ตอนที่ 286 ยกระดับสัญญาอีกครั้ง
แน่นอนว่าเซี่ยนอวี๋ไม่มีทางพูดประโยคนี้ นี่เป็นเพียงจินตนาการของทุกคน
แต่เซี่ยนอวี๋ไม่พูด ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่คิดเช่นนั้น
ในตอนนั้น
ไม่รู้ว่าแผนกภาพยนตร์หน้าชากันไปกี่คน
แต่กระนั้น…
คนที่รู้สึกหน้าชามากที่สุด กลับเป็นตู้อั้น
ตู้อั้นเป็นผู้กำกับเรื่องอัสนีบาต เขาเป็นผู้กำกับชื่อดังจากมณฑลฉี
เมื่อปีที่แล้วฉินและฉีผนวกรวมกัน สตาร์ไลท์ทุ่มเงินไปมหาศาลเพื่อดึงตัวตู้อั้นมา หลังจากนั้นก็สร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่งโดยมีผู้กำกับอย่างตู้อั้นเป็นแกนหลัก
แน่นอนว่าเป้าหมายคือการทำรายได้ให้มากเข้าไว้ หลังจากนั้นก็ส่งเสียงซึ่งเป็นของสตาร์ไลท์สู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์!
ปรากฏว่าเรื่องอัสนีบาตทำผลงานได้ธรรมดา
ในทางกลับกัน เรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศซึ่งบริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญ ได้ปักธงให้กับแผนกภาพยนตร์และโทรทัศน์ของสตาร์ไลท์แทน!
ในครั้งนั้น ตู้อั้นรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา
เพื่อที่จะกู้หน้าคืนมา ตู้อั้นจึงตัดสินใจว่า จะต้องแสดงศักยภาพของตนออกมาให้ได้ เพื่อให้สตาร์ไลท์รับรู้ถึงฝีมือที่แท้จริงของผู้กำกับตัวท็อปจากฉีให้ได้
ปรากฏว่า…
ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของตู้อั้นยังไม่ทันลืมตาดูโลก ‘นักปรับเสียงเปียโน’ ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเซี่ยนอวี๋ก็ดังเป็นพลุแตกซะแล้ว!
ตู้อั้นรู้สึกกระอักกระอ่วนยิ่งกว่าเดิม!
และคนที่กระอักกระอ่วนไปพร้อมกับตู้อั้น ยังมีอาจารย์จางอวี้ นักเขียนบทผู้โด่งดังซึ่งสตาร์ไลท์ไปดึงตัวมากจากมณฑลฉี เรื่องอัสนีบาต อาจารย์จางอวี้ก็เป็นผู้เขียนบท
ทว่าจางอวี้ยังไม่ทันได้เขียนบทเรื่องที่สอง ก็ถูกเรื่องนักปรับเสียงเปียโนกระแทกเข้าเต็มรักซะแล้ว!
นี่เป็นบทที่แม้แต่จางอวี้เองก็ยังชื่นชม!
เมื่อทั้งสองมาพบกันอีกครั้ง จางอวี้ถอนหายใจแผ่วเบา “วีรบุรุษฉายแววแต่วัยเยาว์ คุณลองพิจารณาร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋ดู”
“ร่วมงานไม่ไหวหรอก”
ตู้อั้นยิ้มขื่น “ระบบนักเขียนบทเป็นแกนหลัก ขัดกับอุดมการณ์ของผม”
ระบบนักเขียนบทเป็นแกนหลัก และระบบผู้กำกับเป็นแกนหลัก เป็นวิธีการขับเคลื่อนของกองถ่าย แต่ละวิธีต่างก็มีข้อดีข้อเสียของตัวเอง
ผู้กำกับที่มีความคิดโลดแล่น แน่นอนว่าไม่ยินดีรับคำสั่งจากนักเขียนบท นับประสาอะไรกับผู้กำกับตัวท็อปอย่างตู้อั้น
ต่อให้เป็นจางอวี้ บทก็ควรจะรับใช้ผู้กำกับอย่างตู้อั้น ความคิดของตู้อั้นจะเป็นตัวกำหนดทิศทางการนำเสนอบท
นอกเสียจากว่าเซี่ยนอวี๋จะยินดีให้ตู้อั้นควบคุมการนำเสนอบท ไม่เช่นนั้นตู้อั้นไม่มีทางร่วมมือกับเซี่ยนอวี๋
ทำไมทันทีที่เรื่องนักปรับเสียงเปียโนโด่งดังขึ้น ผู้ที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงมากที่สุดกลับเป็นเซี่ยนอวี๋
นั่นก็เพราะรู้ว่าเรื่องนักปรับเสียงเปียโนเป็นผลผลิตจากระบบนักเขียนบทเป็นแกนหลักตามแบบฉบับ อี้เฉิงกงคนนั้นจากลิสต์รายชื่อผู้กำกับเป็นเพียงผู้ช่วยงานที่ทำให้เซี่ยนอวี๋บรรลุเป้าหมายก็เท่านั้น
“ก็จริง”
อันที่จริงคำพูดเมื่อครู่ของจางอวี้มีเจตนาหยั่งเชิง ปรากฏว่าคำตอบก็ทำให้เธอพลันโล่งใจว่าเธอจะยังมีเงินซื้อข้าวกินต่อไป
“เรื่องต่อไปเราต้องทำให้ดีกว่านี้”
“อืม”
ตู้อั้นตอบเสียงทุ้ม
เดิมทีเขาคิดว่าตนจะได้เป็นพี่ใหญ่อันดับหนึ่งเมื่อมาถึงสตาร์ไลท์ นึกไม่ถึงว่าหลังจากเข้ามาในบริษัทแล้ว จะต้องปราชัยต่อมนุษย์ต่างดาวคนหนึ่ง แถมยังเป็นการแข่งขันกันภายในบริษัทอีก
อีกด้านหนึ่ง
กระแสกำลังห้อมล้อมเรื่องนักปรับเสียงเปียโน เหล่าโจวเป็นตัวแทนแผนกภาพยนตร์เข้าร่วมการประชุมระดับสูงของบริษัทซึ่งจัดขึ้นอย่างกะทันหัน
หัวข้อในการประชุมก็คือเซี่ยนอวี๋
ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการอย่างหลี่ซ่งหวาเคาะนิ้วเบาๆ ลงบนโต๊ะ จู่ๆ ก็เอ่ยปาก “ยกระดับสัญญาของเซี่ยนอวี๋ขึ้นอีก”
ทุกคนพยักหน้า
ทางการประทับตราให้พ่อเพลงตัวน้อยคนนี้แล้ว ย่อมต้องทำให้เขาแตกต่างจากนักประพันธ์เพลงมือทองทั่วไป บริษัทยอมจ่ายราคาสูงขึ้นเพื่อเอาใจเซี่ยนอวี๋
นี่เป็นมติของผู้บริหารระดับสูงทุกคน
หลี่ซ่งหวาเอ่ยอีกว่า “เพิ่มอัตราส่วนทรัพยากรของเซี่ยนอวี๋ในแผนกภาพยนตร์ ถ้าเขาถ่ายทำหนังเรื่องใหม่ ยกระดับข้อกำหนดขึ้นไปอีก”
“ได้ครับ”
นี่อยู่ในขอบเขตอำนาจของเหล่าโจวพอดี
ถ้าเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศโด่งดังเพียงเรื่องเดียว ผู้บริหารระดับสูงอาจคัดค้านมตินี้ ทว่าในตอนนี้แตกต่างกันออกไป
ถึงอย่างไรที่บริษัทร่วมลงทุนในการถ่ายทำเรื่องนักปรับเสียงเปียโนไปด้วย จุดประสงค์แรกเพียงเพื่อคว้ารางวัล ไม่ได้คาดหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมียอดบ็อกซ์ออฟฟิศสูงแค่ไหน
ทว่าในตอนนี้ ยอดบ็อกซ์ออฟฟิศระเบิดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน