“จากคำขอของนาย หนังจะเข้าฉายอย่างเร็วที่สุดในวันที่สิบ จะว่าไปก็ต้องขอบคุณประเด็นถกเถียงจากดรากอนอวอร์ด ประเด็นที่บนอินเทอร์เน็ตพูดถึงหนังของเรานับว่าใช้ได้ ไม่อย่างนั้นเวลาโปรโมตนับว่ากระชั้นเกินไป…”
สตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์
เหล่าโจวกล่าวอย่างยิ้มแย้ม
หลินเยวียนพยักหน้า
จู่ๆ เหล่าโจวก็เอ่ยขึ้น “หลินเยวียนปีนี้นายอายุเท่าไหร่แล้ว”
หลินเยวียนตอบ “ยี่สิบสี่ครับ”
หลินเยวียนทะลุมิติมายังบลูสตาร์เป็นเวลาห้าปีแล้ว
เหล่าโจวถอนหายใจ “ยี่สิบสี่…ยังอายุน้อยอยู่เลย…ฉันจำได้ว่านายเข้ามาในบริษัทเราตอนอายุสิบเก้า…”
“ครับ”
“หลายปีมานี้นายไม่เคยคิดจะหาแฟนบ้างหรือ?”
หลินเยวียนส่ายหน้า ตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ไม่เคยคิด”
เหล่าโจวหลุดหัวเราะ “อายุแบบนี้น่าจะหาแฟนได้แล้วนะ คนอื่นเขามีแฟนกันตั้งแต่เรียนมหา’ลัย จนป่านนี้ยังไม่เคยมีแฟนเลยหรือ?”
หลินเยวียนส่ายหน้าอีกครั้ง
เหล่าโจวจนใจ “เหมือนที่แม่นายพูดไว้ไม่ผิด”
“แม่ผม?”
หลินเยวียนชะงักไปชั่วขณะ
เหล่าโจวยิ้มขื่น “แม่นายบอกว่าเมื่อก่อนเป็นเพราะร่างกายไม่แข็งแรง เลยไม่ได้มีแฟน ตอนนี้ร่างกายนายฟื้นตัวแล้ว เลยไหว้วานให้ฉันแนะนำแฟนให้นาย”
เหล่าโจวเองก็รู้สึกแปลกๆ
เรื่องนี้พูดไปใครจะไปเชื่อ
ผู้ยิ่งใหญ่ระดับเซี่ยนอวี๋ริจะมีแฟน จะต้องขอคำแนะนำจากผู้อาวุโส?
หลินเยวียน “…”
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ที่คลั่งไคล้การเต้นรำกลางจัตุรัสอยู่ทุกวันไปติดต่อกับเหล่าโจวตั้งแต่เมื่อไหร่
“งั้นฉันถามหน่อย นายมีผู้หญิงที่ชอบไหม?”
“ไม่มีครับ”
“งั้นมีผู้ชายที่ชอบไหม?”
อันที่จริงคำถามนี้ไม่มีความจำเป็น แต่เพื่อความปลอดภัย เหล่าโจวจึงเอ่ยปากถาม
ถึงอย่างไรโลกภายนอกก็ลือกันว่าเซี่ยนอวี๋กับฉู่ขวงเป็นคู่รักกัน
เป็นไปได้มากว่าฉู่ขวงเป็นผู้ชาย
หลินเยวียนตอบ “ไม่มีครับ”
เหล่าโจวผ่อนลมหายใจ “งั้นฉันจะนัดผู้หญิงคนหนึ่งให้มาเจอกับนายแล้วกัน ไม่ใช่นัดบอด ไม่ต้องกดดัน แค่มาเจอกันพูดคุยกันเฉยๆ !”
คนหนุ่มสาวสมัยนี้เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรี
ถ้าจะบอกว่าเป็นการนัดบอด จะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในใจของคนหนุ่มสาวได้
“ไม่ต้องแล้วครับ”
หลินเยวียนไม่สนใจเรื่องพวกนี้
เหล่าโจวรีบพูด “แค่เจอกันแล้วก็กินข้าว ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนที่ฉันแนะนำหรอก เหล่าโจวไม่ได้หน้าใหญ่ขนาดนั้น นายใหญ่บริษัทเรานี่แหละเป็นคนจัดการสร้างสะพานให้เอง ถึงติดต่ออีกฝ่ายได้…”
“บริษัทมีบริการจัดหาคู่ด้วย?”
หลินเยวียนจำไม่ได้ว่ามีประโยคนี้ในสัญญา
เหล่าโจวระเบิดหัวเราะ “บริการจัดหาคู่อะไรกัน นั่นเป็นเพราะนายใหญ่เราห่วงใยนาย”
หลินเยวียนส่ายหน้า
ขณะที่เขากำลังจะปฏิเสธอีกครั้ง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
เป็นสายจากแม่
ทันทีที่เขากดรับ เสียงของแม่ดังมาจากปลายสาย
“ไปเจอหน่อยเถอะ ผู้หญิงคนนี้แม่เห็นรูปแล้ว สวยมากเลยละ””
“อ้อ”
หลินเยวียนไม่ได้ปฏิเสธอีก
น้อยครั้งนักที่เขาจะบอกปัดคำพูดของแม่
ต่อให้ปฏิเสธ หลินเยวียนจะใช้วิธีที่ค่อนข้างอ้อมค้อม
“ตกลงแล้ว?”
เมื่อเห็นหลินเยวียนวางสาย สีหน้าของเหล่าโจวจึงเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง
“ครับ”
“งั้นฉันจะติดต่อทางนั้นไปเดี๋ยวนี้!”
ทันใดนั้นเหล่าโจวก็กะปรี้กะเปร่าขึ้นมา “ฉันจะให้สไตลิสต์มาแต่งตัวให้นาย…”
“ไม่เอา”
หลินเยวียนตอบอย่างหนักแน่น
“ก็ได้ ยังไงนายก็หล่อซะขนาดนี้!”
เหล่าโจวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างร่าเริง ก่อนจะเดินออกไปติดต่ออีกฝ่าย
สองนาทีผ่านไป เหล่าโจวกลับเข้ามายังห้องทำงานของหลินเยวียนด้วยท่าทางปลาบปลื้มใจ “ส่งที่อยู่ไปให้ในโทรศัพท์ของกู้ตงแล้ว อีกประเดี๋ยวนั่งรถกู้ตงออกไปก็แล้วกัน!”
“ครับ”
หลินเยวียนตอบอย่างไม่ใส่ใจ
……
สิบนาทีผ่านไป
หลินเยวียนขึ้นรถของกู้ตงแล้วจึงออกเดินทาง
กู้ตงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ตัวแทนหลินจะไปคฤหาสน์มั่วลี่ทำไมเหรอคะ”
“คฤหาสน์มั่วลี่?”
“คุณไม่รู้เหรอคะ สถานที่ที่เราจะไป”
“อ้อ ไปนัดบอด”
ถึงแม้เหล่าโจวจะเน้นย้ำว่านี่ไม่ใช่นัดบอด แต่หลินเยวียนรู้สึกว่านี่คือการนัดบอด
“เอี๊ยด!”
กู้ตงเหยียบเบรกโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงรีบพูด “ขอโทษนะคะตัวแทนหลิน ฉันตกใจไปหน่อย”
กู้ตงพูดพลางเหยียบคันเร่งอีกครั้ง
“ทำไมตัวแทนหลินถึงไปนัดบอดล่ะคะ” สีหน้าของกู้ตงแปลกพิลึก
“แม่บอกให้ไปครับ”
หลินเยวียนตอบไปตามความจริง
กู้ตงเอ่ยอย่างขบขัน “ฉันหมายถึง ตัวแทนหลินไม่รังเกียจที่จะนัดบอด จากนั้นก็ออกเดต แล้วก็แต่งงาน?”
“ไม่เคยนึกถึง”
เขายังคงพูดความจริง เขาไม่เคยขบคิดถึงเรื่องเหล่านี้
“คุณไม่เคยคิดจะหาแฟนสักคน?”
“ไม่ครับ”
“คุณคิดยังไงเกี่ยวกับความรัก”
“ไม่รู้ครับ”
“…”
กู้ตงไม่รู้ว่าจะคุยอะไรต่อไป
ดูเหมือนคำว่า ‘ความรัก’ จะไม่ได้อยู่ในพจนานุกรมของตัวแทนหลินเลย
“แต่สุดท้ายคนเราก็ต้องแต่งงานนะคะ” กู้ตงทำได้เพียงชี้นำ
“แต่งก็แต่งครับ”
“แต่งกับใครคะ”
“แต่งกับผู้หญิง”
“ผู้หญิงคนไหนคะ”
“คนที่ชอบ”
“คุณชอบผู้หญิงแบบไหน”
“เรื่องนั้นต้องรอให้เจอก่อนถึงจะรู้”
“ถ้าไม่เจอล่ะคะ?”
“งั้นก็ไม่แต่งครับ”
ถ้าไม่ชอบอีกฝ่ายแล้วยังจะไปแต่งงานกับคนเขาอีก เท่ากับไม่เคารพอีกฝ่าย
เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้ามีคนทำแบบนี้กับพี่สาวหรือน้องสาวของตน หลินเยวียนต้องโมโหอย่างแน่นอน
“เอาละ”
กู้ตงพอจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น “งั้นตัวแทนหลินไปนัดบอดเพื่อให้เรื่องจบๆ ไป?”
“ถ้าไม่ชอบก็คงต้องเป็นอย่างนั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน