Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 71

ตอนที่ 71 สเก็ตช์ภาพสด

แววตาของจงอวี๋สั่นคลอน

การสเก็ตช์ภาพเป็นวิชาพื้นฐานที่นักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ทุกคนต้องเรียน เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นจิตรกรชื่อดัง ก่อนอื่นจำต้องเป็นจิตรกรด้านการสเก็ตช์ภาพก่อน หากไร้ซึ่งพื้นฐานการสเก็ตช์ภาพก็ไม่มีทางไปได้ถึงจุดนั้น

ถึงขั้นที่มีจิตรกรบางคนคิดว่า

ถ้าไม่มีสีสัน ทุกอย่างก็คือการสเก็ตช์

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าทัศนะนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ อย่างน้อยความสำคัญของการสเก็ตช์ต่องานจิตรกรรมนั้นไม่จำเป็นต้องบอกก็รู้ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่จงอวี๋ซึ่งอยู่ปีสามคณะวิจิตรศิลป์ยังคงฝึกฝนการสเก็ตช์ภาพอย่างไม่ย่อท้อ

สำหรับคนที่เรียนการสเก็ตช์ภาพมานานหลายปีอย่างจงอวี๋แล้ว เขาคิดว่าระดับฝีมือของตนไม่ได้ย่ำแย่เลย

ทว่าในวันนี้ ความคิดเช่นนี้ได้ถูกนักศึกษาปีสองคนหนึ่งโจมตีเสียจนราบคาบภายในเวลาเพียงสิบนาที!

“…”

หลินเยวียนจ้องดูใต้เท้าของจงอวี๋

จงอวี๋คล้ายกับเพิ่งตื่นจากความฝัน ใบหน้าของเขาพลันประดับด้วยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รีบดึงอุปกรณ์ทำความสะอาดมาจากมือของหลินเยวียน “ขั้นเทพเลยนี่หว่า งานใช้แรงแบบนี้ให้นายทำได้ไง ฉันทำเองแล้วกัน!”

ไม่ทันรอให้หลินเยวียนตอบ จงอวี๋ก็จัดแจงเก็บกวาดเศษยางลบใต้ที่นั่งของตนจนสะอาดก่อน

จากนั้นก็จับให้หลินเยวียนนั่งลงบนที่นั่งของตนอย่างกระตือรือร้น “ฉันชื่อจงอวี๋นะ ปีสามคณะวิจิตรศิลป์”

“ผมชื่อหลินเยวียน”

“ครับๆ ท่านเทพหลินเยวียน เชิญนั่งก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปทำความสะอาดเสร็จแล้วค่อยคุยกัน!”

จงอวี๋พูดไปพลางเดินปรี่ไปยังนักศึกษาด้านข้าง “นาย ลุกขึ้น”

“พี่จง?”

อีกฝ่ายรีบผุดลุกขึ้น ขณะเดียวกันก็มีสีหน้างุนงง รีบพูดว่า “ใครให้พี่มาทำความสะอาดเนี่ย ผมทำเอง…”

“ไม่ต้อง”

จงอวี๋ปัดกวาดที่นั่งของอีกฝ่ายเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปยังอีกที่หนึ่ง น้ำเสียงราบเรียบจนยากจะปฏิเสธ “ลุกขึ้น”

“ครับ”

ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของจงอวี๋สูงกว่าหลินเยวียนมาก

เขาทำความสะอาดไปตรงไหน บางครั้งแทบจะไม่ต้องเอ่ยปาก สมาชิกชมรมที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็ลุกให้โดยอัตโนมัติ

ทำความสะอาดเสร็จ

จงอวี๋นำไม้กวาดไปเก็บที่ ไม่รู้ว่าไปลากม้านั่งเล็กมาจากไหน รอยยิ้มกลับมาอีกครั้ง เขานั่งลงข้างกายหลินเยวียนอย่างกระตือรือร้น

“ท่านเทพ! นายสอนฉันสเก็ตช์ภาพหน่อยได้มั้ย”

หลินเยวียนส่ายหน้า “ยุ่งยากเกินไปครับ”

จงอวี๋ยังคงมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า “ก็แค่ทำเหมือนเมื่อกี้ไงครับ แก้ภาพของฉันก็พอแล้ว”

หลินเยวียนขมวดคิ้ว “จุดที่ต้องแก้มีเยอะมากเลย”

ต้องใช้แรงมากเกินไป

รอยยิ้มของจงอวี๋ชะงักค้าง รู้สึกราวกับถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจ “ภาพวาดของฉันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”

หลินเยวียนพยักหน้า “อื้ม”

จงอวี๋แทบร้องไห้ “งั้นท่านเทพนายต้องช่วยสอนฉันแล้ว แน่นอนว่าฉันไม่ให้เทพอย่างนายทำงานฟรีๆ หรอก มีอะไรให้ฉันช่วยนายบอกฉันได้เลย…”

มืออาชีพออกโรงเอง มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่ามีของ

เวลาเพียงสิบนาทีก็พอให้จงอวี๋เห็นถึงความน่ากลัวของหลินเยวียนแล้ว

ต่อให้อาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ลงมือเอง ก็อาจไม่ถึงระดับที่สามารถแก้ไขภาพของเขาในเวลาสิบนาทีแบบภาพตรงหน้านี้ ดังนั้นจงอวี๋จึงมั่นใจมากว่าวันนี้ตนได้พบเทพตัวจริงเสียงจริงแล้ว

ถ้าเกิดได้รับคำชี้แนะจากคนที่ฝีมือขั้นเทพแบบนี้ละก็ เขาต้องโชคหล่นทับแน่!

หลินเยวียนใจกระตุกวูบ “อันที่จริงจะให้ผมสอนก็ใช่ว่าจะไม่ได้”

จงอวี๋ดีใจออกนอกหน้า “นายต้องการอะไรล่ะ ท่านเทพนายบอกมาได้เลย”

หลินเยวียนตอบอย่างจริงจัง “ต้องจ่ายค่าเรียนครับ”

จงอวี๋ประหม่าขึ้นมา “ท่านเทพจะคิดเงินเท่าไหร่…”

หลินเยวียนครุ่นคิด “ชั่วโมงละสองร้อยหยวน”

จงอวี๋ชะงักไปชั่วขณะ

หลินเยวียนคิดว่าราคาที่เขาเรียกนั้นสูงเกิน ขณะที่กำลังคิดว่าจะลดราคาลงให้เหมาะสม จงอวี๋ก็รีบก็พูดขึ้นมาราวกับกลัวว่าหลินเยวียนจะเปลี่ยนใจ

“ดีล!”

ตอนแรกเขาก็ตกใจจริงๆ นั่นแหละ คิดว่าฝีมือขั้นเทพอย่างหลินเยวียนจะเรียกราคาแพงลิบลิ่ว ไม่คิดว่าจะชั่วโมงละแค่สองร้อยหยวน

ใจดีเกินไปแล้วมั้ง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน