Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 232

สรุปบท ตอนที่ 232 เหล่าโจวหัวเราะไม่ออก: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอน ตอนที่ 232 เหล่าโจวหัวเราะไม่ออก จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 232 เหล่าโจวหัวเราะไม่ออก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 232 เหล่าโจวหัวเราะไม่ออก

ฉู่ขวง ผู้ที่พรสวรรค์ด้านวรรณกรรมเป็นเลิศ !

เขาทั้งเขียนนิยายขนาดยาวยอดนิยม ครองตลาดหนังสือในอย่างมั่นคงในฐานะผู้บุกเบิก แถมยังเขียนเรื่องสั้นสุดคลาสสิก จนหลายคนยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเขียนของวงการเรื่องสั้นซึ่งเข้าใกล้สามอาชาไนยมากที่สุด

ฉะนั้นในใจของหลายคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่า ฝีมือด้านวรรณกรรมของฉู่ขวงเหนือกว่าเซี่ยนอวี๋

ถึงขั้นที่ไม่มีใครเคยเกิดความคิดจะเปรียบเทียบฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋มาก่อน

เดิมทีก็ไม่มีความจำเป็นต้องเปรียบเทียบอยู่แล้ว

ฉู่ขวงเป็นนักเขียนพรสวรรค์โดดเด่น ส่วนฉู่ขวงเป็นนักประพันธ์เพลงฝีมือล้ำเลิศ

การนำทั้งสองวงการมาเปรียบเทียบกันจึงไม่มีความหมายอะไร

กล่าวได้เพียงว่าพรสวรรค์ด้านวรรณกรรมของฉู่ขวงชนะเซี่ยนอวี๋ขาดลอย และการประพันธ์เพลงของเซี่ยนอวี๋ก็ชนะฉู่ขวงขาดลอยเช่นเดียวกัน?

ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งสองคนติดตามซึ่งกันและกัน แถมยังมีปฏิสัมพันธ์บนโลกออนไลน์ แฟนคลับทั้งสองฝั่งไม่มีวันมาพานพบกันได้หรอก

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว

ด้วยความนิยมของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ ฝีมือด้านวรรณกรรมของเซี่ยนอวี๋ได้สำแดงออกมาอย่างเต็มที่ จึงมีแฟนคลับบางส่วนยกเรื่องนี้ขึ้นมาหยอกล้อ

แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้าย

ทุกคนต่างรับรู้กันถ้วนหน้าว่าเซี่ยนอวี๋กับฉู่ขวงนั้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันถึงขั้นที่ใส่กางเกงตัวเดียวกันได้ พวกเขาไม่มีทางตั้งตัวเป็นอริกันหรอก

อ้อ แล้วก็ยังมีอิ่งจือ

นี่คือ ‘เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ’ ทั้งสามคน

แต่อิ่งจือเป็นหน้าใหม่ในวงการการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นสถานะในวงการ หรือฐานแฟนคลับ ก็ล้วนเทียบไม่ได้กับฉู่ขวงและเซี่ยนอวี๋ ฉะนั้นทุกคนจึงไม่ได้ให้ความสนใจอิ่งจือกันสักเท่าไหร่

ก็เหมือนกับเสี่ยวหูตุ้ย[1] ทุกคนรู้จักแต่เหล่าอู๋กับเหล่าซู แต่น้อยคนนักที่จะสนใจคนที่สามเหมือนกัน…

อิ่งจือก็เป็นเพียงเงาจืดจาง โดยปกติแล้วจะปรากฏตัวในที่ที่มีฉู่ขวงและเซี่ยนอวี๋เท่านั้น

สรุปได้ว่า

เมื่อฝีมือด้านวรรณกรรมของเซี่ยนอวี๋กลายเป็นที่จดจำของแฟนคลับ บวกกับการเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ เป็นการเขียนเรื่องเหมือนกัน…

ในที่สุดทุกคนก็เกิดความคิดนึกอยากเปรียบเทียบทั้งสองคนโดยไม่รู้ตัว

ปรากฏว่าเมื่อเทียบกันเช่นนี้แล้ว น่าสนใจมากทีเดียว

ความสามารถของเซี่ยนอวี๋คล้ายกับว่าจะไม่ได้ด้อยไปกว่าฉู่ขวงเลยจริงๆ?

ถึงขั้นที่มีแฟนคลับรู้สึกว่าตนเข้าใกล้ความจริงเข้าไปอีกขั้นแล้ว…หรือเพราะว่าฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋ต่างก็มีฝีมือด้านวรรณกรรมที่ยอดเยี่ยม ทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน

ช่างเถอะๆ เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ กลับเป็นอิทธิพลอันน่าสะพรึงกลัวซึ่งมาพร้อมกับเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ!

หลังจากสัปดาห์ที่สองจบลง บวกกับบทวิเคราะห์เชิงลึกนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ กระแสของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นไปอีกขั้น!

เริ่มมีสื่อรายงานเรื่องนี้แล้ว!

[การอุบัติของกระแสหนังออนไลน์ ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ หนังทุนต่ำ ทำยอดทะลุ 150 ล้านในสองสัปดาห์!]

[เซี่ยนอวี๋: จากนักประพันธ์เพลงมือทอง สู่ผู้เขียนบท ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’]

[ก้าวแรกในวงการภาพยนตร์ของเซี่ยนอวี๋ ในบทบาทนักเขียนบท ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ ซึ่งโด่งดังไปทั่วทั้งโลกออนไลน์!]

[ฤดูร้อนกำลังจะมาถึง ภาพยนตร์ออนไลน์เบ่งบาน ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ นำทัพภาพยนตร์เข้าฉาย!]

[หนังทำเงินได้ 150 ล้านหยวน ทั้งที่ใช้เงินทุนเพียงเก้าล้าน? ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ ใช้เงินน้อยเดิมพันครั้งใหญ่ เซี่ยนอวี๋ใช้พรสวรรค์สร้างปาฏิหาริย์!]

นอกจากนี้ยังมีข่าวซึ่งเผยแพร่บทวิจารณ์ภาพยนตร์จากสตาร์เน็ตด้วย

แน่นอน บทความของเติ้งฉือก็ถูกสื่อเผยแพร่ต่อไปเช่นเดียวกัน

นี่เป็นสถานการณ์ที่แปลกเหลือเกิน…

คนที่ไม่รู้จะคิดว่า ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ ก็เป็นหนังชนโรงช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเรื่องหนึ่งเช่นกัน

เพราะช่วงปิดเทอมฤดูร้อนซึ่งเต็มไปด้วยกระแสร้อนแรงเช่นนี้ โดยทั่วไปสื่อไม่มีทางมุ่งความสนใจไปที่ภาพยนตร์ออนไลน์ และยิ่งไม่มีแฟนคลับสนใจพวกเขาเลย

ในช่วงนี้ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์แน่นขนัด ภาพยนตร์เงินทุนแค่ไม่กี่ล้านมีอะไรให้เอ่ยถึงกัน?

แต่ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศกลับทำให้สายตาของผู้คนจับจ้องมาได้!

ถึงกับที่มีสื่อบางราย วาดภาพการ์ตูนสี่ช่องเพื่ออธิบายภาพยนตร์ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนไว้อย่างน่าสนใจมากทีเดียว

สื่อรายนี้มีชื่อว่า ‘ขำขันนิวส์’ ชอบใช้การ์ตูนเพื่อนำเสนอข่าว

การ์ตูนช่องแรก

เป็นเพียงสนามแข่งรถหรูหราแห่งหนึ่ง

รถสปอร์ตรูปทรงองอาจหยิ่งผยอง กำลังเหยียบคันเร่งอย่างบ้าคลั่งให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้า

และด้านนอกสนามแข่งขัน มีจักรยานคันหนึ่ง กำลังเร่งปั่นสุดแรงเกิดเช่นกัน

ชื่อของภาพยนตร์เรื่องดังในช่วงฤดูร้อนเดือนกรกฎาคมแปะอยู่บนหัวของรถแข่ง รวมไปถึงเรื่องอัสนีบาตของสตาร์ไลท์

ส่วนจักรยานนอกสนามแข่งคันนี้ กลับแปะข้อความตัวโตว่า ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’

การ์ตูนช่องที่สอง

และเมื่อเทียบกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของวงการภาพยนตร์ออนไลน์ สภาพจิตใจของวงการภาพยนตร์กระแสหลักนั้นใกล้แตกสลายอยู่รอมร่อ

ขับรถแข่งอยู่แท้ๆ แต่กลับถูกจักรยานตามทันซะแล้ว…

จะไม่ให้แตกสลายได้ยังไงล่ะ

จักรยานบ้านแกติดเทอร์โบหรือไงฮะ

เป็นหนังออนไลน์ ก็ทำตัวให้เหมือนหนังออนไลน์หน่อยได้มั้ยล่ะ!

ดูเอาก็แล้วกัน…

สตาร์ไลท์โชคหล่นทับชัดๆ!

เดิมทียอดบ็อกซ์ออฟฟิศของเรื่องอัสนีบาตธรรมดาไม่โดดเด่น จึงไม่มีใครจับตามองสตาร์ไลท์สักเท่าไหร่

ใครจะไปคิดว่าในมุมมืดไม่สะดุดตาของสตาร์ไลท์ ภาพยนตร์ออนไลน์เรื่องหนึ่งจะเปล่งประกายขึ้นมาโดยลำพัง

ใช่แล้ว

ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนเดือนกรกฎาคม อัสนีบาตนับเป็นศึกครั้งแรกของสตาร์ไลท์

สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ในศึกครั้งแรกนี้ สตาร์ไลท์ทำผลงานได้ธรรมดา

ทว่าโชคดีที่สตาร์ไลท์ปล่อยเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศออกมาด้วย!

สำหรับโชคก้อนใหญ่ที่หล่นทับสตาร์ไลท์น่ะหรือ…

ก็แน่นอนอยู่แล้ว!

ที่ปล่อยฉายออนไลน์ เห็นได้ชัดว่าสตาร์ไลท์ไม่ได้เห็นความสำคัญกับเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศเลยสักนิด!

ปรากฏว่าภาพยนตร์ที่สตาร์ไลท์ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้แหละ ที่กอบกู้ศึกครั้งแรกของสตาร์ไลท์!

สิ่งที่โลกภายนอกไม่รู้ก็คือ เรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศได้ถูกขายให้กับหลินเยวียนไปแล้ว

ทุกคนต่างคิดว่า ในตอนนี้สตาร์ไลท์กำลังสำราญใจ แต่กลับไม่รู้เลยว่า แผนกภาพยนตร์ของสตาร์ไลท์กำลังอยู่ในสภาพมืดมนทีเดียว

คนในย่อมรู้เรื่องราวภายใน

อันที่จริงความสำเร็จในครั้งนี้ของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสตาร์ไลท์เลย

เหล่าโจวหัวเราะไม่ออกแล้ว…

จะนั่งคิดนอนคิดก็เป็นความผิดของเซี่ยนอวี๋ล้วนๆ เลย…

……………………………………………..

[1] เสี่ยวหูตุ้ย (The Little Tiger) วงบอยแบนด์สัญชาติไต้หวัน ทำกิจกรรมในปี 1989-1992 และปี 1993-1996 ประกอบไปด้วยสมาชิกสามคน ได้แก่ อู๋ฉีหลง เฉินจื้อเผิง และ ซูโหย่วเผิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน