“ไม่เลว”
หลังจากทดสอบทุกคน
หลินเยวียนพยักหน้า
นอกจากเว่ยห่าวอวิ้นซึ่งยังมีปัญหาใหญ่ นักร้องคนอื่นๆ ล้วนทำได้ดีมาก
คงพยายามกันน่าดู
โดยเฉพาะอย่างยิ่งซุนเย่าหั่วและเฉินจื้ออวี่ ไม่เพียงอ่านได้ดี แต่การออกเสียงก็ยอดเยี่ยมมาก
หลินเยวียนรู้ภาษาอังกฤษ
ต่างจากนักร้องซึ่งต้องฝึกฝนภาษาอังกฤษอย่างหนัก หลินเยวียนเพียงแค่จ่ายเงินซื้อน้ำยาภาษากับระบบ ก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
ถึงแม้หลินเยวียนไม่จำเป็นต้องร้องเพลงเอง
แต่ในเมื่อเตรียมเพียงภาษาอังกฤษไว้ในอนาคต ตัวหลินเยวียนเองจึงต้องรู้ภาษาอังกฤษ
ไม่เช่นนั้น เรื่องนี้คงอธิบายได้ยาก
หลินเยวียนให้กำลังใจพวกเขา “ทุกคนพยายามต่อไปนะครับ หลังจากนี้ผมจะลองปล่อยเพลงภาษาอังกฤษ”
เขาเตือนทุกคนด้วยวิธีที่แทบชัดเจน
ขณะนี้หลินเยวียนนับว่ามีความรู้สึกที่ดีต่อนักร้องราชวงศ์ปลา
ถ้ามีเพลงที่ดี เขายังอยากแจกจ่ายเป็นการภายในเสียก่อน นอกจากว่านักร้องเหล่านี้ร้องได้ไม่ดีจริงๆ จึงค่อยร่วมงานกับนักร้องนอกราชวงศ์ปลา
เงื่อนไขคือ นักร้องในราชวงศ์ปลาต้องฝึกฝนภาษาอังกฤษจนเชี่ยวชาญเสียก่อน
“ค่ะ/ครับ”
ทุกคนตอบเสียงดัง
เว่ยห่าวอวิ้นใบหน้าแดงก่ำ ตอบว่า ‘ค่ะ’ ตามน้ำไป
เธอในวันนี้ ได้รับบทเรียนอันหนักหน่วง
เธอยืนอยู่ตรงนั้นอย่างตกประหม่า จ่ายให้กับบทเรียนราคาแพงนี้ครั้งแรก
ในที่สุดเธอก็เข้าใจ ว่าทำไปโลกภายนอกจึงบอกว่าในราชวงศ์ปลาแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อชิงความโปรดปรานจากเซี่ยนอวี๋
เมื่อก่อนเธอคิดเพียงว่าชาวเน็ตหยอกล้อกัน
ตอนนี้เมื่อได้เข้าร่วมราชวงศ์ปลา เธอถึงได้เข้าใจ
ถ้าหากพ่อเพลงอวี๋คือจักรพรรดิในสมัยโบราณ และจับนักร้องราชวงศ์ปลาเหล่านี้ไปใส่ในวังหลัง เหล่าสนมเจ้าเล่ห์เพทุบายหน้าเดิมก็เตรียมตัววางมือได้เลย
ความสามัคคีอันงดงามของราชวงศ์ปลานั้นเป็นเพียงภาพลวงตา!
การแข่งขันภายในนี้เต็มไปด้วยคาวเลือดคละคลุ้ง!
หลังจากทดสอบภาษาอังกฤษของทุกคนเสร็จ หลินเยวียนจึงให้ทุกคนแยกย้ายกลับไป และเรียกให้ซุนเย่าหั่วอยู่รอเพียงคนเดียว
ขณะเดินออกมา ทุกคนจ้องมองไปซุนเย่าหั่วด้วยแววตาอิจฉาริษยา
รวมไปถึงเว่ยห่าวอวิ้น
เธอเริ่มกลมกลืนจริงๆ แล้ว
“ร้ายมาก!”
“ปากบอกยอมแพ้กับภาษาอังกฤษ แต่พูดคล่องกว่าใครเลย!”
“เขาหลอกให้พวกเราตายใจ!”
“คนไร้เดียงสาอย่างฉัน หลงเชื่อคำพูดของเขาซะได้!”
“เขานี่แหละร้ายที่สุด!”
“เกือบลืมไปแล้วว่าเขาเป็นนายทุนคนเดียวในหมู่พวกเรา!”
“…”
เมื่อออกจากห้อง
เจียงขุยและคนอื่นๆ ก็เริ่มบ่น
เว่ยห่าวอวิ้นมองไปยังคนกลุ่มนั้นด้วยความประหลาดใจ
ควรเป็นฉันที่พูดแบบนั้นไม่ใช่หรือ!
พวกคุณก็เหมือนกับซุนเย่าหั่วทุกกระเบียดนิ้วไม่ใช่หรือ?
ยังกล้าบอกว่าตัวเองไร้เดียงสา?
และในห้อง
ซุนเย่าหั่วยิ้มกว้าง “รุ่นน้อง มีเรื่องอะไร บอกมาได้เลย”
“อัดเพลง”
หลินเยวียนหยิบเพลงออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม “รุ่นพี่เย่าหั่วไปทำความคุ้นเคยกับเพลงนี้ครับ สัปดาห์หน้าอัดเพลง”
“ได้เลย!”
ซุนเย่าหั่วจิตใจเบิกบาน สองมือเอื้อมรับโน้ตเพลง
“จูบลา”
“อื้ม”
หลินเยวียนตอบโดยไม่ต้องหยุดคิด
จินมู่ยิ้มขื่น “ผมยังไม่ได้บอกเงื่อนไขเลยครับ การรับมอบนั้นมีเงื่อนไข เงื่อนไขคือหลังจากนี้หัวหน้าทำได้แค่เผยแพร่ผลงานผ่านคลังหนังสือซิลเวอร์บลู อีกทั้งคลังหนังสือซิลเวอร์บลูจะต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาลิขสิทธิ์ผลงานด้วย พวกเราสามารถตัดสินใจเลือกหุ้นส่วน แต่คลังหนังสือซิลเวอร์บลูต้องการส่วนแบ่งสี่สิบเปอร์เซ็นต์…”
“มากขนาดนั้นเชียว?”
“ผมกลับรู้สึกว่ายอมรับได้ คลังหนังสือซิลเวอร์บลูมีประสบการณ์สูงในการพัฒนาลิขสิทธิ์ พวกเขามีทรัพยากรและประสบการณ์ และสามารถสร้างมูลค่าให้กับลิขสิทธิ์ในมือของเราได้มากขึ้น นอกจากนี้พวกเขายังสัญญาว่าถ้าให้ส่วนแบ่งลิขสิทธิ์เหล่านี้กับพวกเขาได้ หุ้นอาจเพิ่มขึ้นถึงสิบเปอร์เซ็นต์หลังจากเวลาผ่านไปไม่กี่ปี การคำนวณโดยละเอียดผมให้ทีมงานด้านล่างทำตารางมาแล้ว คุณกลับไปดูได้”
จินมู่ช่วยหลินเยวียนจัดตั้งทีมขึ้นมา
อย่างไรตอนนี้หลินเยวียนมีงานมากขึ้นเรื่อยๆ จินมู่เพียงคนเดียวสะสางไม่ไหว ดังนั้นเขาจึงสร้างทีมงานซึ่งสามารถรับผิดชอบงานด้านต่างๆ ที่หลินเยวียนมอบหมาย รวมไปถึงนักกฎหมายคนหนึ่งด้วย
“ได้ครับ”
หลินเยวียนเชื่อมั่นในความสามารถในการจัดการของจินมู่
หลายปีมานี้จินมู่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง ทำให้หลินเยวียนพอใจมาก
ฉะนั้นในปัจจุบันนี้จินมู่จึงไม่ได้รับเงินเดือนอีกต่อไป แต่ได้รับส่วนแบ่งที่หลินเยวียนมอบให้ และสวัสดิการที่ดีเยี่ยม
“จริงสิ…”
จินมู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
หลินเยวียน “มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เลยครับ”
จินมู่พยักหน้า “ที่จริงผมคิดว่าหัวหน้าสามารถพิจารณาการร่วมถือหุ้นสตาร์ไลท์ได้ มูลค่าที่คุณสร้างให้สตาร์ไลท์นั้นสูงมาก ถ้าคุณมีความคิดด้านนี้ ผมสามารถเจรจากับสตาร์ไลท์ในนามตัวแทนของคุณได้ ถ้าหากจำเป็น เราสามารถเปิดเผยตัวตนของฉู่ขวงเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้เรา แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ในระดับการเจรจากับสตาร์ไลท์”
“งั้นหรือ…”
หลินเยวียนกำลังใช้ความคิด “ผมขอคิดดูก่อน”
ตอนนี้เขาได้รับการดูแลระดับพ่อเพลงจากสตาร์ไลท์ ส่วนแบ่งจากภาพยนตร์ก็ไม่เลว แต่อย่างที่จินมู่บอกไว้ ถ้าหากได้รับหุ้นจากบริษัทโดยตรง รายได้ของเขาจะเพิ่มมากขึ้น
แต่ก็เช่นเดียวกับฉู่ขวงเข้าถือหุ้นของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู
หลินเยวียนต้องการโอกาส เพื่อพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของตน
ยกตัวอย่างเช่น กลายเป็นพ่อเพลงอย่างแท้จริง
หรือไม่ก็ รอให้ซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศโด่งดังเป็นพลุแตก
หลินเยวียนไม่รู้เลยว่า อันที่จริงสตาร์ไลท์กำลังพูดคุยเกี่ยวกับการมอบหุ้นให้เขาอยู่แล้ว
เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมใด ความสำคัญของหลินเยวียนต่อคลังหนังสือซิลเวอร์บลูนั้นไร้ข้อกังขา…
ขณะเดียวกัน
หลังจากการประกาศให้ฉู่ขวงเป็นเทพสูงสุด บทสนทนาอันครึกครื้นก็เริ่มต้นขึ้นบนโลกออนไลน์!
[1] แกะ เป็นการเล่นมุกกับคำว่า ‘หยาง’ ซึ่งมีความหมายว่าแกะหรือแพะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...