Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 69

สรุปบท ตอนที่ 69 ภาพเหมือนตนเอง (Self-Portrait): Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 69 ภาพเหมือนตนเอง (Self-Portrait) – ตอนที่ต้องอ่านของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนนี้ของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเงินทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 69 ภาพเหมือนตนเอง (Self-Portrait) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 69 ภาพเหมือนตนเอง (Self-Portrait)

ตอนเย็นหลังเลิกเรียนระหว่างทางกลับบ้าน หลินเยวียนสรุปความรู้ที่ได้รับมาใหม่ในสมอง

สิ่งที่ได้ในครั้งนี้ เป็นฝีมือด้านจิตรกรรมระดับมืออาชีพ

แต่คนที่มีความรู้ด้านจิตรกรรมย่อมรู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าฝีมือด้านจิตรกรรมระดับมืออาชีพนั้น คำนิยามและคำจำกัดความออกจะกำกวมอยู่สักหน่อย

หากจำแนกตามประเภทของภาพเขียน ประเภทของจิตรกรรมนั้นก็ซับซ้อนมากแล้ว

ในนั้นรวมไปถึงภาพวาดน้ำหมึก ภาพสีน้ำมัน ภาพพิมพ์ ภาพสีน้ำ ทั้งยังมีภาพกวอชกับภาพสเก็ตช์ และการร่างหยาบต่างๆ นานาด้วย

ถ้าหากจำแนกจากอุปกรณ์ที่ใช้ก็จะมากกว่านี้เสียอีก

ดังนั้นพวกเราจะแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดในบลูสตาร์ก็แล้วกัน

ประเภทใหญ่เหล่านี้ เรียงตามลำดับแล้วจะแบ่งเป็นภาพวาดหมึกโบราณ ภาพสีน้ำมัน ภาดสีน้ำ ภาพสีกวอช และภาพสเก็ตช์

บนโลก สถานะของภาพสีน้ำมันนั้นสูงกว่าภาพวาดหมึกโบราณ ทว่าบนบลูสตาร์กลับนิยมชมชอบศิลปะทางตะวันออกมากกว่า เพราะฉะนั้นสถานะของภาพวาดหมึกโบราณนั้นสูงกว่า และภาพสีน้ำมันนั้นเป็นรอง

ภาพสีน้ำ ภาพสีกวอช และภาพสเก็ตช์ทั้งสามประเภทนี้เป็นแขนงสำคัญสำหรับนักเรียนศิลปะ ดังนั้นมาตรฐานของสามประเภทนี้ไม่นับว่าสูง คนทั่วไปสามารถฝึกฝนได้

เมื่อเทียบกันแล้ว มาตรฐานสำหรับภาพวาดหมึกโบราณกับภาพสีน้ำมันนั้นสูงกว่า

ส่วนฝีมือด้านจิตรกรรมระดับมืออาชีพของหลินเยวียน…

ไม่ใช่เพราะฝีมือด้านจิตรกรรมระดับมืออาชีพที่หลินเยวียนได้รับนั้นกว้างเกินไป แต่เป็นเพราะฝีมือด้านจิตรกรรมระดับมืออาชีพที่หลินเยวียนได้รับนั้นหมายรวมถึงประเภทผลงานซึ่งเป็นที่นิยมด้วย!

ทั้งภาพวาดหมึกโบราณ ภาพสีน้ำมัน ภาพกวอช ภาพสีน้ำ และภาพสเก็ตช์เขาล้วนแต่ชำนาญ

“เย็นวันนี้ต้องลองผลสักหน่อย”

หลินเยวียนเดินผ่านร้านขายเครื่องเขียนแห่งหนึ่ง ในใจพลันกระตุกวูบ รีบสาวเท้าเข้าไปด้านใน

สี…

กระดานวาดเขียน…

พู่กัน…

กระดาษวาดเขียน…

จิตรกรรมมืออาชีพต้องเป็นสิ่งที่ล้างผลาญเงินมากน่าดู หลินเยวียนแค่ซื้ออุปกรณ์สำหรับภาพวาดสีน้ำ ภาพสีกวอช แล้วก็ภาพสเก็ตช์ ก็จ่ายเงินไปเกินพันหยวนในรวดเดียวแล้ว!

“อุปกรณ์สำหรับภาพสีน้ำมันกับภาพวาดน้ำหมึกไว้ค่อยซื้อทีหลังก็แล้วกัน”

หลินเยวียนวางแผนจะเริ่มฝึกจากสิ่งที่ง่ายที่สุด ถึงอย่างการวาดภาพสเก็ตช์ ภาพสีกวอช แล้วก็ภาพสีน้ำก็ได้ใช้ค่อนข้างบ่อยในชีวิตจริง

หลังจากเดินออกมา หลินเยวียนก็เรียกรถ

เขาซื้อของมาตั้งเยอะแยะ หิ้วกลับคนเดียวไม่ไหวหรอก

เมื่อกลับถึงบ้าน หลินเยวียนก็เลือกระเบียงเป็นฐานที่มั่นในการวาดภาพ นำขาตั้งและกระดานวาดรูปออกมาก่อน จากนั้นก็เริ่มเหลาดินสอ

เขาเริ่มทดลองสเก็ตช์เป็นอันดับแรก

นักเรียนศิลปะโดยทั่วไปต้องลอกตามผลงานต้นแบบ ทว่าศิลปินระดับมืออาชีพอย่างหลินเยวียนนั้นไม่จำเป็น เขาพึ่งเพียงภาพจำก็สเก็ตช์ผลงานได้แล้ว และผลงานสเก็ตช์ชิ้นแรกในชีวิตของหลินเยวียนก็คือภาพเหมือนของตนเอง

ศิลปินงานสเก็ตช์ชั้นยอดมากมายล้วนแต่เคยวาดภาพเหมือนของตนเอง

แต่ถึงอย่างนั้น ดินสอที่จำเป็นต้องใช้ในการสเก็ตช์ภาพนั้นจะมีแค่แท่งเดียวไม่ได้ เพราะขนาดของดินสอที่แตกต่างกัน จะเขียนเส้นที่แตกต่างกันออกมา ฉะนั้นแล้วหลินเยวียนจึงเหลาดินสอออกมารวดเดียวสิบกว่าแท่ง

เริ่มจากดินสอ2Bซึ่งมักจะใช้เป็นประจำ

ดินสอประเภทนี้พบเห็นได้บ่อยในการสเก็ตช์ภาพ ในการร่างสัดส่วนคร่าวๆ หลินเยวียนก็ใช้ดินสอประเภทนี้วาด

ทว่าก็ไม่จำเป็นเสมอไป

ด้วยความคุ้นเคยที่แตกต่างกันของจิตรกร บางคนก็อาจใช้ดินสอขนาดอื่นร่างภาพออกมา

เมื่อร่างเค้าโครงเรียบร้อยแล้ว หลินเยวียนก็เริ่มสเก็ตช์

สิ่งที่เรียกว่าภาพสเก็ตช์นั้น ในความจริงก็คือการวาดต่อเติมจากภาพร่าง หลินเยวียนไม่มีทางไม่คุ้นเคยกับรูปร่างหน้าตาของตน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นลักษณะของดวงตาหรือจมูก เขาก็ล้วนวาดออกมาได้อย่างชัดเจน

“สัมผัสของเส้นที่ไหลลื่น”

ถ้าหากเป็นพวกสีกวอชหรือสีน้ำมัน เป็นเพราะต้องจุ่มสี จึงยากที่จะเลี่ยงไม่ให้สีหกเลอะกางเกงหรือเสื้อผ้า

คนที่รักสะอาดอาจรับไม่ได้

คนที่เคยเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันก็น่าจะเข้าใจสถานการณ์ประเภทนี้ดี

หลังจากอาบน้ำแปรงฟันเสร็จ หลินเยวียนก็เตรียมหลับตานอนบนเตียง ระบบก็พลันปรากฏขึ้นมา “ยินดีกับโฮสต์ด้วยที่สร้างสรรค์ผลงานด้านจิตรกรรมชิ้นแรกได้สำเร็จ มอบหมายภารกิจ ทำให้ค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมทะลุหนึ่งพันภายในสามเดือน”

“รับ”

หลินเยวียนตอบโดยไม่ลังเล

เห็นได้ชัดว่าระบบก็รู้ว่าค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาโดยง่าย จึงกำหนดเป้าหมายให้หลินเยวียนไว้ต่ำมาก ในระยะเริ่มแรกสามารถแตะถึงค่าความโด่งดังหนึ่งพันก็ใช้ได้แล้ว

[ชื่อภารกิจ: เส้นทางของจิตรกร]

[เนื้อหาภารกิจ: ทำให้ค่าความโด่งดังแตะถึงหนึ่งพันภายในสามเดือน ไม่จำกัดวิธีการ]

[รางวัลภารกิจ: กล่องสมบัติสีเงินหนึ่งใบ กล่องสมบัติทองแดงหนึ่ง]

หลินเยวียนชะงักไป เห็นชัดๆ ว่าภารกิจนี้ไม่ได้ยาก แต่กลับตบรางวัลอย่างหนัก แถมยังมีกล่องสมบัติสีเงินหนึ่งใบ เห็นทีตนจะต้องทำภารกิจนี้จนสำเร็จให้ได้!

“ระบบเหมือนจะหวังให้ฉันพัฒนารอบด้าน”

พอจะจับทางกฎของระบบได้แล้ว ในที่สุดหลินเยวียนก็เข้าใจว่าทำไมระบบนี้ถึงชื่อว่า ‘ระบบศิลปะ’ แล้ว

จิตรกรรม ดนตรี วรรณกรรม ก็ล้วนเป็นแขนงที่สำคัญของศิลปะ

“พรุ่งนี้ค่อยดูว่ามีช่องทางไหนที่จะได้ความโด่งดังมาบ้าง อีกอย่างฉันน่าจะยังต้องเรียนการวาดภาพแบบดิจิทัลด้วย ฝีมือด้านจิตรกรรมระดับมืออาชีพ ถ้าเอาไปประยุกต์กับเทคโนโลยีคงไม่ใช่เรื่องยากล่ะมั้ง”

ระบบให้ฝีมือการวาดภาพแบบมืออาชีพกับหลินเยวียนมาแล้ว

แต่ก็มีจิตรกรรมบางประเภทสร้างสรรค์ผ่านเครื่องมือดิจิทัล ความสามารถในส่วนนี้ ระบบไม่ได้มอบให้หลินเยวียนมา หลินเยวียนจำเป็นต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง

……………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน