ตอน ตอนที่ 239 ทะลุห้าสิบล้านอย่างง่ายดาย จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 239 ทะลุห้าสิบล้านอย่างง่ายดาย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 239 ทะลุห้าสิบล้านอย่างง่ายดาย
ถ้าหากเป็นโคลงคู่ของบลูสตาร์ หลินเยวียนจะต้องแสร้งว่าเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงไม่เคยเห็นมาก่อน
ถึงแม้จะทำบัญชีทางการหน้าแตกไปแล้ว แต่หลินเยวียนได้เปรียบตรงที่มีภูมิหลังบนโลกเดิม ย่อมรู้ตัวเองดี
แต่ว่า…
ขืนยังปล่อยโคลงคู่จากบนโลกออกมาอีก ฉันจะสู้จริงๆ แล้วนะ
ฝีมือต่ำต้อย ยังจะกล้าอวดดีอีกรึ
มังกรศักดิ์สิทธิ์ เทพศักดิ์สิทธิ์! [1]
ล้อเล่นหรอกน่า หลินเยวียนเพียงแค่คิดว่า นี่เป็นโอกาสในการชดเชยความผิดพลาด
ครั้งนี้จะไม่ยอมให้เซี่ยนอวี๋ไปต่อโคลงอีกแล้ว
ให้ฉู่ขวงจัดการแล้วกัน
หลินเยวียนไม่ได้ลงมือในทันที ทว่าเข้าไปดูปฏิกิริยาของชาวเน็ตซะก่อน
สิ่งที่ไม่เหนือความคาดหมายก็คือ หลายคนอ่านโคลงคู่แล้ว ปฏิกิริยาก็คือ…
ง่ายดาย!
เมื่อเทียบกับโคลงคู่ที่อ่านได้สารพัดวิธีอย่างโคลงคู่ที่ทุกคนเพิ่งถกเถียงกันไป โคลงคู่นี้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าง่ายจริงๆ!
‘ง่ายเกินไปหรือเปล่า’
‘บทนี้ฉันต่อได้ [ลั่นวาจาลิขิตจักรวาล]’
‘ฟังดูธรรมดา แต่น่าสนใจอยู่นะ’
‘ที่สำคัญก็คือ ไม่ยากจริงๆ นั่นแหละ สุ่มขึ้นมาสักวรรคก็ต่อได้แล้ว’
‘หรือว่าจะเป็นปริศนาอีก?’
‘มีโอกาสเป็นแบบนั้นสูงมาก ไม่งั้นไม่มีทางใส่ไว้เป็นด่านสุดท้ายหรอก’
‘…’
ชาวเน็ตกำลังถกเถียงกัน
ฉู่ขวงยังไม่ทันได้ตอบอะไร เฝิงฉางเซิงก็โพสต์อีกครั้งหนึ่ง
‘ผมต่อวรรคหลังว่า [เห็นรอยเท้าประทับบนขั้นบันได]’
ชาวเน็ตต่างก็อึ้งไป
มองดอกท้อร่วงหล่นบนหิมะ เห็นรอยเท้าประทับบนขั้นบันได
ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่นา
มองคู่กับเห็น ดอกท้อคู่กับรอยเท้า ร่วงหล่นคู่กับประทับ หิมะคู่กับขั้นบันได
หรือว่าจับคู่ได้ไม่ไพเราะพอ?
พวกเขาเกิดความงุนงงเช่นเดียวกับเฝิงฉางเซิง
มีชาวเน็ตบางส่วนเมนชันหาบัญชีผู้ใช้ทางการ และเล่นมุกจากเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ
‘ตายหรือยัง ลุกมาดูหน่อยซิว่าโคลงคู่นี้ไม่มีปัญหา’
บัญชีทางการเห็นแนวโน้มนี้ ก็เริ่มกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา เมนชันหาเฝิงฉางเซิงทันที ตอบกลับไปว่า ‘ผิดมากผิดมหันต์!’
ก่อนหน้านี้ยังกระอักเลือดสามลิตรอยู่เลย ตอนนี้เลือดสูบฉีดกลับมาเต็มหลอดซะแล้ว
หลินเยวียนผุดยิ้ม
เขาคิดว่าตอนนี้จะส่งให้ฉู่ขวงออกโรงแล้ว
เพื่อไม่ให้พลาดยิงเข้าประตูตัวเองซ้ำสอง หลังจากที่หลินเยวียนตรวจสอบชื่อของบัญชีที่ล็อกอินแล้ว ก็โพสต์โคลงท่อนหลังของตนไป
‘พินิจดูทิวเขาราวธารคด’
วรรคหลังนี้ง่ายแสนง่าย ไม่ต่างจากวรรคแรกเลย
ชาวเน็ตต่างก็ไม่เข้าใจ เพราะทั้งวรรคแรกและวรรคหลังต่างก็ง่ายดายเกินไป…
เพราะว่าง่ายเกินไปนี่แหละ ถึงทำให้คนรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด
ทั้งแฟนคลับของเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวง ก็แตกตื่นกันเหมือนเคย
‘ครั้งนี้ฉู่ขวงออกโรงแล้ว’
‘ฉู่ขวง: จะให้เซี่ยนอวี๋เฉิดฉายคนเดียวไม่ได้หรอก’
‘ฉู่ขวง: เสี่ยวอวี๋ยอดยาหยี เจ้าถอยก่อน ข้าจะไขปัญหานี้เอง’
‘อธิบายเรื่องคำอ่านยังไม่พอ เซี่ยนอวี๋เพิ่งจะต่อโคลงระดับเทพไป ฉู่ขวงอาจกำลังเร่งมือพิสูจน์ว่าตัวเองคู่ควรกับเสี่ยวอวี๋’
‘ฉันสงสัยว่าฉู่ขวงเองก็ไม่รอด’
‘…’
อย่างที่คาดไว้
ทันที่ฉู่ขวงโพสต์โคลงวรรคหลังไป บัญชีทางการของยอดนักต่อโคลงกลอนก็ตื่นเต้นขึ้นมา และโพสต์ภาพหนึ่ง พร้อมทั้งแนบคำประกอบว่า
‘เรียกเซี่ยนอวี๋มาเลยดีกว่า’
ภาพที่แนบมาในโพสต์ เป็นภาพนายพรานหัวล้านใช้กับดักจับหมีโง่ตัวยักษ์ใหญ่ เมื่อเผชิญหน้ากับหมีโง่ที่โกรธเกรี้ยวในกับดัก นายพรานก็เหงื่อตกทันที…
ความหมายโดยนัยก็คือฉู่ขวงเป็นหมีโง่?
แฟนคลับฉู่ขวงจึงไม่พอใจขึ้นมา!
‘มีปัญหาอะไรไม่ทราบ’
‘ไม่มีปัญหาอะไรนี่’
‘ก็ต่อได้ดีไม่ใช่เหรอ’
‘ใช้คำเพราะด้วยนะ’
‘นั่นดิ’
‘แอคทางการหน้าแตก เลยเริ่มงอแงแล้ว’
‘…’
บัญชีผู้ใช้ทางการย่อมไม่กล้าราดน้ำมันใส่ไฟโทสะของผู้คน ฉู่ขวงคนนี้มีแฟนคลับไม่น้อย พวกเขาทำได้เพียงออกมาอธิบาย
‘วรรคแรกของเราคือมองดอกท้อร่วงหล่นบนหิมะ[2] เราใช้เสียงที่คล้องจองกับโด-เร-มี-ฟา-ซอล-ลา-ที ทั้งเจ็ดเสียงในบันไดเสียงนี้เอง!’
โอ้มายก้อด!
บัญชีทางการเจ้าเล่ห์มาก!
แฟนคลับของฉู่ขวงพากันงงกัน
ไม่ใช่หรือไง
มองดอกท้อร่วงหล่นบนหิมะ นั้นเป็นเสียงที่คล้องจองกับบันไดเสียงทั้งเจ็ด
มิน่าละ ดูเหมือนง่ายดาย ที่แท้ก็แฝงไปด้วยกลไกสังหาร!
‘เข้าใจแล้ว’
เฝิงฉางเซิงเข้ามาร่วมวงสนทนา ถึงอย่างไรเรื่องนี้เขาเองก็เป็นคนเสนอขึ้นมา ‘เป็นผมที่ขบคิดปริศนาไม่ออกเอง แต่ตอนนี้ผมต่อไม่ได้ อาจารย์เซี่ยนอวี๋ลองดูก็แล้วกัน’
เห็นได้ชัด
คำพูดของเฝิงฉางเซิงมีความนัยว่า ฉู่ขวงตกหลุมพรางโคลงคู่ของบัญชีทางการเข้าเต็มๆ
ดูเหมือนว่าต้องรอพึ่งแค่เซี่ยนอวี๋แล้ว
แต่เซี่ยนอวี๋ก็ได้เปรียบอย่างชัดเจน เพราะบัญชีทางการให้คำใบ้มาแล้ว เซี่ยนอวี๋เพียงต่อไปตามคำใบ้ก็เป็นอันใช้ได้ ระดับความยากจึงลดลงอย่างไม่ต้องสงสัย
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลายคนเชื่อว่าเซี่ยนอวี๋ต่อวรรคหลังได้
‘อาจารย์เซี่ยนอวี๋มาสะสางเร็ว!’
‘มาล้างแค้นให้ฉู่ขวงเร็ว!’
‘ดูดิ แอคทางการบูลลี่ฉู่ขวงของคุณ!’
‘ทนได้เหรอ’
‘เซี่ยนอวี๋กลับมาเร็ว!’
‘…’
ชาวเน็ตรับส่งกันอย่างคล่องแคล่ว
ทว่าแฟนคลับของเซี่ยนอวี๋ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเซี่ยนอวี๋จะช่วยแก้แค้นให้ฉู่ขวงได้ ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ฉู่ขวงก็เป็นปากเป็นเสียงแทนเซี่ยนอวี๋จนครบถ้วนกระบวนความ
แต่น่าเสียดาย…
วรรคหลังของฉู่ขวงมีปัญหา
ต่อให้เซี่ยนอวี๋แก้แค้นแทนฉู่ขวง ฉู่ขวงก็เสียหน้าไปแล้วหลายส่วน
แต่ถึงอย่างนั้น
เพราะโคลงคู่ของทั้งสองยอดเยี่ยมจริงๆ!
‘ฝีมือของสองคนนี้ไม่มีใครยอมใครเลย!’
‘ตอนแรกผมคิดว่าโคลงคู่ของเซี่ยนอวี๋เหนือกว่าฉู่ขวง แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้ว’
‘ฉู่ขวงไขปริศนาของแอคทางการออกเร็วขนาดนี้ ก็พอจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าฉู่ขวงมีฝีมือด้านการต่อโคลงคู่แล้วล่ะ!’
‘ถ้าไม่ได้มีพรสวรรค์โดดเด่นเหมือนกัน จะกลายเป็นเพื่อนรักที่แค่มองตาก็รู้ใจได้เหรอ’
‘มิน่าล่ะพวกเขาถึงไม่ฟอลคนอื่น แต่ฟอลกันเอง’
‘เดี๋ยวนะ พวกคุณลืมอิ่งจือไปหรือเปล่า’
‘เอาเถอะ พวกเขาสองคนก็ติดตามอิ่งจือ แต่ถ้าคุณไม่เตือน ฉันก็คงลืมไปแล้ว’
‘…’
ชาวเน็ตมีอารมณ์ร่วมอย่างมาก ก็แค่การต่อโคลงคู่ แต่กลับทำให้ใครหลายคนยิ่งเกิดความรู้สึกขึ้นในใจ และเหตุผลหลักก็เห็นจะเป็นเพราะปฏิสัมพันธ์ของเทพเซียนอย่างฉู่ขวงและเซี่ยนอวี๋
“ฮู้ว…”
หลินเยวียนผ่อนลมหายใจยาว
กู้สถานการณ์หลังจากยิงเข้าประตูตัวเองมาได้แล้ว
ที่ใช้บัญชีของเซี่ยนอวี๋มาอธิบายโคลงวรรคหลังของฉู่ขวง ก็เพื่อให้สร้างภาพว่าทั้งสองฝ่ายมีปฏิสัมพันธ์กันสักหน่อย
หลินเยวียนคิดว่าวิธีนี้ จะทำให้ความเก่งกาจของฉู่ขวงโดดเด่นขึ้นมา
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ที่จะไม่ทำให้ตัวตนของหลินเยวียนถูกเปิดเผยง่ายๆ
จะไม่มีทางถูกเปิดเผย ไม่มีทาง!
ไม่อย่างนั้น ต่อให้เป็นคนที่สภาพจิตใจมั่นคงอย่างหลินเยวียน ก็อาจรู้สึกทนไม่ไหวจนแทบต้องแทรกแผ่นดินหนีก็ได้
หลินเยวียนไม่ได้สนใจเรื่องของโคลงคู่อีกต่อไป
เขาปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนจะตรงกลับบ้าน
สิ่งที่หลินเยวียนไม่รู้ก็คือ…
หลัวเวยซึ่งกลับบ้านไปแล้ว ก็ล็อกอินบัญชีปู้ลั่วของอิ่งจือและเห็นความเป็นไปที่เกิดขึ้นทั้งหมดระหว่างเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวง
“อาจารย์อิ่งจือ อย่าร้องไห้”
หลัวเวยปลอบใจบัญชีที่ตนล็อกอินไว้อย่างอดไม่ได้ แน่นอนว่าในใจมีภาพของหลินเยวียนลอยมา
เขาจะต้องเสียใจมากแน่ๆ
ฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋ เข้าใจกัน รู้ใจกันเหลือเกิน
ถ้าหากว่าความสัมพันธ์นี้เป็นรถคันหนึ่ง อิ่งจือคงจะไม่ได้อยู่ในรถ แต่อยู่ใต้ท้องรถมากกว่า…
ถ้าหากว่านี่เป็นภาพยนตร์ที่มีสามคน ทั้งที่เป็นภาพยนตร์ที่มีสามคน แต่อิ่งจือกลับไร้ชื่อเสียงเรียงนาม…
ไม่เป็นไร!
เดี๋ยวจะต้องผลักดันอนิเมชันเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิส ถ้าการ์ตูนเรื่องนี้ถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมชันเมื่อไหร่ จะต้องดังเป็นกระแสแน่นอน!
พอถึงตอนนั้น สายตาของฉู่ขวงจะไม่จ้องมองเพียงเซี่ยนอวี๋ แต่จะหันมามองอิ่งจือด้วย!
หลัวเวยแน่วแน่มาก
เพราะเธอตั้งปณิธานไว้แล้วว่าจะต้องช่วยอิ่งจือเอาชนะใจฉู่ขวงให้ได้!
แต่ว่า…
หลัวเวยเองก็ต้องยอมรับว่าเซี่ยนอวี๋เก่งมากจริงๆ เก่งถึงขั้นที่ความสำเร็จของอิ่งจือในตอนนี้ ไม่มีวันเทียบกับอีกฝ่ายได้เลย
อีกทั้ง…
สิ่งที่น่าเสียดายมากก็คือ
เรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสฉบับการ์ตูนซึ่งทำให้อิ่งจือโด่งดังขึ้นมานั้น กำลังจะจบลงในไม่ช้า
หลังจากการ์ตูนจบลง
อิ่งจือควรไปทางไหนดี
………………………………………………..
[1] ‘ฝีมือต่ำต้อย ยังจะกล้าอวดดีอีกรึ มังกรศักดิ์สิทธิ์ เทพศักดิ์สิทธิ์!’ มาจากบทพูดฉากหนึ่งในเรื่องนางพญางูขาว (1993)
[2] มองดอกท้อร่วงหล่นบนหิมะ ในต้นฉบับภาษาจีนออกเสียงว่า ตู๋หล่านเหมยฮวาเส่าล่าเสวี่ย
[3] พินิจดูทิวเขาราวธารคด ในต้นฉบับภาษาจีนออกเสียงว่า ‘ซี่นี่ซานซื่ออู่หลิวซี’ ซึ่งออกเสียงคล้ายกับ ‘อีเอ้อร์ซานซื่ออู่ลิ่วชี’ ซึ่งหมายถึง ‘หนึ่งสองสามสี่ห้าหกเจ็ด’ ในภาษาจีน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...