สิ่งที่เรียกว่า ‘ปลาแพะแข่งกันสด’ ดำเนินไปอย่างดุเดือดเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ต่างฝ่ายต่างสลับกันรุกรับ
ผู้คนมากมายสนใจผลลัพธ์สุดท้าย และอาจเรียกได้ว่าตั้งหน้าตั้งตารอ
กว่าทุกคนจะอดทนจนถึงสิ้นเดือน โดยคิดว่าผลแพ้ชนะจะได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรม
ปรากฏว่าเกิดการแทรกแซงอย่างกะทันหัน!
สมดุลระหว่างเซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิงถูกทำลายในชั่วพริบตา!
สมดุลแห่งชัยชนะนั้นเทลงสู่ฝั่งหยางจงหมิงในทันที!
ชั่วขณะนั้น
หลายคนต่างรู้สึกหดหู่ใจจนแทบอาเจียนเป็นเลือด
‘อะไรกัน’
‘ทำไมจู่ๆ ทางการถึงโผล่มาแบบนี้’
‘ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่สนุกแล้วสิ’
‘ทางการประกาศเท่ากับชี้เป็นชี้ตาย!’
‘กระแสที่ได้จากทางการ ใครจะไปทนไหว…’
‘ครั้งก่อนดูเพลงของเราแล้วอยากเห็นคะแนนโหวตโดยละเอียดของสองคนนี้ แต่รายการดันนับว่าเสมอกัน’
‘ผมกำลังคิดว่าเราไม่สามารถปล่อยให้ผลเสมอกันในฤดูกาลเพลงดำเนินต่อไปได้ ยังไงก็ต้องมีผลการแข่งขัน และแล้วทางการก็โผล่มา’
‘ฉันอยากเห็นผลแพ้ชนะระหว่างพ่อเพลงอวี๋กับพ่อเพลงหยางจริงๆ ทำไมถึงยากขนาดนี้กัน’
‘พ่อเพลงหยางชนะแล้ว แต่ถ้านับแบบนี้ เซี่ยนอวี๋ก็ไม่ได้แพ้’
‘…’
ผลแพ้ชนะเกิดขึ้นแล้ว
ทว่าผลแพ้ชนะนี้ไม่ใช่ผลแพ้ชนะในแบบที่ทุกคนอยากเห็น เพราะฉะนั้นทุกคนถึงได้รู้สึกหดหู่เช่นนี้
ในเวลานี้
จู่ๆ ก็มีคนตบหน้าผากและฉุกคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตขึ้นมาได้
‘พวกคุณจำการแข่งขันครั้งแรกของพ่อเพลงอวี๋กับเฟ่ยหยางได้ไหม พ่อเพลงอวี๋เป็นแชมป์ได้ยังไง’
‘เหมือนว่าจะได้รับการรับรองจากทางการเหมือนกัน’
‘ตอนนั้นถ้าไม่มีการรับรองจากทางการ เฟ่ยหยางน่าจะชนะในการพบกับเซี่ยนอวี๋ครั้งแรก แต่ทันทีที่ทางการออกโรง เซี่ยนอวี๋ก็พลิกขึ้นไปคว้าอันดับหนึ่งทันที’
‘ถ้าจำไม่ผิดละก็ เพลงนั้นคือเพลงเปลี่ยนตัวเองของเฉินจื้ออวี่’
‘ตอนนั้นทางการหยิบเพลงนี้มาโปรโมต บอกว่าเนื้อหาของเพลงเปลี่ยนตัวเองนั้นเรียกร้องให้เกิดความสามัคคีในแต่ละทวีปบนบลูสตาร์ เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่มีความบาดหมางและคับข้องใจต่อกัน’
‘ครั้งนี้พ่อเพลงหยางใช้แนวคิดเดียวกัน เรียกร้องให้แต่ละทวีปบนบลูสตาร์สามัคคีกัน’
‘ทำแบบนี้เลยหรือ’
‘…’
ชาวเน็ตรู้สึกร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก
มีเหตุย่อมมีผล
โชคชะตานั้นช่างเหลือเชื่อ
การออกโรงของทางการในครั้งนั้น มีส่วนช่วยเซี่ยนอวี๋ และ บีบบังคับให้เฟ่ยหยางหล่นลงไปอยู่ในอันดับที่สอง
ในครั้งนั้น เซี่ยนอวี๋นับว่าโชคดีหล่นทับ
ใครจะคิดว่าในการดวลระหว่างเซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิงในครั้งนี้ ทางการจะลงมืออีกครั้งด้วยเหตุผลเดียวกัน ทว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์กลับไม่ใช่เซี่ยนอวี๋ แต่เป็นหยางจงหมิง
‘สิ่งที่อภินันทนาการทั้งหมดจากทางการล้วนถูกทำเครื่องหมายอย่างลับๆ ไว้ตั้งแต่แรก?’
‘ไม่เชื่อก็ลองเงยหน้าดู มีใครเคยรอดพ้นจากการพิพากษาของสวรรค์บ้าง?’
‘นึกไม่ถึงว่าเซี่ยนอวี๋ก็มีวันนี้กับเขาเหมือนกัน’
‘เฟ่ยหยาง: แค้นได้รับการชำระ!’
‘ความคิดของทางการลึกซึ้งอย่างนี้นี่เอง แบบนี้ก็ยุติธรรมแล้ว’
‘ช่วยเซี่ยนอวี๋ครั้งแรก แปลว่าต้องช่วยเซี่ยนอวี๋เป็นครั้งที่สอง?’
‘เอาละ ตั้งตารอการต่อสู้ครั้งที่สามระหว่างพ่อเพลงอวี๋กับพ่อเพลงหยางได้เลย’
‘ครั้งนี้ก็เกินไปหน่อย’
‘…’
บรรดาชาวเน็ตจอมกวนเล่นมุกไป ขณะเดียวกันก็ถอนหายใจอย่างร่ำไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก ไม่ทันไรก็ไม่มีใครเอ่ยปากบ่นอีก
จะบ่นได้อย่างไร
ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าทางการไม่ได้จงใจ
ทำนองหลักคือการผนวกรวมบลูสตาร์ ตอนนี้ก็ดันเป็นช่วงสิ้นปี หานโจวกำลังเข้ารวมการผนวกรวมพอดี
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เบื้องบนจึงผลักดันเพลง ‘บลูสตาร์’ เพื่อการดำรงชีวิตของประชาชนด้วยเช่นเดียวกัน
เรื่องนี้เป็นความบังเอิญก็ตรงที่ ในช่วงมหาสงครามเทพเซียน หยางจงหมิงเขียนเพลงซึ่งทางการสามารถนำไปใช้ประชาสัมพันธ์ได้พอดี
‘เดี๋ยวนะ’
ในขณะนั้น ก็มีคนเกิดความคิดขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน