ช่วงเวลาหลังจากนั้น
ภาพยนตร์เริ่มมีการโปรโมต
และหลินเยวียนสำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ห้าอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเดินทางไปยังวิทยาลัยศิลปะฉินโจวเพื่อสอบปริญญานิพนธ์เป็นครั้งสุดท้าย
ถูกต้อง!
เขาเรียนจบแล้ว!
หลินเยวียนใช้เวลาพักระหว่างการแข่งขันเขียนปริญญานิพนธ์จนเสร็จสมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเขียนวิทยานิพนธ์ประเภทนี้สำเร็จด้วยฝีมือการประพันธ์เพลงภายใต้การชี้แนะของหยางจงหมิง กลับเป็นการสอบดีเฟนด์ปริญญานิพนธ์ที่ทำให้หลินเยวียนงุนงง เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ อาจารย์ซึ่งรับผิดชอบการสอบในครั้งนี้ไม่ถามคำถามที่เกี่ยวข้องเลยแม้แต่คำถามเดียว มีแต่ถามคำถามสัพเพเหระ สุดท้ายแล้วยังขอลายเซ็นและขอถ่ายภาพร่วมกับหลินเยวียนด้วย ซึ่งหลินเยวียนตอบตกลงทุกคน
และหลังจากนั้น
ถึงเวลาถ่ายภาพวันสำเร็จการศึกษา
นักศึกษาแต่ละสาขาจะถ่ายภาพวันสำเร็จการศึกษาละช่วงเวลากัน เพราะฉะนั้นโดยรอบจึงไม่มีนักศึกษาจากสาขาอื่น ทว่าแม้แต่นักศึกษาสาขาการประพันธ์เพลงยังอดส่งเสียงกรี๊ดไม่ได้เมื่อเจอหลินเยวียน
ไม่รู้ว่าใครเริ่มตะโกนออกมาว่า “เซี่ยนอวี๋” …
พรึ่บๆๆ !
ทุกคนต่างตะโกนออกมาว่า “เซี่ยนอวี๋”
ในหมู่นักศึกษาเหล่านี้ เพื่อนร่วมห้อง เพื่อนร่วมชั้น และเพื่อนร่วมโต๊ะของหลินเยวียนดูเหมือนจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ สุดท้ายแล้วหลินเยวียนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาถ่ายรูปหมู่ไปกี่ใบ หรือแจกลายเซ็นไปกี่ครั้ง สุดท้ายแล้วแม้แต่อาจารย์และอธิการบดีก็รีบเข้ามาร่วมสนุก และยืนกรานว่าจะร่วมถ่ายภาพวันสำเร็จการศึกษาพร้อมกับนักศึกษาสาขาการประพันธ์เพลงให้ได้ ดังนั้นงานถ่ายภาพวันสำเร็จการศึกษาจึงกลายเป็นงานแฟนมีตติงของแฟนคลับหลินเยวียนไปโดยปริยาย ตั้งแต่กระบวนการและผลลัพธ์ล้วนยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ
โชคดีที่
ทางมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้นักข่าวซึ่งรู้ว่าเซี่ยนอวี๋จะกลับมหาวิทยาลัยมารับปริญญาในวันนี้เข้ามา ไมาเช่นนั้นนักข่าวเหล่านั้นคงยิ่งวุ่นวาย เพราะเซี่ยนอวี๋ไม่ได้ปรากฏตัวในงานสาธารณะใดเลยนับตั้งแต่ถอดหน้ากากในรายการราชาหน้ากากนักร้อง กอปรกับที่เขาไม่ชอบให้สัมภาษณ์ ความอยากรู้อยากเห็นที่ภายนอกมีต่อเซี่ยนอวี๋จึงยังไม่ถูกเติมเต็มสักที
เมื่อเป็นเช่นนี้
หลังจากจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จเรียบร้อย
หลินเยวียนจึงนั่งรถของกู้ตงกลับบ้าน จู่ๆ กู้ตงก็กล่าวกลั้วหัวเราะ “คืนนี้ตัวแทนหลินจะไปดูหนังไหมคะ ถ้าจะไปฉันจะได้ช่วยจัดที่นั่งให้”
“ไม่ต้องครับ”
หลินเยวียนรู้ว่าหนังที่กู้ตงหมายถึงคือเรื่องสไปเดอร์แมน วันนี้ไม่ใช่เพียงวันสอบปริญญานิพนธ์และวันถ่ายรูปสำเร็จการศึกษาของเขา ยังเป็นวันที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายอย่างเป็นทางการด้วย ทว่าหลินเยวียนได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ที่บริษัทไปแล้วรอบหนึ่ง ในตอนนี้เขาจึงไม่ได้สนใจนัก ไม่สู้รีบกลับบ้านและพาสุนัขออกไปเดินเล่นดีกว่า
“ได้ค่ะ”
กู้ตงพยักหน้า
ในเวลานี้หลินเยวียนหยิบโทรศัพท์ออกมาเลื่อนดูโมเมนต์บนวีแช็ต และเห็นโพสต์เกี่ยวกับเรื่องสไปเดอร์แมนเป็นจำนวนมาก
ยกตัวอย่างเช่นบนโมเมนต์ของจ้าวอิ๋งเก้อ
[วันนี้มาดูสไปเดอร์แมน]
ภาพที่แนบมาคือตั๋วภาพยนตร์เรื่องสไปเดอร์แมน
ไม่ทันไรเจียงขุยก็โพสต์บนโมเมนต์วีแช็ตเช่นกัน [หนังของอาจารย์เซี่ยนอวี๋เข้าฉายแล้ว ถึงฉันจะไม่มีแฟน แต่ฉันก็ซื้อตั๋วสองใบเพื่อสนับสนุนผลงานของอาจารย์เซี่ยนอวี๋!]
ภาพที่แนบมาคือตั๋วภาพยนตร์เรื่องสไปเดอร์แมนสองใบ
และหลังจากนั้น
เฉินจื้ออวี๋เองก็โพสต์ลงบนโมเมนต์วีแช็ตเช่นเดียวกัน
[วันนี้ดูสไปเดอร์แมน มีใครอยากดูด้วยกันไหมครับมาได้เลย ผมเหมาโรงไว้แล้ว]
ภาพประกอบคือ…
ภาพแคปหน้าจอของการสั่งซื้อตั๋วภาพยนตร์ทั้งโรง
สุดท้ายแล้ว
หลินเยวียนเลื่อนหน้าจอไปเจอโมเมนต์วีแช็ตของซุนเย่าหั่ว
[เพื่อนๆ ที่ดูสไปเดอร์แมนในวันนี้ สามารถใช้หางตั๋วเพื่อรับส่วนลด 40% ที่เยี่ยนเยี่ยนหม้อไฟทุกสาขา นอกจากนั้นยังสามารถรับบัตรสมาชิกเยี่ยนเยี่ยนหม้อไฟได้ฟรี ขอเพียงคุณรับชมภาพยนตร์ของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ พวกเราคือเพื่อนกัน!]
ภาพประกอบคือโฆษณาของร้านและคำประกาศบนปู้ลั่ว
ในขณะนั้นรถก็เคลื่อนตัวมาถึงบ้าน หลินเยวียนกดถูกใจให้ซุนเย่าหั่วอย่างไม่คิดมาก ก่อนจะลงจากรถ
……
เมื่อจ้าวอิ๋งเก้อเห็นโมเมนต์ ก็ตกตะลึงไปทันใด
เธอโพสต์เช่นนี้บนโมเมนต์ ก็เพื่อเอาใจเซี่ยนอวี๋
แต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อเทียบกับโพสต์ของปลาตัวอื่นๆ แล้ว โพสต์ของเธอจะดูกระจอกงอกง่อยไปทันตาเห็น
“ทุกคนก็เล่นกันแบบนี้เองเหรอเนี่ย?”
เป็นครั้งแรกที่จ้าวอิ๋งเก้อสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของซุนเย่าหั่วและคนอื่นๆ เธอเพิ่งเข้ามาในแวดวงเล็กๆ ซึ่งโคจรรอบเซี่ยนอวี๋ จึงไม่เข้าใจความโหดเหี้ยมของแวดวงนี้
ทว่าตอนนี้ เธอเข้าใจแล้ว
ขณะเดียวกัน
เจียงขุยก็งงเช่นเดียวกัน
ซุนเย่าหั่วน่ะช่างเถอะ แต่ทำไมตอนนี้เฉินจื้ออวี่ถึงได้ช่ำชองขนาดนี้?
สนับสนุนผลงานก็ส่วนสนับสนุนผลงาน…
ทำไมถึงต้องเหมาทั้งโรงด้วย?
คุณประจบได้เก่งกว่าซุนเย่าหั่วหรือไง?
และแน่นอน
คนที่งงที่สุดหนีไม่พ้นเฉินจื้ออวี่
เขาคิดว่าตนเหมาทั้งโรงนั้นเป็นวิธีที่เหนือชั้นแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน