ตอนที่ 240 จักรพรรดิแห่งโชคลาภ
การต่อโคลงกลอนเป็นเพียงกระแสที่เล่นกันเพื่อความสนุกสนาน เช่นเดียวกับ ‘ลูกโป่งชาเลนจ์’ ก่อนหน้านี้ กระแสบนโลกออนไลน์ที่คล้ายคลึงกันผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ทว่าอิทธิพลของเหตุการณ์นี้ไม่ได้อันตรธานไปอย่างง่ายดาย
ชาวเน็ตหลายคนล้วนจดจำความสำเร็จของเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวง
ช่วงเวลาหลังจากนั้น
บรรดาไทยมุงล้วนเริ่มพูดคุยถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องผลศึกการต่อโคลงในครั้งนี้
เซี่ยนอวี๋และฉู่ขวง ใครมีฝีมือด้านวรรณกรรมมากกว่ากัน
การพูดคุยกันเรื่องนี้ ถูกลิขิตชะตามาให้ไร้ซึ่งคำตอบ
เพราะฉู่ขวงและเซี่ยนอวี๋ถึงแม้จะมีฝีมือด้านวรรณกรรม แต่จุดเด่นของทั้งสองคนก็แตกต่างกัน
คนแรกสันทัดการเขียนนิยาย นิยายขนาดยาวและเรื่องสั้นล้วนคุมได้อยู่หมัด แถมยังช่ำชองการวางพล็อตอย่างประณีตและตื่นเต้นเร้าใจ
คนหลังเชี่ยวชาญการเขียนโดยเน้นบทกลอนและเนื้อเพลง มีพรสวรรค์เรื่องท่วงทำนองและจังหวะมากกว่า นอกจากนั้นยังมีบทภาพยนตร์ที่พล็อตเรื่องไม่โดดเด่น ทว่าตลกขบขันใช้ได้
การถกเถียงนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่เรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศอุบัติขึ้นบนบลูสตาร์
เพียงแต่เรื่องของโคลงคู่ในครั้งนี้ มีผู้ที่เข้าร่วมวงสนทนาอย่างอุ่นหนาฝาคั่งก็เท่านั้นเอง
และบรรดาผู้ที่ชอบหยอกมักกล่าวถึงการมีอยู่ของบุคคลที่สามอย่างอิ่งจือในบทสนทนาดังกล่าว และคำพูดของพวกเขามักจะเต็มไปด้วยการเสียดสี
‘อิ่งจือ: ฉันมันไม่มีตัวตนหรือไง’
‘เห็นอยู่แท้ๆ ว่าฉู่ขวง’
‘เห็นคนอื่นเป็นเงาแค่นั้นหรือ’
‘อิ่งจือก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของรักสามเส้านี้ใช่ไหมล่ะ’
‘การมีอยู่ของอิ่งจือนั้นแสนน้อยนิด ฮ่าๆๆๆ’
‘ทุกคนต่างรู้กันว่า ในทุกๆ กลุ่มที่มีสามคน จะมีหนึ่งคนที่เป็นเงาจืดจางเสมอ’
‘…’
การมีอยู่ที่เหลืออยู่ของอิ่งจือได้ถูกทุกคนสัพยอกหยอกเอินกันสารพัด
ถึงอย่างไรเมื่อเทียบกับชื่อเสียงของฉู่ขวงและเซี่ยนอวี๋แล้ว อิ่งจือเป็นเพียงนักวาดหน้าใหม่ที่เปี่ยมพรสวรรค์ในวงการบันเทิงเท่านั้นเอง
ปู้ลั่วของอิ่งจือมีแฟนคลับติดตามเพียง 10 ล้านเศษ
ในจำนวนนี้ยังมีบางส่วนที่ตามมาจากเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวง
นี่คือข้อพิสูจน์ว่าระดับการมีตัวตนของอิ่งจือนั้นแสนต่ำเตี้ย
ต้องเข้าใจว่าจำนวนผู้ติดตามของเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงนั้นทะยานขึ้นแตะ 50 ล้านคนไปแล้วหลังจากศึกต่อโคลงคู่
ถ้าหากไม่ใช่เพราะการติดตามกันแบบปิดของเซี่ยนอวี๋ ฉู่ขวง และอิ่งจือ ชาวเน็ตหลายคนคงถึงขั้นไม่ได้ใส่ใจว่าอิ่งจือเป็นใคร
หลัวเวยรู้เรื่องเหล่านี้อยู่เต็มอก เธอจึงรู้สึกเศร้าใจอยู่บ้าง
ไม่รู้ว่าทำไม หลัวเวยถึงรู้สึกเห็นอกเห็นใจอิ่งจืออยู่บ้าง อาจเป็นเพราะเธอเป็นผู้ดูแลบัญชีผู้ใช้ของอิ่งจือ และอาจเป็นเพราะหลินเยวียนเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้กับเธอ…
แต่สิ่งที่ทำให้หลัวเวยรู้สึกหดหู่ก็คือ หลินเยวียนซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คล้ายกับว่าจะไม่ได้รับผลกระทบเลยสักนิด
ต่อให้เป็นเรื่องการต่อโคลงกลอน เซี่ยนอวี๋กับฉู่ขวงก็พะเน้าพะนอกันไป เจ้าตัวกลับไม่อนาทรร้อนใจ ประหนึ่งว่ายืนโปร่งแสงอยู่ตรงนั้น
หลัวเวยเศร้าใจในความโชคร้ายของเขา โกรธเคืองที่เขาไม่ต่อสู้
ในวันนี้ การ์ตูนเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสยังคงอัปโหลดเช่นเคย ซึ่งทำให้เรื่องนี้เข้าใกล้ตอนจบไปอีกขั้น
จู่ๆ หลัวเวยก็ร้องเรียกหลินเยวียนซึ่งกำลังจะออกจากออฟฟิศไป
“มีอะไรเหรอครับ”
หลินเยวียนเอ่ยถาม
หลัวเวยกล่าวอย่างจนใจ “ปรินซ์ออฟเทนนิสกำลังจะอัปจบแล้ว คุณไม่มีแผนต่อไปเหรอคะ”
จักรพรรดิไม่ร้อนใจ แต่ขันทีร้อนใจจะแย่แล้วเนี่ย
คนคนนี้ทำไมถึงนิ่งได้ขนาดนี้
แต่ตัวเธอนี่สิ เป็นแค่ผู้ช่วยตัวเล็กๆ แท้ๆ แต่กลับคอยช่วยหลินเยวียนอยู่ตลอด แถมยังเป็นกังวลแทนอิ่งจืออีก
“ก็คงวาดรูปต่อไปครับ”
หลินเยวียนตอบไปตามตรง
วาดการ์ตูนอยู่ทุกวัน หลินเยวียนย่อมรู้ว่าปรินซ์ออฟเทนนิสกำลังจะจบลง
ทว่าเรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อนสำหรับหลินเยวียน เขาเพียงแต่ต้องใช้ตัวตนในฐานะอิ่งจือวาดการ์ตูนเรื่องใหม่ก็ใช้ได้แล้ว
ส่วนการ์ตูนมาจากไหนน่ะหรือ
แน่นอนว่าสั่งผลิตกับระบบ
หลินเยวียนยืนยันเรื่องนี้กับระบบแล้ว ทางระบบสามารถสร้างการ์ตูนได้
จะว่าไปแล้ว
อันที่จริงหลินเยวียนให้ความสำคัญกับอิ่งจือเป็นอย่างมาก
เพราะการมีอยู่ของอิ่งจือ เป็นวิธีหลักที่หลินเยวียนใช้เพิ่มค่าความโด่งด้านจิตรกรรมของตน!
ไม่ว่าจะเป็นสีกวอช สเก็ตช์ หรือภาพวาดพู่กันโบราณ…
ในแง่ของความเร็วในการเพิ่มขึ้นของค่าความโด่งดัง การ์ตูนนั้นรวดเร็วที่สุดตลอดกาล!
“ฉันรู้ค่ะ”
หลัวเวยถอนหายใจ “ฉันอยากถามว่าการ์ตูนเรื่องต่อไปของเราเตรียมวาดอะไรเหรอคะ ช่วงนี้ฉันลองศึกษาดู ผลงานในมือของฉู่ขวงที่สามารถดัดแปลงได้มีเรื่องกระบี่เทพสังหารกับคนขุดสุสาน คุณคิดว่าจะเลือกสักเรื่องในนี้มาดัดแปลงไหมคะ ขอโทษที่ฉันต้องพูดตามตรง สองเรื่องนี้ดัดแปลงออกมาเป็นการ์ตูน ผลลัพธ์น่าจะสู้ปรินซ์ออฟเทนนิสไม่ได้ค่ะ”
“ไม่จำเป็นครับ”
หลินเยวียนไม่ได้คิดจะดัดแปลงนิยายทั้งสองเรื่องนี้เป็นการ์ตูน ไม่ใช่ว่าแก้ไม่ได้ แต่อย่างที่หลัวเวยบอก ผลลัพธ์ของนิยายเรื่องนี้หลังจากดัดแปลงออกมาแล้วน่าจะไม่ได้ดีกว่าปรินซ์ออฟเทนนิส
หลัวเวยดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย “คุณหมายความว่า การ์ตูนเรื่องต่อไปจะสร้างขึ้นมาใหม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน