ตอนที่ 485 ที่แท้ก็ขุดหลุมไว้แต่แรก
ใช่ ทุกคนตอบสนองแล้ว!
ในบรรดาคดีของปัวโรต์ หนึ่งในคดีที่โด่งดังและเป็นที่พูดถึงมากที่สุดในหมู่ผู้อ่าน…
ก็คือฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส!
และในฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส ปัวโรต์เลือกที่จะปล่อยตัวคนร้ายไป
เนื่องจากกฎหมายไม่สามารถลงโทษฆาตกรซึ่งอยู่เหนือกฎหมายได้ คนกลุ่มหนึ่งจึงหยิบมีดขึ้นมาสังหารฆาตกรด้วยวิธีก่ออาชญากรรมร่วมกันซึ่งเป็นที่ตกตะลึง
ตาต่อตาฟันต่อฟัน!
หลังจากปัวโรต์รู้ความจริง เขาลังเลอยู่นาน สุดท้ายจึงเลือกไม่แจ้งข้อกล่าวหาคนกลุ่มนี้
วิธีจัดการเช่นนี้ของปัวโรต์จึงกลายเป็นที่ถกเถียงในเวลานั้น
แต่ใน ‘ผ้าม่าน’ มีฆาตกรซึ่งกฎหมายไม่อาจลงโทษได้ปรากฏตัวขึ้นอีก
ฆาตกรคนนี้ใช้จุดอ่อนทางจิตวิทยาของผู้อื่น บงการให้คนเหล่านั้นลงมือสังหาร ส่วนตนกลับเฝ้าดูจากระยะไกล
กล่าวได้ว่าเป็นคนนอกกฎหมาย!
เขาถึงขั้นยุยงให้เฮสติงส์เพื่อนรักของปัวโรต์สังหารใครสักคน!
ถ้าปัวโรต์ไม่พบเข้าเสียก่อน เฮสติงส์คงกลายเป็นฆาตกรไปแล้ว
ถ้าปัวโรต์ไม่จัดการอีกฝ่าย อีกฝ่ายมีแต่จะกระทำการอันวิปริตต่อไป
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ปัวโรต์จึงเลือกใช้ตัวเลือกเดียวกับฆาตกรในฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
ไม่ว่าจะดีหรือเลว
อย่างน้อยพฤติกรรมนี้ก็ไม่ได้ละเมิดคาแรกเตอร์ของปัวโรต์ แต่กลับทำให้คาแรกเตอร์ของปัวโรต์แข็งแกร่งขึ้น!
ใช่แล้ว
เขาสามารถให้อภัยคนเหล่านั้นได้ เพราะในช่วงเวลาอันมืดมนที่สุด เขาจะเลือกทำสิ่งที่สุดโต่งเช่นเดียวกัน!
ทว่าความแตกต่างอยู่ตรงที่…
ปัวโรต์สามารถให้อภัยผู้อื่นซึ่งใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันเพื่อลงโทษฆาตกรได้ แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองที่ใช้วิธีนี้ได้
เพราะฉะนั้นหลังจากที่เขาสังหารฆาตกรแล้ว เขาจึงปลิดชีพตนเองโดยไม่ลังเล
เขาใช้วิธีของตนเอง ตกตายไปตามฆาตกร!
และนี่ คือความยิ่งใหญ่ของปัวโรต์!
เมื่อตระหนักได้ถึงจุดนี้
หลายคนก็เงียบลง
เสียงก่นด่าต่อฉู่ขวงเงียบลงทันที
เมื่อมีเรื่องราวดังกล่าวเป็นพื้นฐาน คำด่าของใครหลายคนจึงไม่เป็นผล
เพียงแต่ไม่มีใครคาดคิด
ว่าฉู่ขวงได้เปิดเผยจุดนี้ให้ทุกคนรับรู้ตั้งแต่ในฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส เขาขุดหลุมไว้แต่แรกแล้ว
ความแตกต่างอยู่ที่ หลังจากคนกลุ่มนั้นใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันแล้ว พวกเขายังคงปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
แต่ปัวโรต์ กลับเลือกใช้ความตายเป็นทางรอดของตนเอง
เขารู้สึกผิดต่อตนเอง
เขาละเมิดหลักการซึ่งรักษามาตลอดชีวิต
เมื่อเขาตัดสินใจในครั้งนี้ เขาได้ปฏิเสธสิ่งที่ยึดมั่นมาตลอดชีวิตการเป็นนักสืบ
แต่นี่ก็คือปัวโรต์!
ความหมายของโครงเรื่องนี้ลึกซึ้งจนพลอยให้ผู้คนตกใจ!
เนื่องจากมีสองทางเลือกซึ่งมีแนวทางต่างกันทว่ามุ่งสู่จุดประสงค์เดียวกัน จึงทำให้เรื่องราวซึ่งดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกัน ก่อเกิดเป็นห่วงโซ่ความคิดอันสมบูรณ์
ดังก้องไปทุกสารทิศ!
นอกจากนั้น ขณะตัดสินใจระหว่างสองทางเลือกนี้ ปัวโรต์พูดสามคำนี้ซ้ำๆ ไปมา
“ฉันไม่รู้…”
เขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับผู้อื่นอย่างไร และไม่รู้ว่าตัวเลือกของตนถูกต้องหรือไม่
บนโลกนี้ไม่มีคดีใดที่ยากเกินไปสำหรับปัวโรต์
สิ่งที่ยากสำหรับเขา มีเพียงความขัดแย้งซึ่งเกี่ยวข้องกับธรรมชาติของมนุษย์
ตอนนี้ยอมรับตอนจบกันได้หรือยัง?
ผู้อ่านเองก็ไม่รู้
แต่เสียงด่าทอนั้นลดลงเรื่อยๆ แล้ว
การลุกฮือของผู้อ่านค่อยๆ ลดลงหลังจากเหลิ่งกวงเอ่ยถึงฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน