ตอนที่ 31 ตายเรียบแน่
ไม่มีเรื่องใหม่ใต้แสงตะวัน
เรื่องที่เซวี่ยนล่านอิ๋นกวงกับซาไห่ล้อมโจมตีสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์ ย่อมปิดบังจากหูตาในวงการไม่พ้น
ส่วนเหตุผลน่ะหรือ ใช่ก้นคิดก็ยังรู้ว่าต้องเป็นเพราะจ้าวอิ๋งเก้อแน่นอน!
ก่อนหน้านี้ทั้งสามบริษัทใหญ่พยายามแย่งชิงจ้าวอิ๋งเก้อ ต่างคนต่างทุ่มสุดกำลัง สุดท้ายจ้าวอิ๋งเก้อก็เลือกสตาร์ไลท์ อิ๋นกวงกับซาไห่จะกล้ำกลืนความขมขื่นนี้ไหวได้อย่างไร
แล้วเป็นยังไง การโต้กลับก็เริ่มต้นขึ้นน่ะสิ
ในสายอาชีพนี้ คนมากมายล้วนจมูกดี
ในวงการ แค่มีลมโชยยอดหญ้าไหว พวกเขาก็ได้กลิ่นดินปืนที่เจือปนมาในนั้นแล้ว
จะว่าไปแล้ว
การรับชมสามบริษัทบันเทิงใหญ่ของฉินโจวหยุมหัวกันคล้ายกับว่าได้กลายเป็นรายการโทรทัศน์ประจำของผู้คน
ในวงการจำนวนมากเสียแล้ว
ถ้าหากความสัมพันธ์ระหว่างสามบริษัทใหญ่สงบเงียบ ทุกคนกลับจะคิดว่าไม่ปกติ
เดือนพฤศจิกายนเรื่องชาร์ตดาวรุ่ง
เดือนธันวาคมเรื่องจ้าวอิ๋งเก้อ
สามบริษัทใช้ความจริงเป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่มีทางทำให้ผู้ชมต้องผิดหวัง
สร้างเรื่อง สร้างเรื่อง และสร้างเรื่อง!
ส่วนการรวมพลังของอิ๋นกวงและซาไห่ อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ระหว่างสามบริษัทใหญ่มีเรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นได้
บ่อยไป
บางครั้งอิ๋นกวงก็ร่วมมือกับซาไห่
บางครั้งซาไห่ก็ร่วมมือกับสตาร์ไลท์
ถึงอย่างไรบริษัทใหญ่ทั้งสาม เมื่อใดที่มีใครได้เปรียบกว่า ก็จะจุดชนวนการรวมพลังปิดล้อมโจมตีของอีกสองฝั่ง
หมายจะลากลงจากหลังม้าให้จงได้
ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ชมในวงการซึ่งนั่งแทะเมล็ดแตงโมรอต่างพูดกันว่า
‘ครั้งนี้อิ๋นกวงกับซาไห่ร่วมมือกัน ตีจุดอ่อนของสตาร์ไลท์’
‘ฉวยจังหวะได้พอดี’
‘จ้าวอิ๋งเก้อขึ้นหลังสือแล้วลงยาก เปลี่ยนตารางไม่ได้แล้ว ถ้าดึงดันจะเปลี่ยนก็ต้องลากยาวไปเดือนมีนา’
‘เดือนมีนาคมก็ช้าเกินไปแล้งว’
‘จริง กระแสของจ้าวอิ๋งเก้อผู้ชนะรายการสะพรั่งคนนี้ไม่ถึงสามเดือนหรอก เธอทำได้แค่ดับเครื่องชนอย่างเดียว’
‘จ้าวอิ๋งเก้อโชคร้ายแฮะ’
‘ปล่อยนักร้องแถวหน้าออกมาสองคน ครั้งนี้อิ๋นกวงกับซาไห่ไว้หน้าจ้าวอิ๋งเก้อมากอยู่นะ’
‘…’
สื่อเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
ข่าวหลายสำนักรายงานเรื่องนี้ในทันที จุดสนใจในเนื้อหาข่าวล้วนอยู่ที่ ‘เดือนมกราคม อิ๋นกวงและซาไห่ ใครจะคว้ามงกุฎของเพลงอันดับหนึ่งไปครอง’
สำหรับในวงการ สตาร์ไลท์ได้กลายเป็นตัวหมากที่ไร้ค่าไปแล้ว
แทบจะไม่มีใครคิดว่าจ้าวอิ๋งเก้อจะพลิกเกมได้จริง อิทธิพลของนักร้องแถวหน้าบวกกับนักแต่งเพลงมือทองนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
และในตอนนี้
ภายในอิ๋นกวง
เฉินจื้ออวี่รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง บ่นกับผู้จัดการ “ผมวางแผนว่าจะปล่อยเพลงใหม่เดือนมีนา อยู่ๆ บริษัทก็เปลี่ยนเป็นเดือนหน้าเพื่อข่มนักร้องหน้าใหม่ พวกเขาถามผมหรือยังว่าผมยินดีมั้ย”
เฉินจื้ออวี่
เขาก็คือนักร้องแถวหน้าคนนั้นที่อิ๋นกวงส่งไปโจมตีจ้าวอิ๋งเก้อ
ผู้จัดการเอ่ยโน้มน้าว “เสียงเบาสู้เสียงดังไม่ได้หรอก นี่เป็นการตัดสินใจของบริษัท พวกเราปฏิเสธไม่ได้ แต่ราชินีสีบอกแล้วว่าจะไม่ทำให้นายเสียเปรียบ ปีหน้าจะจัดคอนเสิร์ตที่โรงละครกลางฉินโจวให้นายเป็นการชดเชย”
“ผมเข้าใจเหตุผล แต่ผมก็แค่ไม่ชอบใจ”
เฉินจื้ออวี่แค่นเสียง เอ่ยว่า “ถึงยังไงจ้าวอิ๋งเก้อก็เป็นผู้ชนะรายการ ‘สะพรั่ง’ ผมไปข่มเธอแบบนี้ ขายหน้าจริงๆ แฟนคลับเธอคงเกลียดผมแย่”
ผู้จัดการแดกดัน “แฟนคลับเท่าหยิบมือนั่นจะไปเทียบกับนายได้ยังไง”
เฉินจื้ออวี่เบ้ปาก “เว้นครั้งนี้ให้ครั้งหนึ่งแล้วกัน อีกอย่างให้บริษัทโปรโมตให้ดีๆ เจิ้งเลี่ยงของซาไห่ก็จะปล่อยเพลงเดือนมกราเหมือนกัน ผมไม่อยากแพ้เขา”
ผู้จัดการรีบตอบว่า “แน่นอนอยู่แล้ว”
เนื่องจากอิ๋นกวงและซาไห่เริ่มส่งนักร้องแถวหน้าแล้ว การแข่งขันหาเพลงที่ชนะในเดือนหน้าก็สามารถป่าวประกาศออกไปได้ว่าไร้ซึ่งความเกี่ยวข้องกับสตาร์ไลท์แล้ว
เรื่องนี้
นอกจากตัวจ้าวอิ๋งเก้อเอง แฟนคลับของเธอก็น่าจะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่เดือดดาลที่สุด
คนที่สนับสนุนจ้าวอิ๋งเก้อมีไม่น้อย หลังจากที่ได้เห็นการรายงานข่าว ต่างก็โกรธแค้นซาไห่และอิ๋นกวงว่าถึงกับร่วมมือกันข่มเด็กใหม่ วิธีการก็ไม่ได้เข้าท่าสง่างามเอาซะเลย แต่ว่าซาไห่และอิ๋นกวงก็ไม่เคยประสบพบเจอกับคำวิจารณ์จากสังคมแต่อย่างใด น้ำลายแตกฝอยของแฟนคลับของจ้าวอิ๋งเก้อก็ไม่พอให้พวกเขาอาบ พูดออกไปกับโลกภายนอก ก็จะถูกอธิบายอย่างไม่ใส่ใจว่าเป็นแค่ ‘ความบังเอิญ’ แล้วก็จบไป
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน