การเป็นพ่อเพลงนั้นมีสามวิธี
วิธีที่หนึ่ง: ปั้นราชาหรือราชินีเพลงสองคน!
วิธีที่สอง: อาศัยหนึ่งเพลงขึ้นบัลลังก์ คว้ารางวัลปราชญ์ดนตรี!
วิธีที่สาม: กวาดแชมป์สิบสองฤดูกาล ครองอันดับหนึ่งบนชาร์ตเพลงตลอดทั้งปี!
ความยากของทั้งสามวิธีจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ
สิ่งที่หลินเยวียนเลือก คือวิธีที่ยากที่สุด คว้าแชมป์สิบสองสมัยบนการจัดอันดับ!
พิสูจน์ด้วยความสามารถ!
นี่คือเส้นทางที่ยากที่สุดในการเป็นพ่อเพลง!
ไม่ใช่เพราะหลินเยวียนต้องการท้าทายตนเอง
แต่เพียงเพราะค่าน้ำหนักของพ่อเพลงมีสูงต่ำ หลินเยวียนอยากเป็นพ่อเพลงแบบเดียวกับหยางจงหมิง
เช่นนี้ทำเงินได้มากที่สุด
ขณะเดียวกันก็เกาะกระแสบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศไปด้วย
ในซีรีส์เรื่องนี้มีเพลงดีๆ มากมาย คงน่าเสียดายถ้าไม่ถือโอกาสหยิบยืมกระแสของซีรีส์มาใช้ไต่ชาร์ตเพลง
แน่นอนว่าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศไม่สามารถออกอากาศนานตลอดทั้งปี
ถ้าหากในเดือนนั้นไม่มีแรงกระตุ้นกระแสความนิยม หลินเยวียนจะเขียนเพลงอื่นออกมาไต่ชาร์ตเพลง
เรื่องนี้อยู่ในแผนการของหลินเยวียนเช่นเดียวกัน
อันที่จริง ตั้งแต่รายการราชาหน้ากากนักร้องไปจนถึงรายการเพลงของเรา หลินเยวียนก็เขียนเพลงในทั้งสองรายการนี้ไปจำนวนมาก
ในนั้นมีหลายเพลงที่สามารถใช้ไต่ชาร์ตเพลงได้
ยกตัวอย่างเช่นเพลงเกินจริง
หรือเพลงเส้นทางธรรมดา
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพลงที่มีหวังว่าสามารถคว้าอันดับหนึ่งของฤดูกาลเพลง
แต่เนื่องจากไม่ได้ปล่อยออกมาตั้งแต่ต้นเดือน ระยะเวลาในการไต่อันดับนั้นน้อยเกินไป ท้ายที่สุดแล้วจึงไม่สามารถคว้าแชมป์ในฤดูกาลเพลงได้
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาจึงรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย
“ภารกิจอย่างเป็นทางการ เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าเลยแล้วกัน”
หลินเยวียนตัดสินใจ
ขณะนี้คือเดือนตุลาคม
ปีนี้กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว
……
หลายวันหลังจากนั้น สตาร์ไลท์ใช้เวลาไปกับการเตรียมการถ่ายทำซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
เดือนพฤศจิกายนมาถึง
ซีรีส์เรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ในที่สุดก็เปิดกล้องในที่สุด!
ผู้กำกับซีรีส์เรื่องนี้ คือผู้กำกับซีรีส์มือทองซึ่งสตาร์ไลท์เพิ่งดึงตัวมาจากฉีโจว
อุตส่าห์ดึงตัวผู้กำกับซีรีส์ชันนำมาเพื่อถ่ายทำเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ เห็นได้ชัดว่าสตาร์ไลท์ให้ความสำคัญกับซีรีส์เรื่องนี้มากเพียงใด
ในช่วงเวลานี้ สตาร์ไลท์จึงมีงานเต็มมือ
เนื่องจากสตาร์ไลท์ไม่เพียงถ่ายทำบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
นอกจากนั้นยังมีภาพยนตร์อีกสองเรื่อง
เรื่องหนึ่งคือ ‘ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์’ ซึ่งอี้เฉิงกงเป็นผู้รับผิดชอบ
อีกเรื่องหนึ่งคือ ‘ชีวิตอัศจรรย์ของพาย’ ซึ่งตู้อั้นเป็นผู้รับผิดชอบ
ใช่แล้ว
ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้ เริ่มต้นการถ่ายทำแล้ว
และความบังเอิญก็คือ เมื่อรวมกับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ทั้งสามเรื่องนี้ เซี่ยนอวี๋ล้วนเป็นผู้เขียนบท
แม้แต่ตู้อั้นซึ่งเป็นยึดถือแนวทางผู้กำกับเป็นแกนหลัก ยังกลายเป็นผู้ช่วยงานของเซี่ยนอวี๋
หากใช้คำพูดของแผนกโทรทัศน์ในบริษัทก็คือ
“แผนกโทรทัศน์ของสตาร์ไลท์ให้รับใช้เซี่ยนอวี๋เพียงคนเดียว”
ทั้งที่ตัวเซี่ยนอวี๋เองไม่ใช่คนของแผนกโทรทัศน์ด้วยซ้ำไป
เขาเป็นนักประพันธ์เพลง
มีความเป็นตลกร้ายแฝงอยู่ไม่น้อย
……
สตาร์ไลท์งานยุ่งเหลือเกิน
เซี่ยนอวี๋ก็งานยุ่งขึ้นมาเช่นเดียวกัน
ไม่เพียงเพราะเขาเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์และซีรีส์สามเรื่อง จึงจำเป็นต้องไปเยี่ยมเยียนกองถ่ายทั้งสามแห่ง
ยังเป็นเพราะว่า…
รายการซึ่งเขากำลังเข้าร่วมอย่างราชาหน้ากากนักร้องได้เปิดรอบใหม่การแข่งขันแล้ว
บรรดานักร้องต่างแข่งขันกันจบแล้ว
เดือนนี้หลินเยวียนมุ่งความสนใจไปยังสงครามกับบรรพกาล ไม่ได้ติดตามระบบการแข่งขันมากนัก
ถึงอย่างไร เมื่อเขาและนักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ กลับไปยังกองถ่ายรายการ ก็มีนักร้องลดลงถึงสองในห้าแล้ว
ปัจจุบันนี้เหลือนักร้องเพียงสามสิบคนในรายการ
ราชวงศ์ปลายังอยู่ครบถ้วน
นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด
การแข่งขันในรายการราชาหน้ากากนักร้องก่อนหน้านี้ ราชวงศ์ปลายกเว้นเฉินจื้ออวี่ล้วนทะลุเข้ารอบสิบสองคนสุดท้าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน