Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 477

ตอนที่ 477 ตอนที่สามออนแอร์

วันที่สอง…

วันที่สาม…

วันที่สี่…

หลังจากระบบส่งมอบภารกิจอายุขัย หลินเยวียนจึงเริ่มพิมพ์หนังสืออย่างสบายใจ แน่นอนว่าสถานที่พิมพ์หนังสือก็คือสตูดิโอวาดการ์ตูน เพื่อที่เขาจะสามารถใช้เวลาว่างปล่อยการ์ตูนของตนออกมาได้ สถานการณ์ของการ์ตูนนั้นไม่ซับซ้อน เพราะหลังจากได้รับการชี้แนะภายใต้เอฟเฟ็กต์อาจารย์ หลัวเวยพอจะสามารถคัดลอกลายเส้นของหลินเยวียนได้แล้ว กอปรกับความช่วยเหลือจากผู้ช่วยวาดการ์ตูน จึงไม่ต้องเปลืองแรงมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นทักษะการวาดภาพระดับปรมาจารย์ไม่ได้ยกระดับเพียงภาพวาด คุณภาพยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย เทียบกับเวลาเดียวกันเมื่อก่อน ความเร็วของหลินเยวียนเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่า

พรึบๆๆ

ฉับๆๆ

ทั้งการ์ตูนและนิยายล้วนเหมือนกัน จะต้องคว้าไว้ทั้งสองมือ และต้องจับไว้ให้มั่น เวลาที่มีอยู่นี้นับว่าเพียงพอ เขาง่วนอยู่จนถึงวันที่ห้าของสัปดาห์ถึงได้หยุดพัก เขาต้องขบคิดเรื่องเพลงในการแข่งขันสัปดาห์ที่สี่ ปรากฏว่าในตอนนั้นเอง จู่ๆ โทรศัพท์ของหลินเยวียนก็ดังขึ้น ผู้ที่โทรมาคือผู้กำกับรายการ ถงซูเหวิน

“มีอะไรเหรอครับ”

“มีข้อเสนอครับ”

ถงซูเหวินเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “สมาคมวรรณศิลป์อยากให้รอบที่สี่เป็นเวทีของคณะกรรมการตัดสิน แน่นอนว่าเรายึดหลักความสมัครใจของนักร้อง ดูว่านักร้องยินดีเลือกผลงานเพลงของคณะกรรมการทั้งสี่ท่านมาใช้ไหม คุณเป็นนักร้องท่านแรกที่ผมติดต่อมา เพราะนักร้องท่านอื่นเคยส่งลิสต์เพลงมาแล้ว แต่กรณีของคุณค่อนข้างพิเศษ เพราะใช้เพลงที่เขียนเอง ไม่ทราบว่าคุณยินดีไหมครับ?”

หลินเยวียนชะงัก

เดิมทีเขาคิดว่าจะปล่อยเพลงใหม่ต่อไปในรอบที่สี่ นึกไม่ถึงว่าทางทีมงานรายการจะมีแผนเช่นนี้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาคงลังเล ทว่ายามนี้เขาซึ่งมีความสามารถในการร้องเพลงเพิ่มขึ้น จึงไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้

“ไม่มีปัญหาครับ”

หลินเยวียนเคยฟังเพลงของคณะกรรมการตัดสินทั้งสี่ มีบางเพลงที่หลินเยวียนชื่นชอบมาก นักร้องสองคนร้องเพลงปลายักษ์ของตนบนเวทีได้ แน่นอนว่าตนก็สามารถขับร้องผลงานของนักร้องหรือนักประพันธ์เพลงท่านอื่นได้เหมือนกัน เขาถึงขั้นรู้สึกว่าทีมงานรายการจัดการได้น่าสนใจมาก

“ดีเลยครับ!”

ถงซูเหวินเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “งั้นผมขอตัวไปติดต่อนักร้องท่านอื่นก่อน ที่สำคัญคือตอนแข่งแบบทีม ไลน์อัปของคณะกรรมการตัดสินจะเปลี่ยนไป ดังนั้นพวกเราจึงนับว่าเซอร์ไพรส์ผู้ชม”

“ครับ”

หลังจากวางสาย หลินเยวียนยิ้มบาง เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ต้องขบคิดว่าในสัปดาห์ที่สี่จะใช้เพลงจากโลกเพลงไหนดี คิดซะว่าตนขอแอบอู้เป็นบางครั้งคราวก็แล้วกัน บทเพลงคลาสสิกมากมายของคณะกรรมการตัดสินสามารถนำมาเป็นตัวเลือก มีตัวเลือกสำหรับนักร้องเต็มไปหมด โดยเฉพาะนักร้องซึ่งมีสามเสียงอย่างหลินเยวียน ถึงขั้นที่ท้ายที่สุดแล้วจะเลือกเพลงของใคร หลินเยวียนไม่จำเป็นต้องขบคิด ในใจเขามีคำตอบอยู่แล้ว นี่คือเหตุผลที่หลินเยวียนคิดว่าการจัดการเช่นนี้น่าสนใจ

พ่อเพลงหยางจงหมิง!

เหตุผลที่เลือกหยางจงหมิงนั้นมีหลายประการ แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดอันที่จริงคงจะเกี่ยวข้องกับความเห็นแก่ตัวของหลินเยวียน เพราะสำหรับหลินเยวียนแล้ว หยางจงหมิงเป็นกึ่งอาจารย์สอนประพันธ์เพลงของเขา เขาใช้การ์ดตัวละครหยางจงหมิงซึ่งระบบมอบให้ ร่ำเรียนการประพันธ์เพลงมาไม่น้อยจากหยางจงหมิงในมิติเสมือน ต่อให้หยางจงหมิงจะไม่รู้ แต่หลินเยวียนก็เคารพอีกฝ่ายมาก ถึงขั้นที่มองอีกฝ่ายเป็นกึ่งอาจารย์ การขับร้องเพลงของอีกฝ่ายบนเวทีนับว่าเป็นการแสดงความเคารพอย่างหนึ่ง

“อืม…”

ในเมื่อตัดสินใจขับร้องผลงานของหยางจงหมิง งั้นควรเลือกเพลงออกมาสักเพลง ในฐานะหนึ่งในนักประพันธ์เพลงระดับยอดพีระมิดของบลูสตาร์ หยางจงหมิงมีบทเพลงสุดคลาสสิกมากมาย นอกจากนั้นเวอร์ชันต้นฉบับยังขับร้องโดยราชาราชินีเพลงทั้งนั้น

“ได้แล้ว!”

จู่ๆ หลินเยวียนก็นึกถึงเพลงหนึ่งขึ้นมา เพลงนั้นมีชื่อว่า ‘จากไป’ เป็นผลงานเพลงในยุคแรกของหยางจงหมิง นับว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดงในยุคแรกๆ ของหยางจงหมิงขณะเดียวกันเพลงนี้ก็เหมาะสมแก่การขับร้องบนเวที ตอนนี้แนวโน้มในการแข่งขันของหลินเยวียนนั้นแน่นอนมาก เขาคิดว่าหากเลือกเพลงนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ติดสามอันดับแรก สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงก็คือ ผู้ที่ขับร้องเพลงต้นฉบับคือเฟ่ยหยาง ในช่วงนั้นสตาร์ไลท์และเซวี่ยนล่านร่วมงานกัน ฉะนั้นเพลงของหยางจงหมิงจึงยกให้นักร้องแถวหน้าอย่างเฟ่ยหยางเป็นผู้ขับร้อง

“เพลงนี้แหละ”

หลังจากเลือกเพลงแล้ว หลินเยวียนก็ไม่ได้ขบคิดเรื่องนี้อีก เขาไม่มีความทะเยอทะยานในอันดับของการแข่งขันรอบถัดไป ไม่จำเป็นต้องได้อันดับหนึ่ง ขอเพียงไม่ตกรอบก็พอแล้ว ถึงอย่างไรการแข่งขันในรอบถัดไปจะมีคนตกรอบเพียงคนเดียว อันตรายคงไม่มาถึงหลินเยวียนผู้ซึ่งมีพัฒนาการด้านการร้องเพลงอย่างก้าวกระโดด

ทว่าบนโลกออนไลน์

แน่นอนว่าเสียงตำหนิติเตียนหลานหลิงอ๋องยังคงไม่จบลงง่ายๆ ขณะที่ตอนที่สามของรายการใกล้จะออนแอร์ กระแสถึงกับย่ำแย่ลงกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อมีการโจมตีจากแฟนคลับของหยวนซี

สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ

เหลิ่งเฉวียนคล้ายว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหว?

ทำไมเหลิ่งเฉวียนซึ่งก่อนหน้านี้วิพากษ์วิจารณ์หลานหลิงอ๋องเพื่อเรียกกระแสกลับเงียบลง เขาเข้าร่วมการบันทึกเทปรายการในสัปดาห์ที่สามไม่ใช่หรือ ตอนนี้ที่เงียบเกิดจากมาตรการรักษาความลับในการบันทึกเทปของรายการ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน