อันที่จริงเนื้อหาของตำนานหงอคงมีความยาวเพียงไม่กี่แสนตัวอักษร
ด้วยความเร็วในการพิมพ์ของหลินเยวียน ไม่กี่วันก็เขียนเสร็จแล้ว
เมื่อคิดว่านิยายอย่างตำนานหงอคงใช้บทสนทนาตลอดทั้งเรื่องเพื่อดำเนินเรื่องราวซึ่งค่อนข้างเป็นไปตามกระแสสำนึก ไม่เหมาะกับการทยอยอัปเดต ทว่าเหมาะกับการอ่านรวดเดียวจบมากกว่าเพราะฉะนั้นหลังจากหลินเยวียนสร้างชื่อเรื่องขึ้นมา เขาไม่ได้อัปโหลดเนื้อเรื่องหลักในทันที แต่กลับเขียนต่ออยู่หลายวัน
เขาเพียงแต่ต้องการทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครชิงใช้ชื่อผลงานและนามปากกาตัดหน้าไปเสียก่อน
เนื้อหานิยายตัวจริงเขียนเสร็จหลังจากนั้นไม่กี่วัน
เมื่อพิมพ์ประโยคว่า ‘จะหลงลืมการเดินทางสู่ประจิมทิศได้อย่างไร’ ในคอมพิวเตอร์ ในที่สุดหลินเยวียนก็เขียนตำนานหงอคงเสร็จ
และหลังจากนี้
เนื้อหาฉบับเต็มซึ่งมีอยู่สิบกว่าบทนั้นถูกหลินเยวียนโพสต์บนเว็บไซต์โดจิน
ชื่อของเว็บไซต์โดจินนี้เรียบง่ายและตรงไปตรงมา
นั่นคือชื่อว่า ‘คลังโดจิน’
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ชื่อของเว็บไซต์คลังโดจินจะเรียบง่ายและตรงไปตรงมา แต่กลับไม่ได้ทำให้ยอดการเข้าใช้งานน้อยลง
พื้นที่แสดงความคิดเห็นของนิยายหลายเรื่องต่างคึกคัก
ถึงอย่างไรก็มีฐานแฟนคลับซึ่งเป็นชาวเน็ตจากทั้งห้าทวีป
บนบลูสตาร์แทบไม่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ และไม่อาจดูเบาอิทธิพลบนโลกออนไลน์ของผลงานเหล่านี้ได้
หลังจากอัปโหลดนิยายไปห้านาที
หลินเยวียนลองกดดูสถิติเรื่องตำนานหงอคง
กดเข้าชม: 0
บันทึก: 0
แนะนำ: 0
หลินเยวียนตกตะลึง
บทนี้ไม่ยักเหมือนที่จินตนาการไว้นี่นา
ตอนที่ตำนานหงอคงออกมา ชาวเน็ตควรจะพากันตกตะลึงไม่ใช่หรือ?
หลายนาทีผ่านไป หลินเยวียนจึงได้สติกลับมา
เขาคุ้นเคยกับรูปแบบเมื่อก่อน เมื่อใดที่เขาเผยแพร่ผลงาน ไม่ทันไรก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตแล้ว
ทว่าตอนนี้ตอนนี้เขาไม่ใช่อิ่งจือ ไม่ใช่เซี่ยนอวี๋ และไม่ใช่ฉู่ขวง
ตอนนี้เขาสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมาชื่อว่า ‘อี้อัน’
ไม่มีใครรู้ว่าอี้อันคือใคร
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ผลลัพธ์ไม่ตรงตามที่คาดหวัง
ผู้อ่านหลายคนต่อให้เลื่อนหน้าเว็บมาเจอนิยายเรื่องตำนานหงอคง ก็อาจไม่ได้กดเข้าไป
พูดอย่างเป็นกลาง ตำนานหงอคงไม่ใช่ชื่อเรื่องที่น่าดึงดูดใจนัก
ทำไมไม่กลับไปคิดหาวิธีโปรโมตและเรียกกระแสดูล่ะ?
ให้อิ่งจือ หรือฉู่ขวง หรือไม่ก็เซี่ยนอวี๋ช่วยประกาศออกไปอย่างไม่เป็นทางการจะต้องได้ผลอย่างแน่นอน
แต่นั่นจะไม่เป็นการเสี่ยงที่ตัวตนจะถูกเปิดเผยหรอกหรือ?
หลินเยวียนไม่อยากให้อี้อันมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงถึงตัวตนทั้งสาม
สามสหายก็ส่วนสามสหาย
อี้อันต้องเฉิดฉายด้วยตัวเอง
ฉะนั้น หลินเยวียนจึงตัดสินใจรอต่อไป
ในเมื่อมียอดเข้าใช้งานอยู่ ก็ย่อมมีผู้อ่านสังเกตเห็นนิยายเรื่องนี้
เมื่อมีผู้อ่านคนแรกคลิกตำนานหงอคง ย่อมมีคนที่สองตามมา นิยายเรื่องนี้จะถูกสังเกตเห็นอย่างแน่นอน
มื่อคิดเช่นนี้ หลินเยวียนจึงเริ่มเฝ้ารอ
ปรากฏว่ารออยู่นานโข ก็มีคนคลิกเข้ามา ทว่าสิ่งที่ทำให้หลินเยวียนรู้สึกหดหู่ใจก็คือ การคลิกเข้ามาเหล่านี้ไม่ได้กลายเป็นการบันทึก…
นั่นแสดงให้เห็นว่ามีคนเข้าไปอ่านตำนานหงอคงเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้ถูกเนื้อหาดึงดูดให้อยู่ต่อ หลังจากอ่านผ่านๆ จึงแยกย้ายกันออกไป
เรื่องน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอารัมภบทของตำนานหงอคง
ถ้าไม่อดทานอ่านเนื้อหาต่อไป ลำพังอารัมภบทของตำนานหงอคง ทุกคนน่าจะรู้สึกว่าเป็นเพียงการหลอกลวง
“การเริ่มต้นมักจะยากเสมอ”
หลินเยวียนให้กำลังใจตนเอง และขอให้กู้ตงปอกแก้วมังกรซึ่งซุนเย่าหั่วส่งมาให้
หลังจากกินแก้วมังกร หลินเยวียนจึงกดรีเฟรชเป็นครั้งที่สาม ในที่สุดก็มีคนกดบันทึกเรื่องตำนานหงอคงเป็นครั้งแรก!
“มีคนอ่านหนังสือของฉันแล้ว?”
หลินเยวียนพลันตื่นเต้นขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกมีความสุขเพราะมีคนอ่านนิยายของเขา!
เรียบง่าย และบริสุทธิ์!
ถ้าฉู่ขวงอยู่ที่นี่ เขาคงคลี่ยิ้มบางให้กำลังใจอี้อัน
ยืนจังก้าอย่างยิ่งใหญ่อยู่นอกชั้นบรรยากาศ พลางส่งยิ้มให้กำลังใจ
……
ผู้อ่านซึ่งกดปุ่มบันทึกตำนานหงอคงเป็นคนแรกบนบลูสตาร์นั้นมีชื่อว่าหลี่เจิ้งฮุย
หลี่เจิ้งฮุยอ่านหนังสือมากว่าสิบปี เรียกได้ว่าเป็นหนอนหนังสือตัวจริง เมื่อได้เจอหนังสือที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ หลังจากอ่านจบแล้วเขามักจะรู้สึกว่ายังไม่หนำใจ จากนั้นจึงตามไปหาผลงานโดจินอ่านในคลังโดจิน
ช่วงนี้หลี่เจิ้งฮุยชอบบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
กล่าวให้ชัดเจนคือ บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศของฉู่ขวงนับว่าเป็นนิยายที่หลี่เจิ้งฮุยคลั่งไคล้ที่สุดในระยะนี้ หรือเรียกว่าในไม่กี่ปีมานี้ก็ยังได้
แม้แต่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศฉบับภาษาโบราณ หลี่เจิ้งฮุยก็ยังไม่พลาด
มีเพียงสวรรค์ที่รู้ว่าหลี่เจิ้งฮุยใช้ความพยายามมากแค่ไหนในการอ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศฉบับภาษาโบราณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน