Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 498

ตอนที่ 498 สร้างเรื่อง

การตอบรับถงซูเหวินเพื่อเป็นกรรมการพิเศษในรายการไม่ใช่เรื่องยากเย็นสำหรับหลินเยวียน เขาเองก็ชื่นชอบที่จะให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมากับนักร้อง และหลังจากนี้เขาก็ไม่มีอะไรทำพอดี

ภาพยนตร์ถ่ายเสร็จแล้ว

นิยายก็ปล่อยไปแล้ว

เรื่องเดียวที่หลินเยวียนต้องกังวลเห็นจะเป็นนิยายชุดเชอร์ล็อก โฮล์มส์ซึ่งต้องหาเวลาเขียน นิยายชุดนี้มีจำนวนตัวอักษรไม่น้อย หลินเยวียนคิดว่าจะใช้วิธีจัดการเช่นเดียวกับนิยายชุดปัวโรต์ ปล่อยออกไปเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วจึงเร่งอัปเดต

หืม?

ในขณะนั้น จู่ๆ หลินเยวียนก็เห็นข้อความในกลุ่มชั้นเรียนซึ่งเมนชันถึงทุกคน หวาลี่อาจารย์ที่ปรึกษาส่งมา ‘นักศึกษาทุกคนควรเตรียมทำปริญญานิพนธ์จบการศึกษาได้แล้ว วิชาเรียนปีห้าใกล้จะจบลงแล้ว ถ้าไม่เริ่มลงมือเขียนปริญญานิพนธ์ตอนนี้ อาจส่งผลกระทบต่อการออกปริญญาบัตรได้ค่ะ’

หลินเยวียนตะลึงงัน

เกือบลืมไปเสียสนิทว่าตนเองอยู่ปีห้าแล้ว ปริญญานิพนธ์ไม่ใช่เรื่องยากอะไร หลินเยวียนเพียงแต่ฉุกคิดขึ้นมาว่าตนน่าจะถอดหน้ากากในเดือนมิถุนายน เมื่อถึงตอนนั้นทั้งมหาวิทยาลัยคงรู้ว่าตนคือเซียนอวี๋ แต่ในเมื่อตัดสินใจเข้าร่วมรายการแล้ว เขาก็เตรียมใจไว้แล้วในระดับหนึ่ง

แน่นอนว่า

ถึงแม้ตัวตนในฐานะเซี่ยนอวี๋ไม่ช้าก็เร็วย่อมถูกเปิดเผย และเขาเองก็มีตัวตนในฐานะนักร้องเพิ่มขึ้นมาอีก ทว่าหลินเยวียนไม่คิดจะใช้ตัวตนในฐานะนักร้องเข้าร่วมงานใดๆ งานอีเวนต์หรือรายการต่างๆ หลินเยวียนยิ่งไม่มีทางเข้าร่วม ถึงอย่างไรเขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ช่องทางนี้ทำมาหากิน

‘รับทราบ’

หลินเยวียนพิมพ์ตอบในกลุ่มแช็ต แต่เพราะเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนอื่นๆ ต่างก็ตอบอาจารย์ที่ปรึกษาเช่นเดียวกัน

เขาจึงกดไปเพียง ‘+1’

เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในชั้นเรียนชื่อว่าเยี่ยหานเมนชันหลินเยวียน ‘วันก่อนเหมือนฉันเห็นนายที่บริษัท นายเองก็หางานที่สตาร์ไลท์เหมือนกันเหรอ?’

‘ไม่ธรรมดา!’

‘สตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์?’

‘เทพธิดาเยี่ยหาน!’

‘กว่าฉันจะหางานที่บริษัทเพลงเล็กๆ ได้แทบรากเลือด นึกไม่ถึงว่าเยี่ยหานจะเข้าสตาร์ไลท์แล้ว ตอนนี้สตาร์ไลท์เป็นหนึ่งในบริษัทเพลงชั้นนำของบลูสตาร์เลยละ!’

‘ขาใหญ่!’

‘ท่านเยี่ยหานจุ๊บุๆ เห็นแก่ที่ปกติฉันมักจะช่วยเธอทำเวรบ่อยๆ ต่อไปได้ดิบได้ดีในสตาร์ไลท์แล้วมาดึงฉันไปด้วยนะ!’

‘…’

บางคนอิจฉา

บางคนริษยา

กลุ่มแช็ตของชั้นเรียนไม่ได้คึกคักแบบนี้มานานแล้ว โดยเฉพาะหลังจากขึ้นปีห้า ทุกคนต่างก็เริ่มออกไปฝึกงานยังบริษัทข้างนอก ไม่มีเวลาเข้ามาพูดคุยในกลุ่มมากนัก

อันที่จริง

ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนในชั้นเรียนเป็นความรู้สึกอันบริสุทธิ์ แต่เมื่อเข้าสู่ชั้นปีที่ห้า หลายคนเริ่มฝึกงาน ขณะเดียวกันก็เริ่มเข้าสู่สังคม จิตใจของพวกเขาค่อยๆ เปลี่ยนผ่านกลายเป็นส่วนหนึ่งในสังคม หลายคนถึงขั้นติดต่อกับเยี่ยหานเป็นการส่วนตัวเพื่อใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ นี่คือสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้จากสังคม ขณะเดียวกันเพื่อนร่วมชั้นหลายคนก็เมนชันถึงหลินเยวียนเพื่อสอบถามที่มาที่ไป เยี่ยหานเห็นหลินเยวียนที่สตาร์ไลท์ หมายความว่าหลินเยวียนน่าจะได้งานที่สตาร์ไลท์แล้วเช่นกัน

“อื้ม”

หลินเยวียนตอบกลับไป

เยี่ยหานไม่ได้ใส่ใจเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนอื่น เมนชันหลินเยวียนทันที ‘ถ้ามีเวลานัดเจอกันที่โรงอาหารได้นะ คุณน้าของฉันเป็นผู้จัดการที่สตาร์ไลท์ บางครั้งก็ได้บัตรกินอาหารที่โรงอาหารของผู้บริหารระดับสูงมา ไว้วันหลังฉันจะชวนนายไป!’

‘ไม่เป็นไร’

มีคนยินดีเลี้ยงข้าวหลินเยวียนย่อมรู้สึกดีใจเป็นธรรมดา แต่หลินเยวียนกับเยี่ยหานไม่ได้สนิทสนมกัน เขาชอบกินข้าวกับคนที่คุ้นเคยกันมากกว่า และที่สำคัญคือตอนนี้หลินเยวียนกินข้าวที่โรงอาหารของผู้บริหารระดับสูงได้โดยไม่เสียเงิน

ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธไป

ไม่ต้องให้ใครเลี้ยงข้าว

นี่คือสวัสดิการที่หลินเยวียนได้รับ

เยี่ยหานเอ่ยปากชักชวนเช่นนี้ก็เป็นเรื่องปกติมาก หลินเยวียนไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ คาดว่าหลังจากนี้จะมีนักศึกษาจบใหม่จากวิทยาลัยศิลปะฉินโจวเข้าไปทำงานในบริษัทไม่น้อย ไม่แน่อาจมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนอื่นๆ อย่างเยี่ยหานอีก

‘ยอดไปเลย!’

‘สตาร์ไลท์เชียวนะ!’

‘เริ่ดมากแม่!’

‘คอนเน็กชันไปอีก!’

เพื่อนร่วมชั้นเรียนยังคงรู้สึกอิจฉา ทว่าสำหรับเรื่องที่หลินเยวียนตอบปฏิเสธเยี่ยหานกลายๆ นั้นไม่มีใครแปลกใจ ผู้หญิงในชั้นเรียนซึ่งตามจีบหลินเยวียนมีตั้งมากมาย เยี่ยหานคือหนึ่งในนั้น นอกจากนี้ ทุกคนรู้ดีว่าฝีมือในการบรรเลงเปียโนของหลินเยวียนยอดเยี่ยมแค่ไหน คนอย่างเขาได้เข้าทำงานในสตาร์ไลท์จึงไม่ใช่เรื่องที่เหลือเชื่อแต่อย่างใด

หลินเยวียนไม่ได้อ่านแช็ตกลุ่มอีก

เขาดูรายการในสัปดาห์ที่แล้วของทีมที่สาม จากนั้นจึงหยิบสมุดเล่มเล็กออกมาจดบันทึกข้อบกพร่องของทุกคน เป็นกรรมการพิเศษจำเป็นต้องทำการบ้านล่วงหน้า

จะพูดออกไปลอยๆ ไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน