Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 45

ตอนที่ 45 ขายดิบขายดี

สำหรับตลาดนิยายทั้งหมดแล้ว นิยายการแข่งขันกีฬานั้นเป็นประเภทนิยายที่ไม่ได้รับความนิยมเอาซะเลย

โดยเฉพาะในยุคที่นิยายจำพวกผจญภัยในต่างโลกนั้นได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง นิยายแนวนี้จึงขาดแคลนฐานคนอ่านยิ่งกว่าเดิม

ดังนั้นต่อให้คำวิจารณ์ของปรินซ์ออฟเทนนิสจะดีเลิศ เหล่าบรรณาธิการก็ไม่ได้คาดหวังกับยอดขายของนิยายเรื่องนี้ไว้สูงนัก ทว่าในตอนนี้เห็นทีคนจำนวนมากอาจคิดผิดแล้ว

“ทำไมไม่บอกพวกเราล่ะ”

ความรู้สึกของหัวหน้าบรรณาธิการในตอนนี้ประเดประดังกันไปหมด

หัวหน้าหญิงชะงักไป จากนั้นเธอก็มองทั้งสองด้วยความเห็นใจ “พวกคุณไม่รู้เชียวเหรอว่าฉันแจ้งบ.ก.บริหารไปตั้งแต่วันที่ปรินซ์ออฟเทนนิสขาดสต็อกแล้ว ดูท่าใต้เท้าบ.ก.บริหารท่านนี้คงไม่ได้บอกพวกคุณ”

หัวหน้าบรรณาธิการและรองบรรณาธิการหัวใจเย็นวาบ

พวกเขารู้นิสัยของบรรณาธิการบริหารดี เรื่องใหญ่ขนาดนี้แต่กลับไม่แจ้งกองบรรณาธิการของพวกเขา เห็นได้ชัดว่ามีแค่เหตุผลเดียว

บรรณาธิการบริหารไม่พอใจแล้ว

กองบรรณาธิการทั้งสี่กองของบริษัท แต่ละกองรับผิดชอบประเภทผลงานที่แตกต่างกัน ขณะเดียวกันแต่ละกองบรรณาธิการก็จะมีหัวหน้าบรรณาธิการและรองหัวหน้าบรรณาธิการประจำอยู่ พวกเขาทั้งสองนั้นรับผิดชอบนิยายแฟนตาซีเยาวชน

ทว่ากองบรรณาธิการทั้งหมดก็มีพี่ใหญ่ซึ่งเป็นบรรณาธิการบริหาร

หัวหน้าหญิงเห็นว่าทั้งสองน่าสงสารขนาดนี้ ก็โมโหไม่ออกแล้ว เพียงแค่พูดยิ้มๆ ว่า “อันที่จริงกองบรรณาธิการ

ของพวกคุณรู้หรือไม่รู้ก็ไม่เหมือนกัน เรื่องส่งสินค้าอยู่ในขอบเขตรับผิดชอบของฉัน หรือว่าแผนกบรรณาธิการของพวกคุณเพิ่มล็อตสินค้าให้ฉันได้?”

นี่เป็นความจริง

กองบรรณาธิการรับผิดชอบการคัดเลือกและควบคุมปัญหาคุณภาพของนิยาย เรื่องการขายไม่ได้อยู่ในขอบเขตการรับผิดชอบของของพวกเขา

แต่ทว่าในสถานการณ์ปกติเรื่องพวกนี้ก็จะแจ้งกองบรรณาธิการด้วย

ครั้งนี้คงจะเป็นคำเตือนของบรรณาธิการบริหาร ฉะนั้นหัวหน้าบรรณาธิการกับรองบรรณาธิการถึงเพิ่งรับทราบสถานการณ์ในวันนี้

“ตอนนี้มีออเดอร์เท่าไหร่”

หัวหน้าบรรณาธิการข่มกลั้นความรู้สึกซับซ้อนในใจ

เสียงหนึ่งก็พลันดังขึ้นจากด้านหลัง “ตอนนี้ออเดอร์ของร้านหนังสือใหญ่ในฉินโจวรวมแล้วสี่แสนเล่ม พรุ่งนี้ถึงจะส่งให้ร้านใหญ่แต่ละร้านได้ แต่ถ้าพิจารณาถึงความต้องการของตลาดหลังจากนี้ ผมเลยสั่งแผนกตีพิมพ์ให้เพิ่มเป็นห้าแสนเล่ม”

“บ.ก.บริหาร สวัสดีครับ/ค่ะ!”

ทั้งสามคนหันไปมองผู้ชายทางด้านหลัง คนผู้นี้ก็คือบรรณาธิการบริหารของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู เป็นหนึ่งในผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในบริษัท

“อืม”

บรรณาธิการบริหารพยักหน้า สายตาน่าเกรงขามส่อแววไม่พอใจ “การตัดสินใจตีพิมพ์ปรินซ์ออฟเทนนิสครั้งแรกออกมาแค่หนึ่งแสนเล่มเป็นเรื่องที่โง่มาก แต่เห็นแก่ที่กองบ.ก.ของพวกคุณไม่ได้คัดนิยายเล่มนี้ออก ผมจะละเว้นให้ครั้งหนึ่ง”

“ครับ!”

หัวหน้าและรองบรรณาธิการรู้สึกราวกับยกภูเขาออกจากอก

โชคดีที่พวกเขาใส่ปรินซ์ออฟเทนนิสเข้าไปในรายชื่อนิยายสำหรับตีพิมพ์ของซูเปอร์โนวาเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ตลาดนิยาย ถ้าพลาดของดีในครั้งนี้ไปละก็ บริษัทคงเสียหายหนักแน่

“แล้วก็”

บรรณาธิการบริหารขมวดคิ้ว กล่าวว่า “ผมได้อ่านแผนงานดูแล้ว เดิมทีปรินซ์ออฟเทนนิสกำหนดไว้แค่หนึ่งล้านตัวอักษร ให้บ.ก.ที่รับผิดชอบฉู่ขวงคุยกับฉู่ขวงหน่อย ว่าทางบริษัทหวังว่าเขาจะขยายโครงเรื่อง พยายามเขียนให้เกินสามล้านตัวอักษร”

ผลงานของหนังสือไม่ดีอาจถูกตัดจบ

สิ่งที่ตรงข้ามกันก็คือ ถ้าผลลัพธ์ของหนังสือดีพอ สำนักพิมพ์ก็จะให้นักเขียนเพิ่มจำนวนตัวอักษรให้ได้มากที่สุด เพราะตัวอักษรยิ่งมากก็ยิ่งทำเงินได้มาก

“ได้ครับ!”

หัวหน้าบรรณาธิการพยักหน้าหงึกๆ

นักเขียนนิยายส่วนมากมักจะไม่ปฏิเสธข้อเสนอนี้ นักเขียนเองก็ต้องกินข้าวเหมือนกัน ได้เงินเพิ่มใครจะไม่ยินดีล่ะ

ยิ่งไปกว่านั้นจะมีนักเขียนนิยายสักกี่คนที่จะกล้ารับรองว่านิยายเรื่องต่อไปของตนจะดังล่ะ

“อีกเรื่อง”

บรรณาธิการบริหารขบคิดชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ย “ดูแลฉู่ขวงให้ดี อย่ามีข้อขัดแย้งกับเขาเด็ดขาด ถ้าฉู่ขวงถูกสำนักพิมพ์อื่นมาดึงตัวไปละก็ พวกคุณสองคนก็ต้องไสหัวออกไปเลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน