ตอนที่ 411 การต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรม
ใบหน้าของหลินเซวียนเต็มไปด้วยความตกตะลึง!
เรื่องราวกระจ่างขึ้นมาแล้ว!
ทำไมก่อนหน้านี้ตนถึงไม่ถูกคลังหนังสือซิลเวอร์บลูไล่ออก ทำไมตนเพิ่งเข้ามาในบริษัทก็ได้ประจำในแผนกสำคัญ ทำไมหลังจากตนสั่งสมประสบการณ์มาได้เล็กน้อยก็ถูกย้ายมาอยู่ในแผนกนิทานซึ่งเป็นศูนย์รวมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางผลประโยชน์ ทำไมบรรณาธิการบริหารจึงดูแลตนเป็นอย่างดี ทำไมก่อนหน้านี้แผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนกับแผนกนิยายแฟนตาซีถึงได้แย่งกันดึงตนเข้ามา…
เพราะเบื้องหลังของตนคือฉู่ขวงนั่นเอง!
ผู้คนเหล่านี้ดูแลตน ก็เพื่อเอาใจฉู่ขวง!
และเหตุผลที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นก็มาจากน้องชายของตน!
ฉู่ขวง เซี่ยนอวี๋ และอิ่งจือยอมรับอย่างเปิดเผยและเป็นที่รู้กันว่าทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อกัน ไม่อย่างนั้นฉู่ขวงเองก็คงไม่มีเหตุผลให้ดูแลตนเช่นนี้
พวกเขาไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย!
และเมื่อมองจากการที่ฉู่ขวงอุตส่าห์ให้คนส่งต้นฉบับนิทานเรื่องหนึ่งมาให้ เกรงว่าความสัมพันธ์ของน้องชายตนและฉู่ขวงน่าจะดีกว่าที่ตนจินตนาการไว้เสียอีก!
เพราะแม้แต่น้องชายของเธอเองก็เพิ่งรู้เมื่อเย็นวานระหว่างกินข้าวว่าเธอยังขาดต้นฉบับนิทานอีกหนึ่งเรื่อง ต่อให้เขารีบติดต่อให้ฉู่ขวงช่วยในทันที ฉู่ขวงก็ไม่จำเป็นต้องทำงานข้ามคืนเพื่อทำตามคำขอของน้องชายให้สำเร็จสักหน่อย!
“เขียนต้นฉบับเสร็จในชั่วข้ามคืน?”
หลินเซวียนประหลาดใจ
ในตอนนั้นเธอทำท่าทางราวกับถูกปัวโรต์เข้าสิงร่าง!
หลังจากไขปริศนาแล้ว ในที่สุดเธอก็กระจ่างขึ้นมา!
ว่าที่แท้ตนเองก็เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางผลประโยชน์เช่นกัน แถมยังไม่ใช่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางผลประโยชน์ทั่วไปด้วย!
ชั่วขณะนั้น ความคิดนับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นมาในห้วงสำนึกของหลินเซวียน เธอทำได้เพียงฝืนรักษาสีหน้าให้เยือกเย็น
“ขอบคุณค่ะ หัวหน้าบ.ก.เฉา”
“ไม่ต้องเกรงใจครับ!”
รอยยิ้มของเฉาเต๋อจื้อเจิดจ้าราวกับอาบสายลมฤดูใบไม้ผลิ หน้าอกของเขากระเพื่อม “ต่อไปหัวหน้าบ.ก.หลินมีอะไรให้ช่วยมาบอกเหล่าเฉาได้เลย แผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนเราสนับสนุนหัวหน้าบ.ก.หลินเสมอนะครับ!”
และด้านหลังของเฉาเต๋อจื้อ
สีหน้าของจางหยางและสุ่ยจูโหรวตกใจจนตัวแข็งทื่อ
ฉู่ขวงเชียวนะ!
ผู้คนในบริษัทต่างถกเถียงกันว่าสรุปแล้วใครอยู่เบื้องหลังของหลินเซวียนกันแน่ พูดกันไปสารพัด แต่ทั้งสองไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเบื้องหลังของหลินเซวียนจะถึงกับเป็นฉู่ขวง!
แม่เจ้าโว้ย!
มีเทพยืนผงาดอยู่ด้านหลัง มิน่าล่ะหลินเซวียนถึงได้รับการดูแลจากบริษัทเป็นอย่างดี!
“ส่งต้นฉบับไปให้แล้วนะครับ”
เฉาเต๋อจื้อจัดการเรียบร้อย รอยยิ้มยังแจ่มใสเหมือนเดิม “ผมขอตัวก่อน ยินดีต้อนรับหัวหน้าบ.ก.หลินมาเป็นแขกของแผนกเรานะครับ!”
“ได้ค่ะ”
หลินเซวียนอยากเดินไปส่ง ทว่าเฉาเต๋อจื้อโบกมือ “หัวหน้าบ.ก.หลินไปทำงานต่อเถอะครับ ไม่ต้องไปส่ง”
เฉาเต๋อจื้อกล่าวพลางหันกลับไปอย่างร่าเริง
ขณะเดินผ่านจางหยางและสุ่ยจูโหรว รอยยิ้มของเฉาเต๋อจื้อพลันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มทางการ สุภาพและเกรงอกเกรงใจ เพียงแต่ปราศจากความกระตือรือร้นเฉกเช่นเมื่ออยู่ต่อหน้าหลินเซวียน
“รบกวนแผนกของคุณแล้วครับ”
หลินเซวียนเองก็ยิ้มอย่างสุภาพกับทั้งสองคน ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปยังห้องทำงาน
ชั่วขณะนั้น จางเฉิงซึ่งเป็นประจักษ์พยานในภาพเหตุการณ์นี้พร้อมกับพนักงานคนอื่นๆ ก็พลันรู้สึกปลื้มปริ่มขึ้นมา
ว่ากันว่าเมื่อมนุษย์คนหนึ่งตรัสรู้ ไก่และสุนัขได้ขึ้นสวรรค์!
ตนฉลาดหลักแหลมมากที่ได้ออกตัวรับหน้าที่ผู้ช่วยของหลินเซวียน!
หลินเซวียนมีคนอยู่เบื้องหลัง!
แถมคนคนนี้ยังยิ่งใหญ่มากซะด้วย!
สุ่ยจูโหรวและจางหยางมองหน้ากันโดยไม่พูดจา ท้ายที่สุดจึงหันหลังกลับไป
ขณะที่กำลังจะเข้าไป ทันใดนั้นจางหยางก็หันหน้ามา พูดอย่างไม่สบอารมณ์กับบรรดาบรรณาธิการที่ยังยืนอึ้งกันอยู่
“มองอะไรกัน ไปทำงานได้แล้ว!”
ทุกคนรีบขานรับ เพียงแต่ใบหน้ายังคงหลงเหลือความตกตะลึงหลังจากได้ยินชื่อนั้น
……
หลังจากที่หลินเซวียนกลับไปยังห้องทำงาน เขาก็โทรศัพท์หาหลินเยวียนในทันที
เมื่อต่อสายติด หลินเซวียนก็เอ่ยอย่างไม่รีรอ
“นายใช่ไหมที่ให้ฉู่ขวงช่วยพี่?”
“จะว่าอย่างนั้นก็คงได้”
หลินเยวียนซึ่งอยู่ปลายสายตอบกลับมาอย่างเยือกเย็น ราวกับคาดการณ์ไว้แต่แรกแล้วว่าพี่สาวจะโทรมา
“พวกนายสนิทกันขนาดไหนเนี่ย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน