Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 142

ตอนที่ 142 ไปหาออเดอร์ใหม่มาเลย

ฉีโจว

แผนกประพันธ์เพลงของบริษัทเพลงสตาร์ไลท์เงียบจนชวนให้รู้สึกแปลกพิกล ขณะเดียวกันก็มองหน้ากันไปมา ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความสับสน

ผ่านไปนาน

ในที่สุดก็มีคนถามขึ้นคล้ายกับยังไม่แน่ใจ “ทำเสร็จแล้ว…ความหมายก็คือ…เขาทำออเดอร์เกมแนวกำลังภายในนี้เสร็จแล้ว?”

นี่มันเพิ่งจะผ่านไปได้ไม่เท่าไหร่เองนะ

นับรวมเวลาที่นายเดินทางเข้าไปด้วย ก็ผ่านไปแค่สองชั่วโมงเองล่ะมั้ง

“เหอะ”

มีคนหัวเราะแดกดัน “ถ้าเขาทำเพลงนี้สำเร็จจริงๆ ฉันจะกินคีย์บอร์ดให้ดูเดี๋ยวนี้เลย พวกนายเชื่อมั้ยล่ะ”

จะเป็นไปได้ยังไงกัน

ตัวแทนหลินคนนี้ขี้โม้เกินไปหรือเปล่า

หรือเพราะว่าตนเป็นนักแต่งเพลงมือทองจากมาตุภูมิแห่งดนตรี ก็เลยรู้สึกว่าความสามารถของตนสามารถขยี้พวกกระจอกอย่างเราได้?

ฉะนั้นถึงได้ใช้ช่วงเวลาที่เข้าห้องน้ำ เขียนเพลงออกมาซะเลย คิดว่าจะเทียบเทียมกับพวกเราได้?

และใช้โอกาสนี้ตบตาผู้ว่าจ้างไปด้วยเลย?

อย่างที่คิด คนอายุน้อยใช้การไม่ได้จริงๆ

ทางผู้ว่าจ้างจะทำให้นายได้รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงได้เป็นท่านพ่อ!

อีกอย่าง ตัวแทนหลินคนนี้ ไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาเลยสักนิดสินะ?

คิดจริงๆ หรือว่าออเดอร์ที่พวกเราทำไม่สำเร็จตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ตัวแทนอย่างนายจะมาทำแบบสุกเอาเผากินแล้วสำเร็จ

บรรยากาศในกลุ่มเงียบลงด้วยประการฉะนี้

นิ่งเงียบจนเรียกได้ว่าถูกแช่แข็ง

สุดท้ายแล้วก็เป็นกู้ตงที่เหลืออดเมนชันหลินเยวียนไป ‘ทางผู้ว่าจ้างมาตรฐานสูงมาก เพลงคุณภาพทั่วไปพวกเขาไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอกค่ะ หวังว่าตัวแทนหลินจะตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างจริงจังอีกสักหน่อย จะใช้ผลงานที่ทำเสร็จในไม่กี่ชั่วโมงมาตบตาผู้ว่าจ้างไม่ได้นะคะ’

“เฮ้อ”

แม้ว่ากู้เฉียงอวิ้นเองจะหัวเสียเช่นเดียวกัน แต่เขาก็กลัวว่าหลินเยวียนจะโมโห เป็นถึงนักแต่งเพลงมือทองจากฉินโจว ถ้าเกิดเทออเดอร์นี้ขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ

ต้องไปพะเน้าพะนอสักหน่อย

เขาพรูลมหายใจ รีบเข้าไปไกล่เกลี่ยในกลุ่ม ‘บางทีตัวแทนหลินอาจเห็นออเดอร์นี้แล้วเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาก็ได้ ด้วยฝีมือของตัวแทนหลิน ต้องเหนือกว่าเจ้าพวกขี้เมาหยำเปบริษัทเราอย่างแน่นอน แต่ตัวแทนหลินก็ช่วยขัดเกลาผลงานอีกนิดนะครับ…’

หลินเยวียนไม่ได้อธิบาย เมนชันกู้เฉียงอวิ้นไปตรงๆ เลย ‘ขออีเมลหน่อยครับ’

‘…’

‘…’

‘…’

ในกลุ่มปรากฏจุดไข่ปลาอีกหลายบรรทัด ทุกคนไม่กล้าแสดงความคิดเห็นที่อยู่ในใจออกมา และยิ่งไม่กล้าพิมพ์เมนชันหลินเยวียนตรงๆ เฉกเช่นที่กู้ตงทำ

ถึงยังไงตำแหน่งของตัวแทนหลินก็สูงมาก

แต่จากสัญลักษณ์จุดไข่ปลาเป็นพรวนเช่นนี้ ก็พอแสดงออกเป็นนัยได้ว่าไม่พอใจ ถึงยังไงทุกคนก็พิมพ์จุดไข่ปลาเข้าไปในกลุ่ม

กฎหมายไหนเลยจะสู้วิถีประชา

กู้เฉียงอวิ้นจนปัญญา พิมพ์อีเมลส่งเข้าไป

หลินเยวียนส่งไฟล์เพลงเข้าไปในอีเมลของกู้เฉียงอวิ้น

‘คุณได้เข้าร่วม [กลุ่มจริงของบริษัท]’

เมื่อพิมพ์อีเมลส่งไป กู้เฉียงอวิ้นก็พบว่าตนถูกลูกสาวลากเข้ากลุ่มใหม่ จากนั้นคนทั้งบริษัทก็ถูกลากตามเข้ามาทั้งหมด

กลุ่มนี้ ไม่ได้ต่างอะไรกับกลุ่มใหญ่เมื่อครู่

สิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือ กลุ่มนี้ไม่มีหลินเยวียน

ทำให้กลุ่มที่หลินเยวียนเพิ่งเข้ามาเมื่อครู่ก็กลายเป็น ‘กลุ่มปลอม’ ไปโดยปริยาย

“ทำอะไรน่ะ”

กู้เฉียงอวิ้นเอ่ยอย่างไม่พอใจนัก

ห้องทำงานของกู้ตงอยู่ถัดจากห้องทำงานของเขา ถ้าเสียงดังมากพอ ทางนั้นก็จะได้ยินเสียงของเขา

กู้ตงไม่ได้ตอบ

สิ่งที่เรียกว่ากลุ่มจริงนี้กำลังระเบิด

‘คุณหนูกู้ตงโหดแท้!’

‘คุณหนูกู้ตงจัดการเขาเลย!’

‘นี่มันอะไรกันฟระเนี่ย!’

‘ดีแล้วๆ ดีที่ลากกลุ่มใหม่ กลุ่มเก่าฉันไม่กล้าเข้าแล้ว’

‘ตัวแทนคนนี้ไม่เห็นหัวเราเลย!’

‘…’

ในขณะนั้นกู้ตงก็เมนชันกู้เฉียงอวิ้น ‘ส่งเพลงนั้นมาในกลุ่มเลยค่ะ จะได้รู้ว่าในเวลาหนึ่งชั่วโมงที่นักแต่งเพลงมือทองอุตส่าห์เจียดมาจากภารกิจร้อยพันอย่าง เพลงที่เขียนออกมาจะเขียนได้ดีขนาดไหน’

กู้เฉียงอวิ้นส่ายหน้า

ทุกคนกำลังต่อต้านตัวแทนหลินอยู่

แบบนี้ไม่ดีแน่ หลังจากนี้บริษัทจะต้องขอความช่วยเหลือจากตัวแทนหลินอีกนะ

อีกทั้งความสามารถของตัวแทนหลินนั้นต้องไร้ข้อกังขาอย่างแน่นอน อายุน้อยขนาดนี้ก็เป็นมือทองแล้ว ยังจะต้องสงสัยในฝีมือเขาอีกหรือ?

เพียงแต่เป็นเพราะอายุยังน้อยก็ฝีมือโดดเด่นแบบนี้ ท่าทีของตัวแทนหลินจึงอาจแลดูหยิ่งผยองไปสักหน่อย

ทว่าเรื่องนี้ก็พอเข้าใจได้ไม่ใช่หรือไง

ประเดี๋ยวจะต้องปรับทัศนคติของทุกคนสักหน่อย ว่าห้ามผิดใจกับตัวแทนหลินเด็ดขาด

เมื่อคิดเช่นนี้ กู้เฉียงอวิ้นจึงตัดสินใจไม่ส่งเพลงเข้ากลุ่มแช็ต

ความสามารถก็ส่วนความสามารถ ต่อให้เป็นนักประพันธ์เพลงที่เก่งกาจกว่านี้ เพลงที่ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเขียนออกมา จะไปสู้ผลงานที่แผนกประพันธ์เพลงขัดเกลามาเป็นแรมเดือน แต่ก็ยังถูกทางผู้ว่าจ้างตีกลับได้หรือ?

เขาสวมหูฟัง แล้วกดเปิดอีเมล

เพลงมีชื่อว่า ‘ยุทธจักรยิ้มเย้ย’ ดูท่าตัวแทนหลินจะเขียนเนื้อเพลงเสร็จแล้ว

เม้าส์ขยับ คลิกปุ่มเล่นเพลง

ขณะที่กู้เฉียงอวิ้นกระทำสิ่งเหล่านี้ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีความหวังใดอยู่ในใจ

เขาถึงขั้นฟังเพลงไปพลางอ่านข่าวออนไลน์ไปพลาง

ในข่าวเขียนถึงโปรเจ็กต์ใหม่ต่างๆ ของแต่ละบริษัทในฉีโจว ไม่แน่ว่าอาจหาโอกาสร่วมงานในออเดอร์ใหม่ได้

บริษัทขนาดใหญ่ เป็นออเดอร์ที่เข้ามาเองถึงหน้าประตู

ส่วนสตาร์ไลท์มิวสิก จะต้องไขว่คว้าหาออเดอร์ด้วยตัวเอง

ตัวอย่างเช่นซีรีส์ออนไลน์ที่บริษัทขนาดเล็กเพิ่งถ่ายทำเสร็จ พวกเขาทำต้องการพวกเพลงซาวด์แทร็ก เพลงอินเสิร์ต หรือเพลงปิด ประเดี๋ยวจะดูว่าติดต่อไปได้ไหม ยังมีข่าวนี้ที่พูดถึง…

ตึกๆ

มือของกู้เฉียงอวิ้นซึ่งกำลังขยับเม้าส์พลันชะงักไป

ในหูฟังเริ่มบรรเลงเพลงยุทธจักรยิ้มเย้ย

เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งฟังดูประหลาดชอบกลเริ่มบรรเลงท่อนคอรัสพอดิบพอดี ‘โอ้บุปผาหาใช่เช่นที่เห็นมา สายธารารินไหลไม่รั้งรอท่า จิตวิญญาณยอดคนเจ้าช่างหาญกล้า ความเดียวดายลิขิตด้วยชะตา…’

ขนลุกซู่เลย!

จู่ๆ กู้เฉียงอวิ้นก็รู้สึกว่าสมองชาวาบขึ้นมา!

เขารีบกดเลื่อนเพลงไปยังช่วงอินโทรทันที!

ในครั้งนี้กู้เฉียงอวิ้นวางมือจากทุกอย่าง สมาธิทั้งหมดของกู้เฉียงอวิ้นไปรวมกันอยู่ที่เพลง

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ร่างกายของกู้เฉียงอวิ้นคลอนไปตามทำนองดนตรีโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เมื่อร่างกายของเขามีการเคลื่อนไหว น้ำชาซึ่งถูกทิ้งไว้บนโต๊ะจนเย็นชืดก็กระเพื่อมเบาๆ เป็นระลอกเช่นกัน

ในตอนนั้นดวงตะวันใกล้ลาลับเส้นขอบฟ้า

แสงสีแดงยามอาทิตย์อัสดงส่องเข้ามาทางหน้าต่าง อาบห้องทำงานจนกลายเป็นสีเหลืองหม่น

และท่ามกลางภาพฉากนั้นเอง

สีหน้าของกู้เฉียงอวิ้นก็ตื่นตะลึงขึ้นเรื่อยๆ

ครั้นบทเพลงจบลง เขาสัมผัสได้ถึงความชาปลาบไปทั่วทั้งร่างกาย ราวกับเพิ่งถูกไฟช็อตมา

ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูแว่วมา

กู้ตงผลักประตูเดินเข้ามา

จากนั้นเธอก็ชะงักไป

เห็นเพียงกู้เฉียงอวิ้นนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา ทั้งตัวแลดูผ่อนคลาย บนใบหน้าประดับไปด้วย…

ความสุข?

กู้ตงไม่รู้ว่าคำขยายความของตนจะใช้ได้ไหม แต่นอกจากคำนี้แล้ว เธอก็ไม่อาจสรรหาคำอื่นมาอธิบายรอยยิ้มบนใบหน้าของกู้เฉียงอวิ้นได้แล้ว

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ” กู้ตงเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ

กู้เฉียงอวิ้นไม่ได้สนใจเธอ

“เธอจึงพูดเสียงดังขึ้น “ผู้จัดการคะ?”

กู้เฉียงอวิ๋นก็ขังไม่สนใจเธอ

เธอพูดเสียงดังขึ้นไปอีก “พ่อคะ!”

กู้เฉียงอวิ้นท่าทางราวสะดุ้งตื่นจากฝัน มองไปยังบุตรสาวซึ่งอยู่หน้าประตู ก่อนจะหันไปมองจอคอมพิวเตอร์อีก ในที่สุดก็เอ่ยขึ้นมา

“ไปหาออเดอร์ใหม่มาเลย!”

เป็นอย่างที่คิดจริงๆ กู้ตงถอนหายใจ “พวกเราจะยอมแพ้กับออเดอร์นี้จริงๆ ใช่มั้ยคะ ก่อนหน้านี้พวกเราเซ็นสัญญาที่มีเงื่อนไขว่าต้องชดใช้ค่าเสียหายไปไม่น้อยเพื่อให้ได้ออเดอร์นี้มา หรือไม่ก็ติดต่อทางสำนักงานใหญ่เถอะค่ะ…”

“แป๊บนึงนะ”

กู้เฉียงอวิ้นโบกมือ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา พิมพ์ข้อความแล้วส่งเข้าไปในกลุ่มที่กู้ตงเพิ่งลากเขาเข้าไปว่า ‘ผู้ว่าจ้างไม่ใช่ท่านพ่อของพวกคุณอีกต่อไป ตัวแทนหลินสิท่านพ่อตัวจริง’

พูดจบ

กู้เฉียงอวิ้นก็ส่งไฟล์เพลงยุทธจักรยิ้มเย้ยซึ่งดาวน์โหลดเสร็จแล้วเข้าไปในกลุ่มแช็ต จากนั้นก็เงยหน้ามองลูกสาว เอ่ยว่า

“เสร็จเรียบร้อยแล้ว”

……………………………………………..

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน