ตอนที่ 180 ผู้(กำกับ)ช่วยงาน
ทุกสิ่งพร้อมสรรพ ขาดก็เพียงลมบูรพา[1]!
วันต่อมาหลินเยวียนก็ได้พบกับโปรดิวเซอร์ที่เหล่าโจวจัดหามาให้
เดิมทีเหล่าโจวอยากช่วยหลินเยวียนหาผู้กำกับด้วย แต่หลินเยวียนกลับปฏิเสธทันควัน
เขาอยากเป็นคนเลือกผู้กำกับและนักแสดงด้วยตนเอง
เหล่าโจวใคร่ครวญสักพัก ก่อนจะตอบตกลง
ไม่ใช่ว่าสถานะความเป็นนักเขียนบทของหลินเยวียนสูงส่งล้นฟ้าอะไรหรอก
อันที่จริงทุกคนมองเรื่องถ่ายภาพยนตร์ของหลินเยวียนเป็นการเล่นเกมเป็นเพื่อนพ่อเพลงตัวน้อยคนนี้
ในเมื่อเป็นเพียงการเล่นเกม ไหนเลยจะต้องจริงจังด้วยเล่า?
แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าทุกคนจะไม่เอาจริงเอาจัง
อย่างน้อยโปรดิวเซอร์ที่เหล่าโจวจัดหามาให้หลินเยวียนก็จริงจังมากทีเดียว
โปรดิวเซอร์มีชื่อว่าเสิ่นชิง
เดิมทีสตาร์ไลท์ก็มีแผนกภาพยนตร์อยู่แล้ว เสิ่นชิงเป็นบุคลากรระดับกลางตัวเล็กๆ ในแผนกภาพยนตร์ของสตาร์ไลท์
เพียงแต่ระยะนี้สตาร์ไลท์ดึงคนสายภาพยนตร์มาเต็มไปหมด รวมไปถึงโปรดิวเซอร์ฝีมือดีอีกหลายคน
ฉะนั้นความสำคัญของเสิ่นชิงในแผนกภาพยนตร์จึงถูกกลุ่มคนที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ดึงไปทันที
แต่เสิ่นชิงก็ทำอะไรไม่ได้
เพราะกลุ่มคนเหล่านั้นมีคุณบัติและความสามารถเหนือกว่าเขาจริงๆ
เมื่อเทียบกันแล้ว ความสำคัญของเสิ่นชิงนั้นไม่มากพอให้เอ่ยถึงด้วยซ้ำ
หลังจากบริษัทเตรียมการเรื่องอัสนีบาต ทีมโปรดิวเซอร์ส่วนมากก็ถูกคนกลุ่มนั้นครอบครอง เสิ่นชิงพยายามอยู่นานก็ไม่สามารถเบียดเข้าไปยืนอยู่ในนั้นได้
บังเอิญหลินเยวียนจะถ่ายทำภาพยนตร์พอดี เหล่าโจวจึงส่งเสิ่นชิงซึ่งตกรอบจากการคัดเลือกให้เข้าร่วมงานกับเรื่องอัสนีบาตมา
แม้ว่าทุกคนต่างคิดไปในทางเดียวกันแล้วว่าหลินเยวียนกำลังเล่นสนุก แต่เสิ่นชิงนั้นได้นั่งตำแหน่งโปรดิวเซอร์เป็นครั้งแรก เขามองว่าครั้งนี้เป็นโอกาสอันล้ำค่าในการฝึกปรือฝีมือ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจแต่อย่างใด
ถึงยังไงเขาก็เข้าร่วมทีมงานเรื่องอัสนีบาตไม่ได้อยู่ดี
ได้โอกาสนั่งแท่นโปรดิวเซอร์มาฟรีๆ แบบนี้ จะไม่ให้ดีใจได้เหรอ
ฉะนั้นแล้วในเย็นวันที่เสิ่นชิงได้รับบทภาพยนตร์ของหลินเยวียนมา จึงเริ่มสร้างตารางชุดหนึ่งอย่างตั้งอกตั้งใจ พร้อมทั้งนำไปให้หลินเยวียนในวันต่อมา
ปรากฏว่าครั้งแรกที่เสิ่นชิงเห็นหลินเยวียน ก็พลันตะลึงงันไป เพราะหลินเยวียนกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน ในมือยกหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน
หนังสือมีชื่อว่า ‘ทฤษฏีเบื้องต้นว่าด้วยการถ่ายทำภาพยนตร์’
ชั่วขณะนั้น เสิ่นชิงพลันสัมผัสได้ว่าแรงกดทับบนบ่าของเขาหนักอึ้งขึ้นมาจนเกินแบกรับ ตัวแทนหลินคนนี้ลึกล้ำเกินคาดเดาจริงๆ
“สวัสดีครับ ผมชื่อหลินเยวียน”
หลินเยวียนออกตัวพูดก่อน เขาเริ่มศึกษาความรู้พื้นฐานด้านการถ่ายภาพยนตร์บ้างแล้ว
ในหนังสือเอ่ยถึงความสำคัญของโปรดิวเซอร์ในกองถ่ายไว้ด้วย
โปรดิวเซอร์รับผิดชอบกระบวนการสร้างและลงทุนของภาพยนตร์
การเลือกสถานที่ถ่ายทำ การคัดเลือกคนและติดต่อประสานงานต่างๆ ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของทีมโปรดิวเซอร์ซึ่งนำโดยเสิ่นชิง…
เสิ่นชิงก็คือหัวหน้าพ่อบ้านซึ่งคอยจัดการดูแลกองถ่ายให้หลินเยวียนในแต่ละวันนั่นเอง!
“สวัสดีครับตัวแทนหลิน ผมชื่อเสิ่นชิง”
ใช่ว่าเสิ่นชิงจะไม่เห็นหลินเยวียนอยู่ในสายตา ไม่เพียงเพราะเขาได้รับทราบสิ่งที่เหล่าโจวแจ้งมา แต่ที่หนักไปกว่านั้นก็เพราะเขาอ่านบทภาพยนตร์ของหลินเยวียนแล้วน่ะสิ
เขาไม่เชื่อว่าหลินเยวียนจะเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องการถ่ายทำภาพยนตร์เลย!
คนที่ไม่มีความรู้เรื่องภาพยนตร์ไม่มีทางเขียนบทแบบนี้ได้หรอก
นี่เป็นความรู้สึกหลังจากที่เสิ่นชิงได้อ่านเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ
เนื้อหาของบทเป็นอย่างไรยังไม่ต้องพูดถึง หากพูดในแง่ของมาตรฐานและความสมบูรณ์ บทของหลินเยวียนนี้ไม่มีปัญหาใดๆ เลย
และหากถามว่ามีปัญหาตรงไหนละก็ คงจะเป็นที่หลินเยวียนเขียนบทเอาไว้ละเอียดเกินไป แม้แต่สตอรีบอร์ดก็ยังทำไว้ล่วงหน้าเสียเสร็จสรรพ
มิหนำซ้ำเมื่อดูจากสตอรีบอร์ดของหลินเยวียนแล้ว ไม่เพียงมีความเป็นมืออาชีพอย่างเหลือเชื่อ แม้แต่ฝีมือการวาดภาพก็พลอยให้เสิ่นชิงทึ่งไปเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน