ่าหมอที่ใส่ร้ายเขา ถ้าไม่ได้มีคนสั่งสอนตั้งแต่ตอนนั้น พวกคุณคิดว่าเขาจะโตมาเป็นคนแบบไหน เรื่องแบบนี้เราไม่มีทางรู้ได้แน่ชัดหรอก”
นักศึกษาคนนั้นเงียบลง
เห็นได้ชัดว่าศาสตราจารย์หวังดูอ่านแปดเทพอสูรมังกรฟ้ามาอย่างทะลุปรุโปร่ง เขายกประเด็นโดยยึดจากตัวเนื้อเรื่องจริงๆ แต่นักศึกษากลับหาเหตุผลจากเนื้อหาในเรื่องมาหักล้างไม่ได้
ท่ามกลางความเงียบของคลาสเรียน
ศาสตราจารย์หวังยังคงบรรยายต่อไปอย่างคล่องแคล่ว “ตัวละครที่มีความคล้ายกับมู่หรงฟู่ ก็คือจวงจวี้เสียนในช่วงท้ายเรื่อง
คนคนนี้เป็นตัวละครที่โดดเด่นถึงขั้นมีสองตอนเต็มในนิยายเป็นของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นตัวเอกลับคนที่สี่ของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้
จวงจวี้เสียนน่าสงสารตรงที่พ่อเสียตั้งแต่เขายังเด็ก จึงขาดการเลี้ยงดูที่เหมาะสมในภายหลัง แถมยังฝังความแค้นไว้ในใจ
ระหว่างที่รอนแรมอยู่ในยุทธภพ เขาก็ไปคบค้ากับพวกไม่เอาไหน
เมื่อได้พบกับอาจื่อ เขาก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์ของรักแรก
ถ้าเขายอมปล่อยวางได้อีกสักนิด หรือมีเพื่อนสักคนที่หวังดีจริงๆ คอยปลอบใจเขา บางทีเขาอาจจะค่อยๆ เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
เหมือนกับพวกเราทุกคน
แต่น่าเสียดายที่เขายังไม่ทันได้เติบโต
เพราะคนที่เขาได้เจอ ไม่มีใครที่หวังดีกับเขาจริงๆ สักคน ไม่ต้องพูดถึงใครที่ไหนไกล แค่ให้อาจื่อจริงใจกับเขาสักนิด ไม่ว่าจะในฐานะคนรักหรือสหายที่จริงใจ บางทีจวงจวี้เสียนก็คงไม่ต้องจบชีวิตลงพร้อมกับอาจื่ออย่างนั้นก็ได้”
ภายนอกเหมือนกำลังพูดถึงนิยาย
แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่ศาสตราจารย์หวังกำลังพูดคือการเลี้ยงดูและสอนสั่ง
การบรรยายของศาสตราจารย์หวังเกี่ยวกับแปดเทพอสูรมังกรฟ้าในคลาสเรียนรูปแบบเปิดนี้ กินเวลายาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมง
เมื่อพูดถึงจุดที่น่าตื่นเต้น ศาสตราจารย์ถึงกับตบโต๊ะด้วยความสะใจ
แต่เมื่อพูดถึงจุดที่เศร้า เขาก็กลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่ ดวงตาแดงระเรื่อด้วยความเศร้าสร้อย
ทันทีที่เขาประกาศเลิกคลาส
เสียงปรบมือจากนักศึกษาก็ดังขึ้นกึกก้อง
คลาสเรียนนี้สามารถเอาชนะใจนักศึกษาได้อย่างหมดใจบางทีอาจมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับบางมุมมองของศาสตราจารย์หวัง
แต่โดยรวมแล้ว บทเรียนนี้นับว่าเป็นการวิเคราะห์นิยายที่เจาะลึกที่สุดครั้งหนึ่งในโลกออนไลน์ ตั้งแต่โครงเรื่อง แนวคิด ไปจนถึงแก่นสาร ศาสตราจารย์หวังอ้างอิงครบหมดไม่มีตกหล่นเลยแม้แต่น้อย!
และแน่นอน
คลิปวิดีโอนี้ก็ถูกอัปโหลดขึ้นสู่โลกออนไลน์ในทันทีเช่นกัน
…



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...