Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 347

ตอนที่ 347 พร้อมหรือยัง

เนื่องจากการตัดสินใจวาดเรื่องสมุดมรณะใหม่ของหลินเยวียน สิ่งที่คนในออฟฟิศทุ่มเทลงไปตลอดระยะเวลาเกือบสองเดือนจึงเสียเปล่า แต่เมื่อม้วนภาพวาดของนรกซึ่งดูประหนึ่งมีชีวิตจริงปรากฏสู่สายตา หลัวเวยก็ไม่คลางแคลงในตัวอิ่งจือหรือหลินเยวียนอีกต่อไป!

เธอใช้เวลาลงสีตลอดทั้งคืน

จริงจังกว่าการวาดภาพนกฟินิกซ์เสียอีก

ไม่ใช่เพียงแค่คืนนี้ เหลือเพียงไม่กี่วันก่อนที่เดือนสิงหาคมจะมาถึง เธอเองก็รับหน้าที่ผู้ช่วยวาดการ์ตูนของหลินเยวียนอย่างเต็มใจ และอุทิศตนให้กับการสร้างสรรค์ผลงานนี้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แม้แต่คนที่ความรู้สึกช้าอย่างหลินเยวียนก็ยังสัมผัสได้ว่าท่าทีที่หลัวเวยมีต่อตนนั้นเปลี่ยนไป

เมื่อก่อนหลัวเวยนับว่าเคารพหลินเยวียน แต่ถึงอย่างไรก็รุ่นราวคราวเดียวกัน หลัวเวยอายุมากกว่าหลินเยวียนสักปีสองปีด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นทั้งสองจึงพูดคุยและร่วมงานกันเหมือนคนรุ่นเดียวกันเป็นส่วนใหญ่

ทว่าตั้งแต่หลินเยวียนวาดเรื่องสมุดมรณะ เมื่อหลัวเวยเผชิญหน้ากับหลินเยวียน ท่าทีเหมือนกับยามลูกศิษย์เจออาจารย์เสียมากกว่า

ทั้งเคารพ และระมัดระวัง

ความระมัดระวังนี้มีหลายระดับ แม้แต่ในบทสนทนายังเป็นเช่นนี้ “ฉันคิดว่าท่านโกรธเรื่องชิวเตาอวี๋กับเซวี่ยไห่”

เมื่อก่อนหลัวเวยแทบไม่เคยใช้คำเรียกว่า ‘ท่าน’ กับหลินเยวียนเลย

แม้จะสังเกตเห็นเรื่องนี้ แต่หลินเยวียนก็ไม่ได้สนใจความเปลี่ยนแปลง เขาเพียงแค่อธิบายไป

“ผมไม่ได้โกรธ”

เพียงแต่ได้รับทักษะด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์ ก็เลยมีมาตรฐานเรื่องคุณภาพของการ์ตูนสูงขึ้น ไม่เกี่ยวอะไรกับชิวเตาอวี๋กับเซวี่ยไห่ ทั้งสองคนนี้บังเอิญมาชนเข้ากับคมกระบี่ของเขาพอดี

เมื่อได้รับทักษะด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์มา หลินเยวียนจะต้องทดสอบกระบี่สักหน่อย

หลัวเวยยิ้มแย้ม

ถ้าคุณไม่ได้โกรธ ทำไมถึงต้องวาดสมุดมรณะใหม่ ลงมือปลิดชีพพวกเขาโดยตรงเลยล่ะ

ครั้งก่อนหลัวเวยถามหลินเยวียนว่าทำไมถึงไม่โกรธ หลินเยวียนก็ตอบเช่นนี้ ครั้งนั้นหลัวเวยชักจะคิดแล้วว่าหลินเยวียนเป็นคนที่ใจเย็นโดยธรรมชาติ

ตอนนี้ดูแล้ว เขาเป็นคนใจเย็นโดยธรรมชาติซะที่ไหนกันล่ะ อาจารย์อิ่งจือตัดสินใจระเบิดโทสะแล้วเนี่ย!

แต่ก็ต้องขอบคุณชิวเตาอวี๋กับเซวี่ยไห่

ถ้าหากไม่ใช่เพราะทั้งสองออกมาเอะอะ เกรงว่าอาจารย์อิ่งจือคงขี้คร้านที่จะงัดพลังออกมาอย่างเต็มที่

ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทั้งที่อาจารย์อิ่งจือฝีมือร้ายกาจถึงขนาดนี้ ทำไมก่อนหน้าต้องแสร้งว่าฝีมือใกล้เคียงกับตนด้วย

หรือเขาคิดว่าการมาคลุกคลีกับไก่อ่อนอย่างเธอนั้นเป็นเรื่องสนุก?

‘บางทีนี่อาจเป็นมุมมองของยอดฝีมือ‘

หลัวเวยคิดเช่นนี้ จิตใจของยอดฝีมือนั้นสุดจะหยั่งรู้

บางทีอาจารย์อิ่งจืออาจคิดเพียงว่า การดึงดูดผู้อ่านด้วยการวาดไปแบบสบายๆ นั้นเป็นเรื่องที่น่าสนุก?

และหลินเยวียนย่อมไม่รู้ว่าจินตนาการของหลัวเวยในตอนนี้ออกห่างจากความจริงมากแค่ไหน

ทว่าเขาเองก็ไม่ได้เอื่อยเฉื่อย

ถึงแม้จะรับกล่องสมบัติมาสำเร็จ เขามีทักษะด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์ แต่ในเมื่อประกาศออกมาแล้วว่าเรื่องสมุดมรณะจะเริ่มปล่อยในเดือนสิงหาคม ในตอนนี้จึงต้องสำรองต้นฉบับไว้บ้าง

ในขณะนี้

บนปู้ลั่วการ์ตูน

การถกเถียงระหว่างชิวเตาอวี๋กับเซวี่ยไห่และอิ่งจือยังคงไม่ยุติเพียงเท่านี้ ถึงขั้นลามไปถึงความขัดแย้งระหว่างมณฑลด้วย

บนเว็บบอร์ดการ์ตูนสักแห่งหนึ่ง

มีชาวเน็ตจากฉู่มาแซวว่า ‘ทำดนตรี พวกเราไม่ไหว ส่วนการ์ตูน พวกเธอไม่ไหว’

พวกเธอ

‘พวกเธอ’ ในที่นี้แน่นอนว่าจงใจมุ่งเป้าไปยังนักวาดการ์ตูนจากฉินและฉี

ชาวฉินและชาวฉีต่างโกรธเคือง แต่กลับทำอะไรชาวฉู่ผู้หยิ่งทะนงเหล่านี้ไม่ได้ ก็ใครให้การ์ตูนและอนิเมชันของฉู่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้างบนบลูสตาร์กันล่ะ

อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตจากฉู่กลับตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่

เพราะดนตรีของฉู่ เพิ่งจะพ่ายแพ้ให้ฉินอย่างอเนจอนาถเมื่อช่วงต้นปี ดังนั้นจึงมีชาวฉู่บางส่วนรู้สึกหดหู่อยู่ในใจ

และในตอนนี้ พวกเขาก็สามารถกลับมาทวงบัลลังก์ได้แล้ว ย่อมรู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา

ถึงกับที่มีสื่อจอมสอดรู้สอดเห็นจากฉู่ อุตส่าห์เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับการ์ตูนขึ้นมา เพื่ออธิบายโดยละเอียดว่าการ์ตูนของฉู่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นมีอิทธิพลต่อบลูสตาร์แค่ไหนอย่างไร

เห็นได้ชัด

ว่าสื่อของฉู่หมายจะใช้โอกาสนี้ล้างแค้นที่คนดนตรีจากฉู่ปราชัยในครั้งก่อน

เพราะฉะนั้น ความหมายโดยนัยของข่าวเหล่านี้ก็คือ ‘ถึงแม้ด้านดนตรีเราจะพ่ายแพ้ให้คนฉิน แต่เราจะกลับมาเอาชนะในด้านการ์ตูน’

ก็เหมือนการแข่งขันเหย้าและเยือน

ดนตรีเป็นสนามเหย้าที่ชาวฉินได้เปรียบ ส่วนด้านการ์ตูนนั้น ถึงคราวที่คนฉู่จะได้เปรียบในสนามเหย้า

……

แน่นอนว่าโลกภายนอกไม่สามารถเข้ามารบกวนหลินเยวียนได้ ทว่าถึงแม้หลินเยวียนจะทุ่มเทสมาธิไปยังการ์ตูน แต่เขาก็ยังหาเวลาแวะไปยังบริษัท

จุดประสงค์ที่แวะมาบริษัทนั้นมีสองประการ

ประการที่หนึ่ง สอนการประพันธ์เพลงให้กับลูกศิษย์คนที่สามอย่างหลี่ลี่จื้อ

เวลาเข้าเรียนของหลี่ลี่จื้อ โดยทั่วไปแล้วต้องรอหลินเยวียนแจ้ง ถ้าหลินเยวียนมีเวลา เธอก็จะมาเรียน แต่ถ้าหลินเยวียนไม่มีเวลา เธอก็ไม่ต้องมา

ถึงแม้เวลาจะทิ้งช่วง แต่ด้วยเอฟเฟ็กต์อาจารย์เวอร์ชันอัปเกรดของหลินเยวียน ต่อให้หลี่ลี่จื้อมีพรสวรรค์ปานกลาง ความสามารถก็ยังรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว

บางทีเรื่องนี้อาจเป็นเพราะความขยันหมั่นเพียรของหลี่ลี่จื้อเองด้วย

สรุปว่าหลี่ลี่จื้อในตอนนี้ ฝีมือการประพันธ์เพลงโดดเด่น ส่วนจะจบหลักสูตรเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น

ประการที่สอง เพื่อแก้ไขผลงานของเซวียเหลียงและเฟิงซั่ว

เดือนเมษายนปีนี้ เซวียเหลียงและเฟิงซั่วแบ่งกันเขียนเพลงให้ซุนเย่าหั่วและเจียงขุย ปรากฏว่าทั้งซุนเย่าหั่วและเจียงขุยขึ้นไปติดชาร์ตเพลงใหม่ในเดือนนั้น

เรื่องนี้จึงกลายเป็นที่ถกเถียงของในโลกภายนอกเกี่ยวกับ ‘ราชวงศ์ปลา’

และตลอดหลายเดือนหลังจากนั้น เซวียเหลียงกับเฟิงซั่วก็ยังคงเขียนเพลงให้กับซุนเย่าหั่วและเจียงขุยทุกเดือน

เพลงเหล่านี้ เป็นเพลงที่สร้างขึ้นภายใต้การชี้แนะของหลินเยวียนหลังจากที่เขาเปิดใช้การ์ดตัวละครหยางจงหมิง เพราะฉะนั้นคุณภาพจึงไม่เลวเลย นักร้องซึ่งรับผิดชอบการขับร้องบทเพลงทั้งสองคนก็ได้ขึ้นไปติดสิบอันดับแรกอีกหลายครั้ง

แน่นอนว่ามีช่วงเวลาที่พลาดพลั้งบ้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน