Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 141

ตอนที่ 141 ทำเสร็จแล้วครับ

อีกด้านหนึ่ง กู้ตงก็ขับรถกลับบริษัท

ระหว่างเดินผ่านชั้นสอง พนักงานในแผนกประพันธ์เพลงก็ชะเง้อมองมา

พวกเขาพบว่าตัวแทนจากสำนักงานใหญ่ก็ไม่มา ดังนั้นจึงเข้ามาห้อมล้อมกู้ตง

“คนล่ะ?”

“เลิกงานแล้วเหรอ”

“สุดมาก บริษัทจะมาก็มาจะไปก็ไป สมแล้วที่เป็นเทพในวงการ ไม่ได้สนใจเรื่องของบริษัทย่อยเลยสักนิด”

“ตัวแทนจากสำนักงานใหญ่คนนี้มีที่มาที่ไปยังไงล่ะ”

“ดูยังเด็กอยู่เลย จะไหวเหรอ”

“อายุน้อยยังพึ่งพาไม่ค่อยได้หรอก ถ้าอยากจะช่วยกอบกู้ทั้งบริษัทย่อยละก็ ส่งมาแค่คนเดียวพอซะที่ไหน”

“เขาเป็นใครเหรอ”

“…”

กู้ตงเหลือบมองทุกคน “พวกคุณมีโทรศัพท์กันไม่ใช่เหรอ ลองเสิร์ชดูเอง เซี่ยนอวี๋ เซี่ยนที่แปลว่าอิจฉา…อวี๋ที่แปลว่าปลา!”

“เหมือนจะเคยได้ยิน”

มีคนเอ่ยปากขึ้นมาด้วยความคลางแคลง

ต่างคนต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดค้นหา

เป็นเพราะระยะทางนั้นห่างไกลเกินไป วัฒนธรรมของพื้นที่แตกต่างกัน ฉะนั้นข้อมูลที่ทุกคนค้นเจอล้วนแต่เป็นข้อมูลพื้นฐานทั่วไป ทว่าก็มากพอให้หลายคนประหลาดใจได้

“นักแต่งเพลงมือทอง?”

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่านักแต่งเพลงมือทองจะอายุน้อยขนาดนี้ นี่สินะที่เรียกว่าอัจฉริยะในตำนาน จุ๊ๆ ตอนฉันยังเป็นวัยรุ่นก็เหมือนพอจะมีฝีมือกับเขาอยู่เหมือนกันนะ”

“เพ้อเจ้อ มาเป็นตัวแทนบริษัทเรามั้ยล่ะ”

“แต่เขาเหมือนจะเพิ่งได้เป็นมือทอง ก็ถูกส่งมาที่บริษัทย่อยเราแล้ว ทำไมสำนักงานใหญ่ไม่ส่งคนที่มีประสบการณ์มาล่ะ”

“อาจจะเก่งมากก็ได้นะ?”

“เก่งมั้ยฉันไม่รู้ รู้แต่วางมาดสุดๆ เพิ่งจะมาวันแรกก็โดดงานแล้ว แต่คนเขาเป็นตัวแทนของสำนักงานใหญ่ มีตำแหน่งเทียบเท่ากับผู้จัดการของเรา ไม่มีใครว่าได้ ผู้จัดการก็น่าจะไม่กล้ายุ่งด้วย บริษัทหวังว่าเขาจะสะสางงาน บรรเทาสถานการณ์สักหน่อย”

“เดี๋ยวนะ เขาเป็นคนแต่งเพลงปลายักษ์?”

“เพลงนี้ที่ฉีโจวของเราดังมาก ซาวด์แทร็กเรื่องมังกรมัจฉาเริงระบำไง หรือสำนักงานใหญ่คิดว่าเขาเคยประสบความสำเร็จที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว”

“พอเถอะ”

“…”

คนกลุ่มนี้พูดคุยถกเถียงกันสนุกปาก

ส่วนกู้ตงก็ขึ้นไปชั้นสาม

เข้าไปในห้องทำงานของกรรมการผู้จัดการ เธอพูดพลางถอนใจ “พ่อ…”

กู้เฉียงอวิ้นกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “บอกตั้งกี่ครั้งแล้ว ว่าที่บริษัทให้เรียกว่าผู้จัดการ”

“พ่อผู้จัดการ?

หนูว่าฟังดูแปลกพิกล?”

“ผู้จัดการกู้!”

“อื้ม ว่ายังไง?”

กู้เฉียงอวิ้นลุกขึ้นด้วยท่าทีวิตกกังวล “ตัวแทนหลินพอใจกับห้องใหม่มั้ย”

“ถ้าเป็นเรื่องห้องพอใจมากเลยค่ะ”

กู้ตงเอ่ยอย่างหดหู่ใจ “แต่ไม่รู้ว่าเขาบ้าเกินไปหรือเปล่า เพิ่งมาวันแรก แม้แต่งานก็ไม่อยากเข้าแล้ว เสียแรงที่หนูไปทำความสะอาดห้องให้อยู่ครึ่งค่อนวัน พ่อรีบไปเรียกแม่บ้านมาทำเลยค่ะ”

“ไม่ได้”

กู้เฉียงอวิ้นตอบ “รายได้ของบริษัทไม่ดี ให้ไปเชิญแม่บ้านมาก็ต้องเพิ่มรายจ่าย ลูกกับพนักงานคนอื่นไปช่วยกันทำน่ะดีแล้ว ฉันเป็นผู้จัดการยังทำความสะอาดห้องตัวเองเลย ไม่ได้ให้ลูกมาปัดกวาดเช็ดถูให้”

กู้ตง “…”

กู้เฉียงอวิ้นหน้ามุ่ย จากนั้นเขาก็พลันเกิดแสงแห่งความหวังขึ้นมา “แต่หลังจากนี้ตัวแทนหลินมาแล้ว ก็น่าจะช่วยลดความกดดันได้สักหน่อยล่ะมั้ง…”

“พ่อก็ฝันซะสวยหรูเชียว”

กู้ตงฉุกคิดเรื่องก่อนหน้านี้ขึ้นได้ “หนูให้เขาดูออเดอร์ คิดว่าเขาจะกระตือรือร้นทำงาน แต่เขายังไม่ทันเหลือบมองก็ร้องจะไปที่พัก อีกไม่เท่าไหร่ก็คงลืมเรื่องออเดอร์ไปแล้วละค่ะ”

“ตอนนี้นึกไม่ออกไม่สำคัญ วันอื่นเราค่อยเตือนเขาก็ได้”

ในขณะนี้กู้เฉียงอวิ้นมองว่าหลินเยวียนเป็นฟางช่วยชีวิตแล้วจริงๆ “อีกอย่าง ลูกไปสืบมาจากเพื่อนแล้วไม่ใช่หรือว่าเขามีชื่อเสียงมากที่ฉินโจว แถมยังเป็นนักแต่งเพลงมือทองด้วยนี่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน