ตอนที่ 780 ภาพม้าควบ
……….
เมื่อกลับถึงบ้าน
จู่ๆ ข้อความแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นในห้วงสำนึกของหลินเยวียน
“ติ๊งต่อง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ทำภารกิจดัดแปลงหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอสำเร็จ ได้รับทักษะในการเขียนตัวอักษรระดับปรมาจารย์!”
หลินเยวียนตกตะลึง
ที่แท้ก็เป็นรางวัลภารกิจ
ครั้งนี้มาช้าทีเดียว
ดูเหมือนว่าคงเป็นเพราะบนโลกออนไลน์ฉายตอนจบไปล่วงหน้า แต่สถานีโทรทัศน์เพิ่งออกอากาศสินะ?
หลินเยวียนไม่ได้วิตกกับเรื่อง แววตาของเขาเป็นประกาย ปรากฏเศษเสี้ยวของความคาดหวัง
ไม่รู้ว่าทักษะในการเขียนตัวอักษรระดับปรมาจารย์ จะต่างจากระดับมืออาชีพอย่างไร
หลินเยวียนนั่งลงที่โต๊ะ
หยิบสมุดของเขาออกมาด้วยความสงสัย และเขียนลงสามสี่คำ
ปรากฏว่าเมื่อเขียนไป ความรู้สึกก็ออกมาทันที
นี่คือความรู้สึกที่มหัศจรรย์เหลือเกิน
ดูเหมือนว่าโครงสร้างของแต่ละคำจะปรากฏขึ้นมาในรูปทรงที่สวยงามในห้วงสำนึกของเขา
สิงซู ข่ายซู เฉ่าซู…
ตัวอักษรรูปแบบที่แตกต่างกัน หลินเยวียนล้วนควบคุมได้อย่างคุ้นเคย
นับว่าเหนือชั้นกว่ามากเมื่อเทียบกับการเขียนตัวอักษรด้วยทักษะการเขียนตัวอักษรระดับมืออาชีพก่อนหน้านี้!
การเขียนตัวอักษรอยู่ในสภาวะง่ายดายและคล่องมือ!
ความงามของตัวอักษรนั้นถูกขยายผ่านสายตาของหลินเยวียน
เพียงแต่น่าเสียดาย…
ที่ถึงแม้จะมีทักษะในการเขียนตัวอักษรระดับปรมาจารย์แล้ว ทว่านอกจากการสร้างความแตกต่างของลายมือเพื่อปกปิดตัวตนของหลินเยวียนให้ดียิ่งขึ้น ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากในช่วงเวลาหนึ่ง
บางทีหลังจากนี้อาจมีบทบาทมากขึ้น
นั่นคือทั้งหมด
หลังจากเขียนตัวอักษรด้วยความตื่นเต้น ในที่สุดความรู้สึกแปลกใหม่ของหลินเยวียนก็จางหายไปเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นตามเมื่อมองดูลายมือประณีตสะดุดตาของตน ก็ทำให้เขาอารมณ์ดีไม่ใช่น้อย
“หนังเรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร…”
หลินเยวียนเขียนประโยคนี้ลงในสมุดของเขาด้วยลายมืออันสวยงาม
อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องเขียนลงไปก็ได้ เพียงแค่เก็บความคิดไว้ในใจ
ทว่าในเมื่อมีฝีมือการเขียนตัวอักษรระดับปรมาจารย์แล้ว หลินเยวียนจึงจงใจทำเกินจำเป็น และเพลิดเพลินไปกับการเขียนตัวอักษร
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เพียงการเขียนลงไปเท่านั้น ในใจของหลินเยวียนกำลังใคร่ครวญอยู่จริงๆ
พรึบๆๆ
ภาพยนตร์หลายเรื่องผุดขึ้นในใจ
หลินเยวียนไม่สามารถตัดสินใจได้อยู่สักพัก เขาจึงหยุดคิดเสียเลย
เขาเก็บสมุด
ทันใดนั้นก็เกิดความคิดหนึ่งที่น่าสนใจขึ้นมา
หลังจากได้รับทักษะการเขียนตัวอักษรระดับปรมาจารย์มาแล้ว หลินเยวียนดูเหมือนจะควบคุมพู่กันให้ได้ดั่งใจได้มากยิ่งขึ้น
สิ่งนี้จะมีส่วนช่วยส่งเสริมทักษะในการวาดภาพของเขาด้วยหรือเปล่านะ?
ในสมัยโบราณเมื่อเอ่ยถึงความสามารถ ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเน้นไปที่การบรรเลงฉิน หมากล้อม การเขียนพู่กัน และการวาดภาพ
มีความเชื่อมโยงกันระหว่างการเขียนตัวอีกษรและการวาดภาพ
เพราะไม่ว่าจะเป็นการเขียนตัวอักษร หรือการวาดภาพ ก็ล้วนให้ความสำคัญกับการใช้และควบคุมพู่กัน
ตัวอย่างเช่น ถังปั๋วหู่ ก็เป็นเลิศทั้งสองด้านเช่นเดียวกัน
และหากความสำเร็จของถังปั๋วหู่ได้รับการเสริมแต่งผ่านบทนิยายเพื่อให้เก๋ไก๋เกินจริงละ คงไม่จำเป็นต้องสงสัยเกี่ยวกับฝีมือของซูตงพัวแล้วล่ะมั้ง?
รายนั้นคืออัจฉริยะทางศิลปะอย่างแท้จริง
ทั้งบทกลอนซือ ร้อยแก้ว กวีนิพนธ์สือ และการเขียนตัวอักษร ซูตงพัวล้วนประสบความสำเร็จสูงสุดอย่างที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้
นี่คือเหตุผลที่เขาได้รับสมญานามว่าเซียนซู
เดิมทีหลินเยวียนมีเพียงทักษะด้านการเขียนตัวอักษรระดับมืออาชีพ ทว่าตัวอักษรของเขานั้นสวยงามกว่ามืออาชีพด้านการเขียนตัวอักษรอีกมากมาย นั่นก็เพราะหลินเยวียนมีทักษะด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์
เวลานี้ทักษะด้านการเขียนตัวอักษรแตะถึงระดับปรมาจารย์แล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทักษะด้านการเขียนตัวอักษรของเขาดูเหมือนว่าจะพัฒนาขึ้นหลังจากระดับของทักษะด้านนี้สูงขึ้น ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองทักษะก็คอยส่งเสริมซึ่งกันและกัน
เมื่อคิดถึงตรงนี้
หลินเยวียนอดไม่ได้ที่จะทดลอง
เขาเดินตรงไปยังห้องหนังสือ
ที่คือห้องอ่านหนังสือส่วนตัวของเขา สมาชิกในครอบครัวก็จะไม่เข้ามา พวกเขาเคารพความเป็นส่วนตัวของกันและกัน
แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในห้องอ่านหนังสือคือพู่กัน หมึก กระดาษ แท่นฝนหมึก รวมไปถึงอุปกรณ์ด้านจิตรกรรม
หลินเยวียนกางกระดาษเซวียนจื่อ เริ่มฝนหมึก และเลือกพู่กันสำหรับงานจิตรกรรมของตน
“วาดอะไรดีนะ”
หลังจากฝนหมึกแล้ว หลินเยวียนลังเลอยู่สักพัก และทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าในห้องทำงานของประธานกรรมการเหมือนจะมีภาพอยู่ภาพหนึ่ง
ภาพวาดม้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน