‘ลมบูรพาร้าวราน เป็นเพลงที่แทบไร้ที่ติในแง่ของเนื้อเพลง การเรียบเรียง ดนตรีประกอบ จังหวะ การสร้างบรรยากาศ และการโยกย้ายอารมณ์ เส้นทางในอาชีพของเซี่ยนอวี๋ยังคงอีกยาวไกล จนถึงตอนนี้ เพลงนี้คือผลงานชิ้นโบแดงของเซี่ยนอวี๋’
— หนังสือพิมพ์ฉินโจวแนวหน้า
‘ความงามแห่งตรรกะภาษาเชิงเหตุผล และความงามแห่งค วามซาบซึ้งของภาษาอันอ่อนไหว ทั้งสองสไตล์ดูคล้ายจะตรงข้ามกัน แต่แท้จริงแล้วเกิดขึ้นจากผู้สร้างสรรค์คนเดียวกัน นั่นก็คือลมบูรพาร้าวราน เซี่ยนอวี๋บุกเบิกสไตล์ดนตรีโบราณแนวใหม่ เป็นผลงานซึ่งทำให้ทั้งวงการตกตะลึง และเป็นผลงานซึ่งทำให้ผู้มีใจรักในเพลงสไตล์โบราณพากันขนาดนามว่าขีดจำกัดของเพลงสไตล์โบราณ’
— กระแสนิยมฉีโจว
‘ดนตรีทั้งชิ้นเเปี่ยมไปด้วยลีลาของเพลงผีผา ชวนให้นึกถึงเสียงรำพันด้วยความโศกเศร้า วิธีที่เซี่ยนอวี๋ผสมผสานดนตรีคลาสสิกเข้าด้วยกันอย่างง่ายดาย ตอกย้ำว่าความสำเร็จของเขานั้นไม่ได้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ’
— วารสารดนตรีฉู่โจว
‘ถ้าหากคุณยังใช้การถอดรหัสภาษาเพื่อประเมินลมบูรพาร้าวราน เท่ากับคุณทำลายเสน่ห์ของบทเพลงไป วงการเพลงในช่วงปลายปีนี้น่าตื่นเต้นขึ้นมาเพราะเซี่ยนอวี๋ ดนตรีบลูสตาร์เจิดจรัสขึ้นเรื่อยๆ เพราะเซี่ยนอวี๋เช่นกัน’
— วงการบันเทิงเยี่ยนโจว
สื่อจากทุกทวีปต่างประเมินบทเพลงนี้ แม้แต่สื่อทางการอย่างหนังสือพิมพ์วรรณศิลป์ก็ออกโรงเช่นเดียวกัน ‘เซียนอวี๋ได้สร้างสรรค์แนวเพลงคลาสสิกสมัยใหม่ เพลงนี้เน้นย้ำถึงความประณีตของงานผ่านมาตรฐานและแนวคิดในการผสานสามองค์ประกอบโบราณและสามองค์ประกอบสมัยใหม่ มิใช่ เพียงผลงานอันไพเราะซึ่งสอดแทรกสไตล์โบราณเท่านั้น แต่ยังเป็นผลงานชิ้นเอกซึ่งผสมผสานดนตรีคลาสสิกและดนตรีสมัยใหม่เข้าด้วยกัย่างลงตัว!’
แน่นอน
ในรายงานมากมายต่างยกย่องเพลงบลูสตาร์ จึงไม่สามารถแยกแยะได้ว่าระหว่างสองเพลงนี้ใครแข็งแกร่งใครอ่อนแอ แม้แต่คำวิจารณ์จากหนังสือพิมพ์วรรณศิลป์ยังรักษาจุดยืนเป็นกลางว่าทั้งสองเพลงต่างมีจุดเด่นในตัวเอง “ห้าวหาญและสง่างาม บ้าบิ่นและละเอียดอ่อน ในสไตล์ของแต่ละเพลง ทั้งสองเพลงล้วนบรรลุถึงความสูงสุดในแบบของตนเอง!”
จะกล่าวโทษว่าสื่อรักษาจุดยืนเป็นกลางก็คงไม่ได้
ความจริงคือสองเพลงนี้ทรงพลังจนทิ้งห่างเพลงอันดับสามไปไกลจนไม่เห็นฝุ่น เพียงแต่อันดับหนึ่งและอันดับสองยังคงสลับกันไปมาระหว่างสองเพลงนี้ ราวกับกำลังแข่งชักเย่อกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
หนึ่งวัน
สองวัน
สามวัน
ทั้งสองเพลงยังคงประชันกันไปมา ไม่มีเพลงใดสามารถนั่งจนบัลลังก์แชมป์อุ่นได้สักที หลักจากสถานการณ์แซงกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้เกิดขึ้น ก็ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัยในสามสิบวันหลังจากนี้ เพียงแต่การรับรู้เกี่ยวกับเซี่ยนอวี๋นั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ ‘ลมบูรพาร้าวราน’ ถือกำเนิดขึ้น…
ถึงอย่างไรในครั้งนี้
คู่แข่งของเซี่ยนอวี๋ก็คือหยางจงหมิง พ่อเพลงแนวหน้าซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าอยู่ในอันดับที่ห้าของบลูสตาร์ สามารถแลกหมัดไปมากับหยางจงหมิงได้นั้นก็สามารถอธิบายหลายอย่างได้แล้ว
บนอินเทอร์เน็ต
เนื่องจากการดึงกันไปมาระหว่างทั้งสองคน จึงก่อให้เกิดแรงสนับสนุนสองฝั่ง ฝั่งแรกเรียกตนเองว่า ‘พรรคแพะ’ สนับสนุนหยางจงหมิง ส่วนอีกพรรคหนึ่งเรียกตนเองว่า ‘พรรคปลา’ สนับสนุนเซี่ยนอวี๋
สำหรับเรื่องนี้
มีชาวเน็ตจอมกวนบางคนติดตลก ล้อเลียนประโยคจาก ‘ไม่ว่าจะชอบเพลงของเซี่ยนอวี๋หรือเพลงของหยางจงหมิง’ กลายเป็น ‘ไม่ว่าจะชอบซุปเนื้อปลาหรือซุปเนื้อแพะ’ เพราะทั้งซุปเนื้อปลาและซุปเนื้อแพะล้วนเป็นวิธีการปรุงอาหารที่มีชื่อเสียง
‘ฉันชอบกินน้ำแกงปลา!’
มีสมาชิกพรรคปลาวิเคราะห์อย่างจริงจัง ‘ซุปปลาอุดมไปด้วยคอลลาเจนซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว จึงเสริมผลลัพธ์ด้านความงามได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังรสชาติอร่อย ช่วยกระตุ้นต่อมรับรสและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย!’
พรรคปลาตบมุกได้ดีทีเดียว
พรรคแพ้ไม่ยอมน้อยหน้า ‘ซุปแกะเติมพลังให้อวัยวะและบำรุงชี่ อุ่นและเสริมพลังหยางในไต ผู้ที่มีการทำงานของไตบกพร่องควรดื่มซุปแกะให้มาก เนื่องจากมีผลในการรักษาอาการชี่พร่องอันเป็นผลจากม้ามเสื่อม!’
มีคนกล่าวว่า
นี่คือปลาแพะแข่งกันสด!
ที่เรียกว่าปลาแพะแข่งกันสด อันที่จริงเป็นชื่อของอาหารซึ่งมีชื่อเสียงจากสักทวีปหนึ่ง สิ่งที่บังเอิญก็คือ เมื่อรวมคำว่า ‘ปลา (鱼)’และ ‘แพะ (羊)’ เข้าด้วยกัน จะเกิดเป็นตัวอักษรตัวใหม่ได้พอดิบพอดี
สด (鲜)!!!
การต่อสู้ระหว่างทั้งสองไม่เพียงไร้ซึ่งกลิ่นดินปืน มิหนำซ้ำยังมีกลิ่นหอมรัญจวนจิตของอาหารและกลิ่นอายของความเป็นมนุษย์ เมื่อพิจารณาจากยอดดาวน์โหลดของทั้งสองเพลง ที่จริงแล้วทั้งสองเพลงต่างมีส่วนช่วยส่งเสริมกันและกัน เมื่อสถิติของเพลงหนึ่งพุ่งสูงขึ้น อีกเพลงหนึ่งจะพยายามเร่งเครื่อง แม้แต่ในวงการยังรู้สึกสะท้อนใจกับสถิติของสองเพลงนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน