ตอนที่ 163 มัจฉาแหวกว่ายในห้วงมหรรณพ
ช่วงเย็น หลินเยวียนกลับมายังที่พัก
เขาถือเอกสารอยู่ในมือ เป็นเงื่อนไขและข้อกำหนดของออเดอร์ใหม่
แน่นอนว่าเนื้อหามีความยาวหลายพันตัวอักษร แต่เมื่อหลินเยวียนอ่านเงื่อนไขจบก็พบว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่หนึ่งประโยค
‘เขียนเพลงออกมาให้เข้ากับสไตล์ของนักร้องสุ่ยอวิ๋น’
พูดเพียงอย่างเดียวก็ง่ายอยู่หรอก
เมื่อลงมือทำแล้วกลับยากเย็นทีเดียว
แต่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่หลินเยวียนจำเป็นต้องขบคิด
เขาเพียงเอ่ยเรียกระบบด้วยความเคยชิน เช่นเดียวกับสองออเดอร์สั่งทำก่อนหน้านี้
ทว่าสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของหลินเยวียนก็คือ ระบบถึงกับไม่ตอบสนองต่อคำขอของหลินเยวียนในทันที
“ติ๊งต่อง!”
“เพราะช่วงนี้การสั่งทำเพลงของโฮสต์นั้นมีความถี่สูง จนเป็นที่สงสัยว่าจะพึ่งพาการสร้างสรรค์ผลงานของระบบมากเกินไป ระบบจึงจะเปิดคลังเพลงให้โฮสต์เป็นการชั่วคราว เพื่อให้โฮสต์ได้เลือกผลงานจากในคลังด้วยตัวเอง โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นโฮสต์จะต้องแบกรับไว้เอง”
หลินเยวียนอึ้งไป
ให้ฉันเลือกเพลงเอง?
แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองกับการตัดสินใจของระบบ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงนี้เขาได้เรียนความรู้ด้านการประพันธ์เพลงจากการ์ดตัวละครหยางจงหมิงมากขึ้น จากการถ่ายทอดวิชาความรู้โดยตรงจากบุคคลระดับพ่อเพลง หลินเยวียนรู้สึกว่าความเข้าใจที่ตนมีต่อดนตรีนั้นพัฒนาไปอีกขั้น
“หมายความว่าคนที่ตัดสินใจจะไม่ใช่ระบบอีกต่อไป แต่เป็นตัวฉันเอง?” หลินเยวียนเอ่ยถาม
ระบบตอบ “ใช่แล้ว”
หลินเยวียนใคร่ครวญดู
เพลงที่ระบบเลือกมาคล้ายกับว่าจะตรงใจผู้ว่าจ้างไปทุกครั้ง นี่ก็เป็นความสามารถอย่างหนึ่ง
เมื่อไม่มีคำใบ้จากระบบ ตนจะสามารถเลือกบทเพลงที่สอดคล้องกับเงื่อนไขในการสั่งทำของผู้ว่าจ้างได้ไหมนะ
“คลังเพลงเปิดออกแล้ว”
ทันใดนั้นระบบก็แจ้งเตือน
หลินเยวียนรู้สึกว่าจู่ๆ สมองของตนก็เชื่อมโยงเข้ากับคลังเพลงของระบบ สามารถฟังได้ทุกเพลงที่มีอยู่บนดาวโลก ข้อมูลของบทเพลงเหล่านี้ก็สามารถปรากฏขึ้นในสมองของหลินเยวียนได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน
ในตอนนั้นหลินเยวียนก็พูดขึ้นมา “นายไม่กลัวว่าฉันจะจำเพลงออกไปจากคลังเพลงเหรอ”
“เดี๋ยวก็บล็อกได้” คำตอบของระบบช่างรัดกุม
หลินเยวียนไม่ได้รู้สึกแปลกใจ
เขาไม่ได้ตัดสินใจเลือกเพลงทันที และไม่ได้หวนระลึกถึงบทเพลงสุดคลาสสิกบนโลก แต่กลับเปิดคอมพิวเตอร์บนโต๊ะในห้องนอน ฟังเพลงของสุ่ยอวิ๋น ระหว่างนั้นก็สืบค้นข้อมูลของสุ่ยอวิ๋นไปพลาง
อาชีพหลักของสุ่ยอวิ๋นคือนักร้อง
ขณะเดียวกันเธอก็เป็นนักแสดงด้วย
เธอเคยให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณะ อธิบายถึงเหตุผลที่ตนเป็นนักร้อง บางครั้งก็ไปแสดงซีรีส์ด้วย
นั่นเป็นเพราะเธอรู้สึกว่าเทคนิคในการควบคุมอารมณ์ของนักแสดงนั้นควรค่าแก่การเรียนรู้ นอกจากนั้นแล้วการควบคุมอารมณ์นี้มีส่วนช่วยในการร้องเพลงมากเช่นกัน
นี่เป็นจุดเด่นของสุ่ยอวิ๋น
เธอเชี่ยวชาญในการเข้าถึงอารมณ์ของบทเพลง
ก็เหมือนกับการเขียนบทความ จะต้องหามุมมองในการเขียน ทั้งยังต้องใช้ลีลาและกลบทในการถ่ายทอด สุ่ยอวิ๋นเป็นยอดฝีมือในด้านนี้
เธอโดดเด่นในการจับจุดหักมุมของเพลง ผ่านวิธีการขับร้องของตนเอง เปรียบได้กับกลวิธีในการเขียนของนักเขียน เพื่อนำเสนอและถ่ายทอดผลงานออกมาได้อย่างชัดเจน
นี่เป็นความสามารถในการควบคุมอย่างหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นเสียงหรืออารมณ์
ทำไมนักร้องที่มีเสียงสูงทรงพลังบางคนถึงเข้าถึงผู้ฟังไม่ได้น่ะหรือ?
เพราะนักร้องขาดการจัดการและควบคุม พลอยให้การถ่ายทอดอารมณ์กลายเป็นระบายอารมณ์
ทว่าความสามารถในการร้องเพลงของสุ่ยอวิ๋น ไม่นับว่าโดดเด่นกว่าคนอื่นในบรรดานักร้องหญิง แต่การถ่ายทอดอารมณ์ของเธอและทักษะในการแสดงที่มีเฉพาะตัวนั้นไม่เป็นสองรองใคร
นี่ไม่ได้เป็นข้อสรุปที่หลินเยวียนได้มาหลังจากที่หาข้อมูลเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันนั้นเขาก็อนุมานได้จากการฟังเพลงของสุ่ยอวิ๋นด้วย
เขารู้สึกว่าคนคนนี้พิเศษมากทีเดียว
ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นระบบซึ่งเลือกเพลงที่ดีออกมาให้หลินเยวียนภายในหนึ่งนาที
ครั้งนี้ระบบประท้วงหยุดงาน หลินเยวียนจึงเลือกเพลงเอง ฉะนั้นแล้วลำพังการทำการบ้านก่อนตัดสินใจก็เสียเวลานานมากแล้ว ยังดีที่ช่วงนี้เซวียเหลียงไม่ได้มาเรียนประพันธ์เพลงกับหลินเยวียนทุกวันแล้ว
ตอนนี้เซวียเหลียงเริ่มประจัญหน้ากับศึกจริงแล้ว
ดังนั้นหลินเยวียนจึงสอนเขาเพียงช่วงวันเสาร์อาทิตย์ก็พอแล้ว
ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ หลินเยวียนจึงใช้การ์ดตัวละครเสียเอง
ถึงอย่างไรเวลาที่เขาใช้การ์ดตัวละครสอนตัวเอง ก็ใช้เวลาแค่วันละสองนาที ไม่ได้เสียเวลาแต่อย่างใด
“เลือกเพลงมีข้อจำกัดเรื่องเวลามั้ย”
“โฮสต์มีเวลาเลือกเพลงมากพอ”
หลินเยวียนเข้าใจแล้ว ในเมื่อไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา เขาก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนตัดสินใจ ฟังเพลงอีกสักหน่อยแล้วค่อยตัดสินใจจะแม่นยำมากกว่า
นอกจากนั้น ในออเดอร์ยังระบุหมายเหตุพิเศษเอาไว้ ตัวอย่างเช่นบอกว่าทางที่ดีขอให้เพลงของสุ่ยอวิ๋นในครั้งนี้แตกต่างจากก่อนหน้า แต่ไม่ให้ทิ้งเอกลักษณ์ด้านการขับร้องเฉพาะตัวของสุ่ยอวิ๋น เป็นต้น
ยังมีจุดเด่นอีกข้อหนึ่ง
เป็นจุดเด่นที่มีความเป็นฉีโจวสุดๆ นั่นก็คือการขับร้องบทเพลง ที่จำเป็นต้องใช้ภาษาฉี!
ดังนั้นหลินเยวียนจะไม่พิจารณาเพลงภาษากลางเลย
ไม่อย่างนั้นจะต้องมาขบคิดเรื่องการเขียนเนื้อเพลงอีก ในใจของเขาไม่อยากแก้ต้นฉบับแบบนั้น นอกเสียจากว่าเนื้อเพลงของต้นฉบับจะแย่จริงๆ
“งั้นก็เพลงนี้แหละ”
คลังเพลงบนโลกเปิดกว้างแล้ว หลินเยวียนก็ต้องถือโอกาสนี้ใช้งานให้เต็มที่สักหน่อย
หลังจากอาบน้ำแปรงฟันแล้ว
หลินเยวียนล้มตัวนอนบนเตียง ออกคำสั่งในใจ “เจ้าหนู เล่นเพลงของโจวเจี๋ยหลุน[1]หน่อย”
“ฉันไม่ได้ชื่อเจ้าหนูสักหน่อย”
ระบบเถียงกลับ ก่อนจะเปิดเพลง
แน่นอนว่าโจวเจี๋ยหลุนไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเลือกเพลงในครั้งนี้
สุยอวิ๋นไม่ใช่นักร้องแนวนี้
หลินเยวียนแค่อยากฟังเพลงของโจวเจี๋ยหลุนก็เท่านั้น
ตอนนี้ระบบก็คือแอปพลิเคชันฟังเพลงของเขา คุณภาพของเพลงคมชัดเยี่ยมยอดยิ่งกว่าหูฟังราคาหลายหมื่นหยวนซะอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน