ตอนที่ 356 ถ่ายโอนความรู้สึก
สองวันต่อมา วันที่ 25 สิงหาคม ซุนเย่าหั่วก็เข้าไปในสตูดิโอเพื่ออัดเพลง ‘สิบปี’ อย่างเป็นทางการ
แน่นอนว่าใช้สตูดิโออัดเสียงของบริษัท
สตาร์ไลท์เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทเพลง ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะผลิตภาพยนตร์ด้วย แต่อุปกรณ์ด้านดนตรีนับว่าอยู่ระดับไฮเอนด์
คนนอกอาจรู้สึกว่า สตูดิโออัดเสียงทุกแห่งคล้ายกันหมด แต่ในความจริงแล้วมีความแตกต่างกันมาก
ตัวอย่างเช่น การตั้งค่าความก้องของเสียงในห้อง การตั้งค่าฉนวนกันเสียงของห้อง รวมไปถึงการตั้งค่าการดูดซับเสียงของห้อง เป็นต้น
ยิ่งเป็นสตูดิโอบันทึกเสียงที่ดีเท่าไร ยิ่งใส่ใจกับรายละเอียดเหล่านี้มากขึ้น และแม้แต่ขนาดของห้องก็มีการวางแผนอย่างเคร่งครัด
คนธรรมดาอย่างเราเปิดแอปพลิเคชันบันทึกเสียงเพื่ออัดเพลง และมักคิดว่าระดับของตนกับนักร้องนั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน
เมื่อเปิดแอปพลิเคชันจำพวกวีซิง ก็มักรู้สึกว่าพี่ชายพี่สาวในนั้นทั้งหน้าตาดี ทั้งร้องเพลงได้ดีมาก…
เรื่องนี้ไม่ได้เกินจริงเลย
เพลงที่นักร้องปล่อยออกมานั้นล้วนมาจากสตูดิโออัดเสียง
มีนักร้องในวงการบางคนโดยพื้นฐานแล้วเป็นคนเสียงเพี้ยน เมื่อร้องสดแล้วดีกว่าบรรดานักยึดไมโครโฟนในคาราโอเกะอยู่เพียงเล็กน้อย
เมื่อใดก็ตามที่คนธรรมดาซึ่งร้องเพลงได้ดีเข้ามาในสตูดิโออัดเสียง หลังจากผ่านการปรับแต่งนิดหน่อยโดยซาวด์เอนจิเนียร์มืออาชีพ ก็ย่อมบังเกิดผลที่ดีได้
ถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งเสียง
สตูดิโออัดเสียง เป็นสถานที่ซึ่งเปลี่ยนความเน่าเฟะให้กลายเป็นความมหัศจรรย์
แน่นอน ประเด็นถกเถียงข้างบนคือนักร้องฝีมือปานกลาง
นักร้องฝีมือดี เมื่อเทียบกับคนธรรมดาแล้ว ย่อมมีความแตกต่างจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นคนนั้นหรือคนนี้ ทุกคนสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างอิสระ
แต่ต่อให้สตูดิโออัดเสียงจะดีแค่ไหน หากฝีมือของนักร้องไม่มากพอ ก็ไม่มีทางถูกหลินเยวียนเลือก
ซุนเย่าหั่วได้รับความไว้วางใจจากหลินเยวียนมาโดยตลอด ก็เพราะซุนเย่าหั่วมีความสามารถระดับมืออาชีพที่ผ่านเกณฑ์
ทว่าการอัดเสียงในวันนี้ ทันทีที่ซุนเย่าหั่วเปล่งเสียง ก็ทำให้หลินเยวียนประหลาดใจ
“หากไม่หวาดกลัวที่จะเอ่ยสองคำนั้น ฉันคงไม่รู้ว่าฉันก็เสียใจ จะให้พูดอย่างไร สุดท้ายก็แยกจากกัน”
ลมหายใจ น้ำเสียง อารมณ์ และความรู้สึก ล้วนเป็นเกณฑ์ในการประเมินทักษะการร้องเพลง
หากมีการให้คะแนนทักษะการร้องเพลง คะแนนเต็ม 100 คะแนน หลินเยวียนจะให้ซุนเย่าหั่วเมื่อก่อนสัก 75 คะแนน
เมื่อเทียบกันแล้ว เจียงขุยต้องได้อย่างน้อย 80 คะแนน
ทว่าทักษะการร้องเพลงที่ซุนเย่าหั่วแสดงออกมาในวันนี้ กลับแตะถึงเกินกว่า 80 คะแนน
มีการพัฒนาแล้ว!
หลินเยวียนมั่นใจเต็มร้อย ว่าในช่วงเวลานานที่พวกเขาไม่ได้ร่วมงานกัน ซุนเย่าหั่วจะต้องซุ่มฝึกซ้อมอย่างหนัก ไม่เช่นนั้นซุนเย่าหั่วคงไม่มีทางพัฒนาไปมากถึงขนาดนี้
หากไม่ทุ่มเท ย่อมไม่มีการพัฒนาได้มากเช่นนี้หรอก
ถ้าหากทุกคนปราศจากแนวคิดอันจำเพาะเจาะจงเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการร้องเพลง ก็สามารถไปฟังระดับของจางเจี๋ยหลังจากที่เพิ่งเดบิวต์ได้ไม่นาน แล้วเปรียบเทียบกับฝีมือการร้องสดในช่วงหลัง
หลังจากอัดเพลงอยู่หลายครั้ง รู้สึกว่าค่อนข้างราบรื่นทีเดียว
ซาวด์เอนจิเนียร์กล่าว “เพลงนี้ไม่ต้องใช้ช่องเสียงกับเทคนิคการร้องที่สูง ประโยคที่ว่า ‘ทำไมตอนจากกันเราถึงไม่’ คำว่าจากกันสองคำนี้เป็นขั้นคู่หกเมเจอร์ ต้องเปลี่ยนเรโซแนนซ์ เมื่อกี้ที่คุณยังทำเรียบเกินไป”
ซุนเย่าหั่วพยักหน้า
จุดที่ยากของเพลงนี้คือความรู้สึก การจัดการรายละเอียด รวมไปถึงการควบคุมการเปลี่ยนอารมณ์ โดยทั่วไปแล้วใช้เวลาฝึกสองสามวันก็เชี่ยวชาญ
เขามองไปทางหลินเยวียน “รุ่นน้องมีความเห็นอะไรไหม”
โดยปกติแล้วหลินเยวียนชอบเสนอความคิดเห็น แต่ในวันนี้หลินเยวียนคล้ายกับว่าจะไม่ได้เอ่ยขัดการร้องของตนเลย
หลินเยวียนครุ่นคิด “ความจริงใจ”
เรื่องทางเทคนิคนั้นมีเจ้าหน้าที่ในสตูดิโออัดเสียงคอยเตือน ตัวซุนเย่าหั่วเองเป็นมืออาชีพมากพอ แต่ของอย่างความรู้สึกนั้นเป็นสิ่งที่นักร้องต้องเข้าใจด้วยตนเอง
ความจริงใจ…
ซุนเย่าหั่วชะงักไปเล็กน้อย หลังจากเงียบไป ก็พยักหน้าเอ่ยว่า “ฉันจะลองดู”
ไม่นาน การอัดเสียงรอบใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน