Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 485

สรุปบท ตอนที่ 485 ที่แท้ก็ขุดหลุมไว้แต่แรก: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอน ตอนที่ 485 ที่แท้ก็ขุดหลุมไว้แต่แรก จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 485 ที่แท้ก็ขุดหลุมไว้แต่แรก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 485 ที่แท้ก็ขุดหลุมไว้แต่แรก

ใช่ ทุกคนตอบสนองแล้ว!

ในบรรดาคดีของปัวโรต์ หนึ่งในคดีที่โด่งดังและเป็นที่พูดถึงมากที่สุดในหมู่ผู้อ่าน…

ก็คือฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส!

และในฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส ปัวโรต์เลือกที่จะปล่อยตัวคนร้ายไป

เนื่องจากกฎหมายไม่สามารถลงโทษฆาตกรซึ่งอยู่เหนือกฎหมายได้ คนกลุ่มหนึ่งจึงหยิบมีดขึ้นมาสังหารฆาตกรด้วยวิธีก่ออาชญากรรมร่วมกันซึ่งเป็นที่ตกตะลึง

ตาต่อตาฟันต่อฟัน!

หลังจากปัวโรต์รู้ความจริง เขาลังเลอยู่นาน สุดท้ายจึงเลือกไม่แจ้งข้อกล่าวหาคนกลุ่มนี้

วิธีจัดการเช่นนี้ของปัวโรต์จึงกลายเป็นที่ถกเถียงในเวลานั้น

แต่ใน ‘ผ้าม่าน’ มีฆาตกรซึ่งกฎหมายไม่อาจลงโทษได้ปรากฏตัวขึ้นอีก

ฆาตกรคนนี้ใช้จุดอ่อนทางจิตวิทยาของผู้อื่น บงการให้คนเหล่านั้นลงมือสังหาร ส่วนตนกลับเฝ้าดูจากระยะไกล

กล่าวได้ว่าเป็นคนนอกกฎหมาย!

เขาถึงขั้นยุยงให้เฮสติงส์เพื่อนรักของปัวโรต์สังหารใครสักคน!

ถ้าปัวโรต์ไม่พบเข้าเสียก่อน เฮสติงส์คงกลายเป็นฆาตกรไปแล้ว

ถ้าปัวโรต์ไม่จัดการอีกฝ่าย อีกฝ่ายมีแต่จะกระทำการอันวิปริตต่อไป

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ปัวโรต์จึงเลือกใช้ตัวเลือกเดียวกับฆาตกรในฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!

ไม่ว่าจะดีหรือเลว

อย่างน้อยพฤติกรรมนี้ก็ไม่ได้ละเมิดคาแรกเตอร์ของปัวโรต์ แต่กลับทำให้คาแรกเตอร์ของปัวโรต์แข็งแกร่งขึ้น!

ใช่แล้ว

เขาสามารถให้อภัยคนเหล่านั้นได้ เพราะในช่วงเวลาอันมืดมนที่สุด เขาจะเลือกทำสิ่งที่สุดโต่งเช่นเดียวกัน!

ทว่าความแตกต่างอยู่ตรงที่…

ปัวโรต์สามารถให้อภัยผู้อื่นซึ่งใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันเพื่อลงโทษฆาตกรได้ แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองที่ใช้วิธีนี้ได้

เพราะฉะนั้นหลังจากที่เขาสังหารฆาตกรแล้ว เขาจึงปลิดชีพตนเองโดยไม่ลังเล

เขาใช้วิธีของตนเอง ตกตายไปตามฆาตกร!

และนี่ คือความยิ่งใหญ่ของปัวโรต์!

เมื่อตระหนักได้ถึงจุดนี้

หลายคนก็เงียบลง

เสียงก่นด่าต่อฉู่ขวงเงียบลงทันที

เมื่อมีเรื่องราวดังกล่าวเป็นพื้นฐาน คำด่าของใครหลายคนจึงไม่เป็นผล

เพียงแต่ไม่มีใครคาดคิด

ว่าฉู่ขวงได้เปิดเผยจุดนี้ให้ทุกคนรับรู้ตั้งแต่ในฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส เขาขุดหลุมไว้แต่แรกแล้ว

ความแตกต่างอยู่ที่ หลังจากคนกลุ่มนั้นใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันแล้ว พวกเขายังคงปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป

แต่ปัวโรต์ กลับเลือกใช้ความตายเป็นทางรอดของตนเอง

เขารู้สึกผิดต่อตนเอง

เขาละเมิดหลักการซึ่งรักษามาตลอดชีวิต

เมื่อเขาตัดสินใจในครั้งนี้ เขาได้ปฏิเสธสิ่งที่ยึดมั่นมาตลอดชีวิตการเป็นนักสืบ

แต่นี่ก็คือปัวโรต์!

ความหมายของโครงเรื่องนี้ลึกซึ้งจนพลอยให้ผู้คนตกใจ!

เนื่องจากมีสองทางเลือกซึ่งมีแนวทางต่างกันทว่ามุ่งสู่จุดประสงค์เดียวกัน จึงทำให้เรื่องราวซึ่งดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกัน ก่อเกิดเป็นห่วงโซ่ความคิดอันสมบูรณ์

ดังก้องไปทุกสารทิศ!

นอกจากนั้น ขณะตัดสินใจระหว่างสองทางเลือกนี้ ปัวโรต์พูดสามคำนี้ซ้ำๆ ไปมา

“ฉันไม่รู้…”

เขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับผู้อื่นอย่างไร และไม่รู้ว่าตัวเลือกของตนถูกต้องหรือไม่

บนโลกนี้ไม่มีคดีใดที่ยากเกินไปสำหรับปัวโรต์

สิ่งที่ยากสำหรับเขา มีเพียงความขัดแย้งซึ่งเกี่ยวข้องกับธรรมชาติของมนุษย์

ตอนนี้ยอมรับตอนจบกันได้หรือยัง?

ผู้อ่านเองก็ไม่รู้

แต่เสียงด่าทอนั้นลดลงเรื่อยๆ แล้ว

การลุกฮือของผู้อ่านค่อยๆ ลดลงหลังจากเหลิ่งกวงเอ่ยถึงฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส

ยามนี้ในใจของผู้อ่าน ฉู่ขวงได้มีภาพลักษณ์คล้ายกับอุโรบุชิ เก็นไปแล้ว

อุโรบุชิ เก็นก็คือนักเขียนบทและนักเขียนนิยายจากแดนอาทิตย์อุทัย

เนื่องจากคนคนนี้ค่อนข้างจริงจัง มีความสามารถในการคิดเชิงตรรกะที่แข็งแกร่ง จึงทำให้ผู้คนหล่นลงสู่ความคิดอันลึกซึ้งซึ่งมอบหนทางทางจิตวิญญาณให้แก่พวกเขา ดังนั้นจึงได้รับคำชื่นชมจากผู้อ่านที่สูงมาก

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะดีหรือแย่ อุโรบุชิ เก็นก็เป็นผู้สร้างสรรค์เอง

ถึงแม้ผลงานของอุโรบุชิ เก็นจะยอดเยี่ยม แต่โดยพื้นฐานแล้วเขายึดถือสไตล์การเขียนที่ค่อนข้างมืดมน ประหนึ่งว่าถ้าไม่เขียนให้ใครสักคนตายแล้วจะนอนไม่หลับ จนทุกคนที่อ่านผลงานของเขาจะรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ตลอดเวลา เพราะผู้อ่านไม่รู้เลยว่าตัวละครที่ตนชอบนั้นจะตายตอนไหน

ฉู่ขวงก็ทำเช่นนี้ไม่ใช่หรือ?

ผู้อ่านนึกไม่ถึงเลยว่าในตอนจบนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ ปัวโรต์จะตาย!

เขาทำได้ยังไง!

เขากล้าทำได้ยังไง!

ความนิยมของของปัวโรต์นั้นสูงมากในหมู่แฟนวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน นักเขียนทั่วไปไม่กล้าเล่นแบบนี้หรอก

แต่ฉู่ขวงกล้า!

ไม่เพียงผู้อ่านที่เหนื่อยล้าทั้งกายและจิตใจ นักเขียนหลายคนในวงการ รวมไปถึงบรรณาธิการทั้งหลายต่างก็หมดคำจะพูด

“น่ากลัวไปอีก”

“เจ้าแก่ฉู่ขวงแรงไม่เผื่อใครเลย”

“คิดว่าลิมิตของเขาจะไปหยุดอยู่ที่เขียนให้ปี้เหยาตายนะ นึกไม่ถึงว่าเขาจะกล้าเขียนให้ปัวโรต์ตาย”

“ปี้เหยาไม่ใช่ตัวเอก ตายแล้วก็ปล่อยไปได้ แต่นึกไม่ถึงว่าแม้แต่ตัวเอกเขายังกล้าเขียนให้ตาย!”

“ประเด็นคือก่อนที่ปี้เหยาจะตาย ความนิยมก็ไม่นับว่าสูง แต่ความนิยมของปัวโรต์นี่ทะลุยอดพีระมิดเลยนะ!”

“ฉู่ขวงบ้าบิ่นจริง แถมหยิ่งด้วย สมแล้วที่เป็นบุรุษผู้ซึ่งต่อสู้แบบหนึ่งต่อเก้าในการประชันวรรณกรรม!”

“โหดเกิ๊น!”

“ทุกวันนี้นักเขียนคนอื่นมีแต่ต้องคอยเอาใจคนอ่าน มีแต่ฉู่ขวงนี่แหละที่วันๆ เอาแต่ปั่นประสาทคนอ่าน”

มีคนกล่าวสรุปว่า

วงการนิยายเกิดการลุกฮือขึ้นสองครั้ง ครั้งแรกเป็นเพราะฉู่ขวง ครั้งที่สองก็เป็นเพราะฉู่ขวง

……………………………………………..

[1] โทษตายละเว้นได้ โทษอยู่ยากหลบเลี่ยง หมายถึง โทษประหารสามารถได้รับการละเว้น แต่ก็ต้องได้รับการลงโทษในรูปแบบอื่นขณะมีชีวิตอยู่ หรือต่อให้รอดไปได้ก็ต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานอยู่ดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน