Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 136

ตอนที่ 136 หน้ากากอนามัยและแว่นตาดำเป็นเครื่องหมายของคนดัง

ถึงแม้มีความคิดแล้วว่าจะซื้อวิลล่า แต่หลินเยวียนก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร เขาจึงไปสอบถามคนอื่นอย่างที่เคยชิน

“ลองถามรุ่นพี่เย่าหั่วก็แล้วกัน”

ในตอนที่หลินเยวียนพบปัญหา ก็มักจะนึกถึงรุ่นพี่เย่าหั่วโดยอัตโนมัติ

เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม

ถึงอย่างไรภาพจำที่รุ่นพี่เย่าหั่วมีให้หลินเยวียนก็คือ

ใจถึงพึ่งได้!

เฉกเช่นที่ผ่านมา รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วมักจะรับโทรศัพท์เสมอ

หลังจากต่อสายติด รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วก็ยังกระตือรือร้นดังเดิม “รุ่นน้อง มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วย”

“ผมอยากซื้อวิลล่าครับ”

หลินเยวียนแถลงไขความคิดของตนออกไปโดยไม่อ้อมค้อม

ซุนเย่าหั่วกล่าวกลั้วหัวเราะ “อยากได้วิลล่าแบบไหนล่ะ”

หลินเยวียนครุ่นคิด “ใกล้เขตที่ผมอยู่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ซุนเย่าหั่วรู้ที่อยู่ของหลินเยวียน ถึงอย่างไรเขาก็ไปส่งหลินเยวียนหลังเลิกงานอยู่บ่อยครั้ง

“นอกจากเรื่องนี้ล่ะ”

“ต้องดูรายละเอียดก่อนครับ”

“ได้ เข้าใจแล้ว งั้นพรุ่งนี้ฉันไปรับนายที่บ้าน?”

“ไม่ต้องหรอกครับ พี่สาวผมมีรถแล้ว”

“ก็ได้”

ซุนเย่าหั่วมีท่าทีเสียดายอยู่บ้าง “งั้นพรุ่งนี้ฉันส่งที่อยู่ไปให้ พวกเราเจอกันที่นั่นตามเวลานัดหมายเลย?”

“ครับ”

หลินเยวียนวางสาย

รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วพึ่งพาได้จริงๆ

หลินเซวียนเห็นหลินเยวียนคุยโทรศัพท์เสร็จ จึงมั่นใจเรื่องหนึ่งว่า

น้องชายจริงจังกับเรื่องนี้!

เขาอยากได้วิลล่าจริงๆ!

ซื้อวิลล่าสักหลังในเมืองซู!

ข้อมูลนี้ทำให้หลินเซวียนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่เธอตื่นขึ้นในวันต่อมาพร้อมสมองอันพร่าเบลอ ยังดีที่ยังไม่ลืมเรื่องแจ้งลาหยุดกับหัวหน้า

หัวหน้าของฝ่ายบริหารคือหลี่ว์เป่ย

แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องอย่างการลาหยุด โดยทั่วไปแล้วเลขาของหลี่ว์เป่ยรับผิดชอบ

ก่อนหน้านี้หลี่ว์เป่ยสั่งเลขาไว้แล้วว่าให้ดูแลหลินเซวียนให้ดี

ดังนั้นหลินเซวียนจึงได้รับการอนุมัติวันหยุดอย่างง่ายดาย

เธอขับรถซึ่งเพิ่งซื้อมาได้ไม่นานกลับบ้านไปรับหลินเยวียน พลางถามประโยคหนึ่ง “นายลาบริษัทหรือยัง”

“ยังไม่ได้ลา”

หลินเยวียนพูดยังไม่ทันขาดคำ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นสายจากเหล่าโจว

หลินเซวียนถาม “หัวหน้าเหรอ?”

หลินเยวียนพยักหน้า ก่อนจะรับโทรศัพท์

น้ำเสียงของเหล่าโจวฟังดูเป็นห่วงมาก “ทำไมวันนี้นายไม่มาทำงานล่ะ”

จะบอกว่ามาซื้อบ้านก็ไม่ค่อยดีใช่มั้ยล่ะ

หลินเยวียนใคร่ครวญอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะตอบไป

“ออกมาหาแรงบันดาลใจครับ”

ปลายสายเงียบกริบลงทันใด

ผ่านไปชั่วขณะหนึ่งเช่นกัน ก่อนเหล่าโจวจะเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงซับซ้อน “เข้าใจแล้ว”

“ขอบคุณครับ”

หลังจากหลินเยวียนวางสาย ก็พูดกับพี่สาว “พวกเราไปกันเถอะ”

หลินเซวียน “…”

ครั้งหน้าฉันใช้เหตุผลปลอมว่า ‘ออกมาหาแรงบันดาลใจเป็นเพื่อนนักเขียน’ บ้างได้ไหมนะ

น่าจะใช้เหตุผลพรรค์นี้กับฝ่ายบริหารไม่ได้

แถมน้องชายก็ไม่ได้เป็นนักเขียนของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูซะด้วยสิ

น่าเสียดาย

หลังจากขึ้นมาบนรถและออกเดินทาง

หลินเยวียนก็โทรศัพท์หาซุนเย่าหั่ว

ซุนเย่าหั่วรีบตอบ “เตรียมออกหรือยัง สถานที่ฉันส่งให้ในโทรศัพท์แล้ว ฉันรออยู่ที่นี่ รุ่นน้องระวังอุบัติเหตุด้วย”

“ครับ”

หลังจากหลินเยวียนวางสาย ก็ส่งที่อยู่ให้พี่สาว

ผ่านไปสิบนาที

ทั้งสองฝั่งก็มาถึงจุดนัดพบ

ทว่าสิ่งที่ทำให้หลินเยวียนประหลาดใจก็คือ นี่เป็นช่วงฤดูร้อน ซุนเย่าหั่วถึงกับสวมหน้ากากอนามัยกับแว่นตา ปกปิดใบหน้าเสียมิดชิด

“รุ่นพี่ไม่สบายเหรอครับ”

หลินเยวียนอดรู้สึกผิดไม่ได้

ซุนเย่าหั่วโบกมือ “รุ่นน้องวางใจเถอะ ไม่ได้ป่วยหรอก ตอนนี้ฉันเป็นศิลปินแล้ว ถ้าถูกเห็นเข้าละก็ต้องถูกคนห้อมล้อมแน่เลย”

หลินเซวียนพูดด้วยความตกใจ “นายดังขนาดนั้นเลยเหรอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน