Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 181

ตอนที่ 181 สำเร็จง่าย

ในรายชื่อที่เสิ่นชิงส่งมา มีชื่อของผู้กำกับสามคน ขณะเดียวกันก็แปะลิงก์ผลงานของพวกเขาไว้ด้วย

แต่ก็เหมือนกับที่เสิ่นชิงบอกไว้ ว่าผู้กำกับเหล่านี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่

ผู้กำกับคนแรกแจ้งเกิดจากงานโฆษณา หน้าที่หลักตามปกติคือการถ่ายเอ็มวีให้นักร้องในบริษัท

ผู้กำกับคนที่สองเมื่อก่อนเคยถ่ายภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แต่ได้รับเรตติงธรรมดา ไม่โดดเด่น

ผู้กำกับคนที่สามเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้เรียนจบมาสายตรง ย้ายสายงานมาเป็นผู้กำกับระหว่างทาง แต่กลับเคยมีประสบการณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ขนาดเล็ก[1]มาแล้ว

หลินเยวียนลองเปิดดูผลงานของทั้งสามคนคร่าวๆ

ท้ายที่สุดแล้วเขาก็วงกลมที่ชื่อของผู้กำกับคนที่สาม

อี้เฉิงกง[2]

ที่เลือกผู้กำกับคนนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะชื่อสกุลของอีกฝ่ายฟังดูแล้วเป็นมงคล

เหตุผลสำคัญก็เพราะภาพยนตร์ขนาดเล็กที่อีกฝ่ายถ่ายทำออกมานั้นตลกมากทีเดียว จะบอกว่าเป็นภาพยนตร์ ไม่สู้บอกว่าเป็นคลิปรวมฉากตลกจะดีกว่า เพราะใช้ฉากสั้นๆ จำนวนมากมาประกอบรวมกันเป็นพล็อตเรื่องที่กระจัดกระจาย

ไม่ว่าอย่างไรก็ใกล้เคียงกับแนวคอมเมดีเลยละ

ถึงแม้ภาพยนตร์ขนาดเล็กของเขาล้วนเป็นฉากสั้นๆ มาปะติดปะต่อกัน ถึงขั้นที่เนื้อเรื่องกระจัดกระจายขาดความต่อเนื่อง แต่อย่างน้อยความสนุกของแต่ละฉากก็ถูกนำมาเรียงร้อยได้อย่างลงตัว เห็นได้ชัดว่าเรื่องความพยายามและความอึดอดทนนั้นไม่มีปัญหา

“ถ้าไม่โอเคค่อยเปลี่ยน”

หลินเยวียนเริ่มคัดเลือกนักแสดงด้วยหลักการนี้เช่นกัน

เมื่อเทียบกับตัวเลือกของผู้กำกับแล้ว จำนวนนักแสดงที่มีมาให้หลินเยวียนนั้นเยอะกว่ามาก

ทว่าในนั้นไม่มีนักแสดงเบอร์ใหญ่ที่พอจะเรียกกระแสได้เลย ถ้าไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการมาไม่นาน ก็เป็นนักแสดงตัวเล็กๆ ซึ่งคร่ำหวอดในวงการมานานหลายปีแต่ไม่มีชื่อเสียง

เริ่มต้นเลือกจากรูปลักษณ์ก่อน

ลำพังปัจจัยแรก หลินเยวียนก็คัดคนออกไปได้เยอะแล้ว ถึงอย่างไรตัวละครทุกตัวในเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศต่างก็มีจุดเด่นของตัวเอง

ตัวอย่างเช่นหรูฮวา[3]

ตัวอย่างเช่นพี่สือหลิว[4]

คนที่รูปลักษณ์ตรงกับตัวละครหลินเยวียนจะวงกลมไว้ก่อน

หลังจากง่วนอยู่กับเรื่องนี้อยู่สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

“เชิญครับ”

“ตัวแทนหลิน”

ผู้ที่เคาะประตูเข้ามา

หลินเยวียนเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป็นกู้ตง “จะกลับมณฑลฉีเหรอครับ”

“ฉันอยากอยู่ที่สำนักงานใหญ่ค่ะ”

กู้ตงเอ่ยอย่างตกประหม่า “สำนักงานใหญ่คิดว่าจะให้ฉันเป็นผู้ช่วยตัวแทนหลิน แต่ข้างบนบอกว่าเรื่องนี้ต้องให้ตัวแทนหลินตอบตกลงด้วยตัวเอง”

“ไม่มีปัญหาครับ”

ภาพจำที่หลินเยวียนมีต่อกู้ตงนั้นนับว่าใช้ได้

กู้ตงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง “ฉันจะตั้งใจทำงานค่ะ!”

บริษัทย่อยยังไงก็สู้สำนักงานใหญ่ไม่ได้ และการได้เป็นผู้ช่วยของตัวแทนหลินในสำนักงานใหญ่นั้นก็ยอดเยี่ยมกว่าอยู่ที่บริษัทย่อยเป็นไหนๆ!

ฉะนั้นกู้ตงจึงอยากคว้าโอกาสในการทำงานครั้งนี้มาก

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่มั่นใจว่าหลินเยวียนพอใจในตัวเธอหรือไม่

ตอนนี้ได้รับคำยืนยันจากปากหลินเยวียนแล้ว เธอถึงรู้สึกเบาใจไปเปลาะหนึ่ง

หลินเยวียนหยิบรายชื่อที่ตนวงไว้ออกมา “คุณช่วยติดต่อคุณพ่อบ้าน ให้เขาจัดเวลาแคสต์นักแสดงหน่อยครับ”

“คุณจะทำหนังจริงๆ เหรอคะ”

กู้ตงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ก่อนที่เธอจะมาที่นี่ ก็พอจะได้ยินข่าวลือมานิดหน่อยว่าตัวแทนหลินจะถ่ายภาพยนตร์เล่น

คำว่า ‘เล่น’ นี้ไปสะกิดต่อมสนใจใคร่รู้ของผู้คน และนั่นก็หมายความว่าผู้คนมากมายต่างก็มีความเห็นต่อเรื่องนี้

“ครับ”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปติดต่อให้ ว่าแต่คุณพ่อบ้านนี่คือ?”

“เสิ่นชิง เขาเป็นโปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ”

กู้ตงพยักหน้า ไม่ได้ถามให้มากความ

เธอจะไม่ห้ามหลินเยวียน เพราะประสบการณ์ที่ร่วมงานกันในบริษัทย่อยทำให้เธอเข้าใจว่า สิ่งที่ตัวแทนหลินจะทำ ต่อให้ใครเข้าไปห้ามก็ล้วนเปล่าประโยชน์

เธอเพียงแค่ทำงานในฐานะผู้ช่วยให้ดีก็เพียงพอแล้ว

ในตอนนั้นกู้ตงได้จัดวางตนเองไว้ในตำแหน่งผู้ช่วยของตัวแทนหลินเป็นที่เรียบร้อย และในฐานะผู้ช่วยของตัวแทนหลิน ขอเพียงทำตามที่ตัวแทนหลินบอกให้ทำก็ได้แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน