ตอนที่ 262 เกณฑ์การเป็นพ่อเพลง
“เยี่ยมยอด!”
ผู้จัดการของหลานเหยียนคิดเช่นนั้นในใจ ปากก็พูดออกมาเช่นนั้น แน่นอนว่าเขาพูดออกมาหลังจากที่บทเพลงจบลง
แต่ถึงอย่างไร การเอ่ยออกมาเช่นนี้ก็ทำให้ผู้คนสงสัยว่าเขากำลังเสียอาการ ฉะนั้นเขาจึงกระแอมออกมาอย่างประดักประเดิด
“ขอโทษครับ ผมตื่นเต้นไปหน่อย เพลงนี้ดีจริงๆ!”
เจิ้งจิงยิ้ม มองไปทางหลินเยวียนด้วยแววตาเป็นประกาย
“ใช้ท่อนคอรัสขึ้นนำได้อย่างกล้าหาญ ช่วงเปลี่ยนผ่านถึงจะใช้เอฟเฟ็กต์ที่ต่ำลงแต่ก็เห็นได้ชัดเจน สามารถทำให้เพลงติดหูคนฟังได้อย่างรวดเร็วที่สุด เทคนิคการเล่นซ้ำและวิธีเชื่อมเพลงทำได้เป็นธรรมชาติ การข้ามโน้ตในช่วงท้ายก็ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ เทคนิคการซ้ำในช่วงท้ายก็ละเอียด เห็นไคลแม็กซ์ของเพลงอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฟังแล้วรู้สึกเหนื่อย…อื้ม เยี่ยมยอดจริงๆ”
“???”
ผู้จัดการของหลานเหยียนสีหน้าสับสนในทันที
ที่คุณพูดต่างกับผมตรงไหนล่ะเนี่ย
ก็หมายความว่าเยี่ยมยอดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ
หลานเหยียน “…”
เขารู้สึกว่าถ้าให้เขาประเมินอีกก็คงไม่จำเป็น จึงทำได้เพียงละไว้จนเหลือเพียงท่อนหลัง
“เยี่ยมยอด!”
พูดจบก็หันไปสบตากับผู้จัดการ ความรู้สึกก็พลันซับซ้อนขึ้นมา
แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาคิดจะปฏิเสธเซี่ยนอวี๋
หากเป็นสถานการณ์ปกติ คงไม่มีใครปฏิเสธเพลงของหลินเยวียนหรอก ถึงขั้นที่แทบจะปูพรมแดงต้อนรับเลยด้วยซ้ำไป ไม่เว้นแม้แต่ราชาเพลง
แต่นี่คือเพลงซึ่งใช้สำหรับในการเฉลิมฉลองครบรอบหลังจากที่ฉินและฉีผนวกรวมกัน มีทางการเป็นผู้สนับสนุน เป็นเพลงที่ขึ้นเป็นข่าวได้ กอปรกับมหาสงครามระหว่างเทพเซียนในเดือนธันวาคมนั้นต้องดุเดือด แน่นอนว่าหลานเหยียนต้องมั่นใจว่าไพ่ที่ตนวางลงไปนั้นเป็นใบที่ดีที่สุด!
เพราะเพลงนี้สำคัญมากจริงๆ!
เดิมทีพวกเขาคิดว่าไพ่ใบนี้จะเป็นหนึ่งในพ่อเพลงของบริษัทอย่างอาจารย์เจิ้งจิง
ในวงการนี้
นอกจากนักประพันธ์เพลงมือทองแล้ว นักประพันธ์เพลงซึ่งอยู่เหนือกว่ามือทองนั้นมีทั้งแข็งแกร่งมีทั้งอ่อนแอ ทว่าพ่อเพลงกลับเป็นต้นกำเนิดและคำตอบทุกอย่างของปัญหาด้านบทเพลง!
ต่อให้เป็นคนที่ไม่รู้เกี่ยวกับดนตรีก็ยังรู้ว่าควรเลือกอย่างไร
แต่เมื่อได้ฟังเพลงตะวันฉาย หลานเหยียนกลับเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยรู้สึกสงสัยเช่นนี้มาก่อน
เพลงของเจิ้งจิง จะดีกว่าเพลงของเซี่ยนอวี๋อีกหรือ?
ไม่ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงความสงสัยอีกต่อไป ถึงขั้นเข้าใกล้ความเชื่อมั่นแล้ว
เพลงของเจิ้งจิง เป็นไปได้มากว่าจะสู้เพลงนี้ไม่ได้!
พ่อเพลงเป็นคำตอบของทุกอย่างในวงการดนตรี เพราะผลงานของพ่อเพลงจะดีที่สุดเสมอ แต่แก่นแท้ของปัญหาย่อมต้องย้อนกลับไปที่ผลงาน
หลินเยวียนไม่ใช่พ่อเพลง แต่บางทีผลงานของเขาในครั้งนี้อาจแสดงศักยภาพล้ำหน้าไปแล้วก็ได้
สรุปแล้วเพลงตะวันฉายนั้นเป็นผลงานระดับพ่อเพลง และควรค่าแก่การยืนอยู่ระดับนี้!
และนี่สอดคล้องกับสถานะ ‘พ่อเพลงตัวน้อย’ ของเซี่ยนอวี๋
สามารถเขียนผลงานระดับนี้ออกมาได้ ต่อให้อยู่เหนือความคาดหมาย ก็ยังนับว่าสมเหตุสมผล
ไม่อย่างนั้นทำไมถึงบอกว่าเซี่ยนอวี๋มีศักยภาพในการเป็นพ่อเพลงล่ะ
ถึงขั้นที่ ต่อให้เป็นพ่อเพลง ก็ใช่ว่าจะสามารถเขียนเพลงระดับนี้ออกมาได้!
ในฐานะนักร้องระดับพ่อเพลง หลานเหยียนย่อมประเมินความสามารถของอีกฝ่ายได้
เห็นชัดแล้วไม่ใช่หรือ?
แม้แต่เจิ้งจิงเองก็ยังประหลาดใจ ให้คำวิจารณ์อย่างจริงใจว่า ‘เยี่ยมยอด’
เรื่องนี้จะทำอย่างไรล่ะ
ก่อนอื่น หลานเหยียนต้องการเพลงตะวันฉายอย่างแน่นอน ถึงกับรู้สึกอดใจรอไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ
ทว่าก่อนหน้านี้ตนคิดเพียงว่าจะปฏิเสธเซี่ยนอวี๋อย่างอ้อมๆ อย่างไรดี แต่ตอนนี้สถานการณ์ดันกลับตาลปัตร
เขาเริ่มกังวลแล้วว่าต่อจากนี้ตนจะปฏิเสธเจิ้งจิงอย่างไรดี…
พระเจ้า!
ปฏิเสธพ่อเพลง!
ก่อนหน้านี้หลานเหยียนไม่กล้าแม้แต่จะคิด!
แน่นอนว่าเขาคงไม่ได้บอกปัดถึงขั้นตัดบัวไม่เหลือใย
เพียงแต่ถ้าเพลงของเจิ้งจิงสู้เพลงตะวันฉายไม่ได้ งั้นงานเฉลิมฉลองในครั้งนี้และศึกชิงบัลลังก์บนชาร์ตเพลงเดือนธันวาคม หลานเหยียนทำได้เพียงเลือกเซี่ยนอวี๋
เช่นเดียวกับการขบคิดและพิจารณาเกี่ยวกับเซี่ยนอวี๋ก่อนหน้านี้
เพลงของเจิ้งจิง ทำได้เพียงใคร่ครวญหาวิธีนำมาเก็บไว้ก่อน จากนั้นค่อยปล่อยปีหน้า?
แต่ว่า…
อาจารย์เจิ้งจิงจะยินยอมไหมนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน