ตอนที่ 241 จิตวิญญาณสือจี่
การ์ตูนในกล่องสมบัติทั้งสามเรื่องนี้ หลินเยวียนล้วนเคยได้ยินมาบ้าง
ยอดขายโดยละเอียดของการ์ตูนแต่ละเรื่อง หลินเยวียนจำไม่ได้หรอก แต่ในภาพจำที่เขามีอยู่ เรื่องจิตวิญญาณสือจี่นับเป็นการ์ตูนที่มีอิทธิพลสูงมากเรื่องหนึ่ง
ยอดขายของผลงานเรื่องนี้ก็แลดูว่าสูงมากเช่นเดียวกัน
อย่างไรซะก็เป็นถึงหนึ่งในการ์ตูนแนวทำอาหารยอดนิยมบนโลก
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่การบุกเบิกการ์ตูนประเภทใหม่แต่อย่างใด
อุตสาหกรรมการ์ตูนของบลูสตาร์ก้าวหน้ามาก มีคนวาดการ์ตูนแนวทำอาหารซึ่งเป็นกระแสร้อนแรงมานานแล้ว เพียงแต่หลายปีมานี้คนวาดการ์ตูนแนวทำอาหารนั้นมีน้อยมาก
ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม แต่ก็ไม่ได้เฉพาะกลุ่มเสียทีเดียว
เรื่องเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่หลินเยวียนได้เรียนรู้เมื่อได้สนทนาฆ่าเวลากับหลัวเวย
เมื่อเทียบกับหลินเยวียน หลัวเวยนับว่าเข้าใจเรื่องของการ์ตูนและอนิเมชันมากกว่าหลินเยวียน
สิ่งที่เรียกว่าโอตาคุตัวแม่ แฟนอนิเมชันฮาร์ดคอร์ สาววายสมัยใหม่ ล้วนเป็นคำนิยามในตัวหลัวเวย
ตอนนี้เมื่อการ์ตูนได้รับการยืนยันแล้ว ก็ถึงเวลาแล้วที่หลินเยวียนควรขบคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้ควรเผยแพร่ด้วยวิธีใดดี…
เงื่อนไขที่ต้องมั่นใจก่อนก็คือ
การ์ตูนเรื่องนี้จำเป็นต้องทำเงิน!
การ์ตูนเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสซึ่งอัปโหลดในปู้ลั่วนี้ใช้หัวใจเป็นแรงขับเคลื่อนล้วนๆ
เนื่องจากหลินเยวียนขาดแคลนค่าความโด่งดัง ดังนั้นจึงยอมลงการ์ตูนให้ผู้อ่านอ่านฟรี นอกจากนี้ การ์ตูนเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสไม่ได้เสียเงิน เขาจึงใช้ประโยชน์จากการดัดแปลงนิยายของระบบ
ทว่าครั้งนี้กลับต่างออกไป
จ่ายเงินไป 10 ล้านเพื่อสั่งผลิตเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ ถ้าทำเงินไม่ได้ละก็ เท่ากับเขาเข้าเนื้อตัวเองน่ะสิ?
หลินเยวียนไม่ทำธุรกิจโดยปราศจากเงินหรอก
เมื่อพิจารณาถึงจุดนี้ การเผยแพร่การ์ตูนเรื่องนี้ จำเป็นต้องทำเงินได้
คิดถึงจุดนี้
หลินเยวียนใช้โหมดอ่านความเร็วสูง อ่านเรื่องจิตวิญญาณสือจี่จบรอบหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ทำความเข้าใจกับเรื่องราวเบื้องหลังของการ์ตูนเรื่องนี้
ที่แท้ช่วงท้ายของเรื่องจิตวิญญาณสือจี่บนโลกได้ออกทะเลไปแล้ว
เพราะในช่วงท้ายของเรื่องก็ปรากฏแนวคิดของการมีพลังพิเศษขึ้นมาซะอย่างนั้น
เซ็ตติงจำพวกเรื่องพลังพิเศษ สำหรับอนิเมชันเกี่ยวกับอาหารนั้นเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก
ภาพของผู้ใช้พลังวิเศษซึ่งสะท้อนจากการ์ตูนนั้นแข็งแกร่งมาก ตัวร้ายซึ่งใช้พลังพิเศษในลักษณะนี้ มักจะอาศัยพลังของพลังพิเศษจนแข็งแกร่งอย่างอดไม่ได้
ผู้ใช้พลังพิเศษเอาชนะตัวเอก โดยอาศัยความสามารถในการใช้พลังพิเศษตามใจปรารถนา สุดท้ายแล้วก็พ่ายแพ้ให้กับตัวเอก เพราะสายเลือดอันอธิบายไม่ได้ในร่างกายของอีกฝ่าย
อะไรฟระเนี่ย
การ์ตูนที่ดีเรื่องหนึ่ง สุดท้ายดันไปลงเอยทฤษฎีสายเลือดซึ่งใช้กันทั่วไปในอนิเมชันต่อสู้ มิน่าล่ะถึงถูกตัดครึ่ง
แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นผลเสียที่เกิดจากสำนักพิมพ์เข้าไปแทรกแซงจังหวะของนักวาด นักเขียนทำได้เพียงแบกความรับผิดชอบครึ่งหนึ่ง
อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ
เรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสบนโลก ในตอนท้ายก็ปรากฏคู่แข่งจากต่างโลกเช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้การ์ตูนทั้งเรื่องพังลง และดูเหมือนว่าความเหลวแหลกไม่เป็นท่าของพล็อตเรื่องล้วนมาจากจินตนาการอันโลดแล่นเกินขอบเขต
ก็เหมือนกับเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิส
เมื่อระบบจำแนกและรวบรวม กระชับให้เรื่องจิตวิญญาณสือจี่สั้นลง และจัดพล็อตเรื่องให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
แน่นอน
ด้วยเหตุนี้เอง ความยาวของการ์ตูนทั้งเรื่องจึงสั้นลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เมื่อพิจารณาถึงชื่อเสียงของอิ่งจือ หลินเยวียนรู้สึกว่าการจบเรื่องก่อนพล็อตเรื่องจะพัง ก็นับว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ไม่เลวเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน