ตอนที่ 158 ลูกศิษย์
ในที่สุดแล้วหลินเยวียนก็เฝ้ารอจนวันเสาร์มาถึง…
ขณะที่เจี่ยนอี้ยังคงนอนหลับ หลินเยวียนก็นั่งอยู่บนรถของกู้ตง และมาถึงบริษัทแล้ว
สภาพการณ์คล้ายคลึงกับครั้งแรกที่หลินเยวียนเข้ามาในบริษัท
แทบจะทันทีที่หลินเยวียนก้าวเข้ามาในบริษัท สายตาของทุกคนต่างก็จับจ้องมาที่เขา
นักประพันธ์เพลงจากแผนกประพันธ์เพลงมองมาที่เขาด้วยสายตาแฝงไปด้วยความรู้สึกยกย่องชื่นชม!
จะไม่ให้ยกย่องชื่นชมได้หรือ
ออเดอร์ราคาสามล้าน เวลาผลิตงานแค่เดือนเดียว บวกกับทางผู้ว่าจ้างกำหนดแนวเพลงมาอีก สำหรับหลายๆ คนแล้ว ความเป็นไปได้ที่ตัวแทนหลินจะทำออเดอร์นี้สำเร็จมีเพียง 10%!
ผลเป็นยังไงล่ะ?
ตัวแทนหลินไม่เพียงทำออเดอร์สำเร็จ รับมือกับธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ได้ แถมยังทำงานไปเกินหน้าที่อีกด้วย เพราะเพลงชอบเธอโด่งดังเป็นพลุแตกเชียวล่ะ!
ต้องเข้าใจก่อน!
ว่าการทำออเดอร์สำเร็จเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เพลงจะดังหรือไม่นั้นกลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
สำหรับสตาร์ไลท์มิวสิกแล้ว ตั้งแต่วินาทีที่รับออเดอร์มา บทเพลงจะโด่งดังได้หรือไม่นั้น ไม่ใช่ปัญหาที่สำคัญที่สุดอีกต่อไป!
ก็เหมือนกับที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้…
เพลงที่สั่งทำกว่าร้อยละแปดสิบ อันที่จริงก็ล้วนแต่ไม่ได้โด่งดังอะไร
เพราะเพลงที่สั่งทำก็เหมือนบทความที่กำหนดหัวข้อตายตัว ยากที่จะปลดปล่อยความสามารถทังหมดที่นักประพันธ์เพลงมี
นี่เป็นเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่นักประพันธ์เพลงจากฉินโจวเกลียดรูปแบบออเดอร์ของฉีโจว
จะให้ฉันพยายามตั้งหลายวัน เพื่อเขียนเพลงที่คุณชอบ ตามความความต้องการและข้อกำหนดตายตัวของคุณออกมา แต่ผู้คนทั่วไปไม่ได้ชอบ?
จะทำไปทำไมล่ะ
ฉันยอมไม่รับออเดอร์ของคุณ แล้วสร้างสรรค์บทเพลงออกมาอย่างเต็มที่ เขียนเพลงที่คนชอบ จากนั้นก็รอกินเงินส่วนแบ่งจากยอดดาวน์โหลดไม่ดีกว่าหรือไง
ส่วนค่าตอบแทนพิเศษอะไรนั่นน่ะเหรอ
ที่กลัวก็คือ กลัวว่ากว่าจะได้ค่าตอบแทนพิเศษมา คงจะยากพอตัว มิหนำซ้ำสุดท้ายทำทุนจมอีกต่างหาก
ฉะนั้นแล้ว นอกจากออเดอร์ใหญ่ราคาหลายล้านแบบนี้แล้ว นักแต่งเพลงฝีมือดีไม่มีทางยอมรับงานประเภทนี้หรอก
ดังนั้น
ในความคิดของนักประพันธ์เพลงของสตาร์ไลท์มิวสิก ตัวแทนหลินไม่เพียงทำออเดอร์ความยากระดับนรกได้สำเร็จ แต่เพลงที่เขียนออกมาก็ยังฮ็อตฮิต นับว่าเปรียบประหนึ่งเทพเซียนมาจุติโดยแท้!
หลินเยวียนกลับไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเรื่องนี้เป็นพิเศษแต่อย่างใด
จะคาดหวังให้เด็กคนหนึ่งที่คุ้นชินกับการเป็นที่สนใจของผู้คนโดยรอบตั้งแต่อ้อนแต่ออก มามีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสถานการณ์เช่นนี้เห็นทีคงจะยาก
เขาเพียงเดินเข้าห้องทำงานของตนไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
กู้ตงแลดูราวกับเป็นเด็กถือกระเป๋า คอยเดินติดตามไป ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ถือกระเป๋าอยู่ในมือก็ตาม
“เห็นหรือยัง นี่แหละที่เรียกว่าออร่าพ่อเพลง!”
“ตอนแรกๆ ฉันก็คิดแค่ว่าตัวแทนหลินนิสัยแปลกๆ ตอนนี้ฉันคิดว่าบุคคลระดับเทพเซียนแบบนี้ต่อให้เป็นมิตร ฉันก็ไม่กล้าเข้าไปตีซี้หรอก”
“ผู้แข็งแกร่งมักโดดเดี่ยว พวกเราเลยเป็นคนอ่อนแอไงล่ะ”
“ตัวแทนหลินเพิ่งจะมาที่บริษัทได้เท่าไหร่กัน จัดไปสองออเดอร์แล้ว!”
“เรียกว่าเทพหนึ่งคนจูงหมาไปสี่ตัว?”
“ทำไมเอ็งพูดจาแบบนี้ฟระ นี่มันเทพหนึ่งคนจูงหมาทั้งฝูงชัดๆ”
“ดูท่าทางประจบประแจงของเสี่ยวกู้ตงสิ ทีกับพ่อเพลงนะพูดง่ายเหลือเกิน”
“ฉันเองก็อยากประจบเหมือนกัน แต่เอื้อมไม่ถึง”
“ถ้าพวกเรามีความสามารถได้สักยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของตัวแทนหลินก็ดีน่ะสิ จะได้ไม่ต้องรอหลายเดือนกว่าจะทำออเดอร์สำเร็จ หรือทำได้แค่ออเดอร์เล็กๆ ราคาไม่กี่แสนหยวน”
“ได้ยินว่าบริษัทมีออเดอร์ที่เสนอมา นี่เป็นผลมาจากออเดอร์นี้ของธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์เลย สตาร์ไลท์มิวสิกของเราก็มีผู้ว่าจ้างออกตัวติดต่อเสนอออเดอร์มาเองเหรอเนี่ย”
“…”
นักประพันธ์เพลงในบริษัทพูดคุยกันอย่างคึกคัก
และในห้องของกรรมการผู้จัดการ กู้เฉียงอวิ้นก็กำลังหน้าชื่นตาบาน
ตั้งแต่เย็นเมื่อคืนจนถึงวันนี้ เขาก็ได้รับโทรศัพท์หลายสายแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ว่าจ้างที่สนใจร่วมงานกับสตาร์ไลท์มิวสิก
แน่นอนว่า
ออเดอร์ที่เจรจาไม่สำเร็จประเภทนี้เรียกว่าข้อเสนอออเดอร์
ความสามารถของบริษัทมีจำกัด กู้เฉียงอวิ้นไม่มีทางรับออเดอร์ไว้ทั้งหมด จากนั้นก็โยนไปให้หลินเยวียนหรอก
บททดสอบของธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ก็ตื่นเต้นมากพอแล้ว เขาไม่กล้าทำเรื่องที่ชวนอกสั่นขวัญแขวนแบบนี้อีก
เขาเพียงแค่ใคร่ครวญไว้บางส่วน ประเดี๋ยวจะให้ตัวแทนหลินเลือกเอง
เลือกออกมาจากข้อเสนอออเดอร์ก่อน ถึงอย่างไรผู้ว่าจ้างอีกหลายคนไม่รู้กฎเกณฑ์ก่อนรับงานของตัวแทนหลิน
……
ตอนนี้หลินเยวียนไม่มีความคิดจะรับงาน หนึ่งเพลงต่อหนึ่งเดือน นับเป็นขีดจำกัดสำหรับเขาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน