ตอนที่ 781 ฝีมือระดับปรมาจารย์
……….
หลายวันต่อจากนั้น
หลังจากหลินเยวียนก็ใช้ความพยายามมหาศาล ในที่สุดก็วาดภาพซึ่ งถ่ายทอดแนวคิดทางศิลปะจากภาพม้าควบโดยสวีเปยหงก็เสร็จสมบูรณ์ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทุ่มเทอย่างมากในการวาดภาพ ระหว่างกระบวนการนี้เขาไปๆ กลับๆ สนามแข่งม้าเพื่อสังเกตการเคลื่อนไหวของม้าในสนามแข่งอยู่หลายครั้ง…
ในวันนี้ เวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงวันแล้ว
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันที่บ้าน หลินเยวียนนำภาพวาดไปยังบริษัท
หลินเยวียนไม่รีบร้อนมอบภาพนี้ให้ประธานกรรมการ แต่กลับกางมันไว้ออกที่หน้าต่างห้องทำงานของตน มองดูด้วยความชื่นชมอีกครั้ง จากนั้นจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ด้วยระดับความสามารถของหลินเยวียนในปัจจุบันนี้ ภาพที่ทำให้เขารู้สึกพอใจในตัวเองได้นั้นมีไม่มากนัก
เมื่อวานเป็นเพราะเขาอยู่ในสภาวะที่ดี
ถ้าวันนี้ให้หลินเยวียนวาดภาพม้าควบอีกครั้ง ก็อาจไม่น่าทึ่งเท่านี้ก็เป็นได้
ต่อให้เป็นผู้ที่วาดม้ามานับครั้งไม่ถ้วนอย่างสวีเปยหงเอง ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าภาพว่าทุกภาพจะอยู่ในระดับเดียวกัน
สักพักหนึ่ง หลินเยวียนก็รู้สึกลังเลที่จะมอบภาพนี้ให้กับคนอื่นขึ้นมา
และขณะที่หลินเยวียนกำลังเคลิบเคลิ้มกับภาพม้าควบของตนอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากหน้าประตู
“เสี่ยวอวี๋…”
ปรากฏว่าเจิ้งจิงมาหา
ในบรรดาคนที่หลินเยวียนรู้จัก มีเพียงเจิ้งจิงที่เรียกเขาว่า ‘เสี่ยวอวี๋’
“น้าเจิ้ง”
หลินเยวียนหันไปทักทายเขา ผู้อาวุโสสองคนที่เขาเคารพมากที่สุดในบริษัทคือหยางจงหมิงและเจิ้งจิง
“ชาแดง”
“ฉันมาก็เพราะอยากคุยเรื่องหนึ่งกับคุณ เกี่ยวข้องกับแชมป์สิบสองสมัย”
“ครับ”
“หยางจงหมิงบอกฉันเมื่อเช้านี้ว่าลู่เซิ่งจะปล่อยเพลงในเดือนพฤศจิกา คุณต้องระวังให้ดี อย่าให้เขาหยุดเส้นทางแชมป์สิบสองสมัยของคุณได้”
เจิ้งจิงมีสีหน้าเคร่งขรึม
หลินเยวียนตะลึง
ลู่เซิ่ง?
คนคนนี้คือพ่อเพลงอันดับต้นๆ ของบลูสตาร์
ในความคิดของชาวเน็ตบางคน ระดับของลู่เซิ่งนั้นสูงกว่าหยางจงหมิงเสียอีก อย่างไรก็ตามหลินเยวียนรู้สึกว่าคำพูดนี้ไม่ได้น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับหยางจงหมิงแล้ว ลู่เซิ่งน่าจะเป็นรองกว่าอยู่บ้าง
เขาเคยแอบถามระบบ
ระบบก็เปิดเผยคำใบ้อย่างคลุมเครือเช่นเดียวกัน
แต่ถึงอย่างนั้น ลู่เซิงคือพ่อเพลงที่เก่งมากคนหนึ่ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากคนคนนี้จะปล่อยเพลงในเดือนพฤศจิกายน เขาก็สมควร ได้รับความสนใจจริงๆ
“เข้าใจแล้วครับ”
หลินเยวียนรู้ว่าจุดประสงค์ที่เจิ้งจิงเตือนเขาเช่นนี้ เพราะต้องการให้เขาเตรียมใจให้พร้อม
“ขอบคุณครับน้าเจิ้ง”
“ฉันคิดว่าคุณจะตื่นตระหนก แต่ดูเหมือนคุณจะไม่กังวลเลยสักนิด” เจิ้งจิงมองหลินเยวียนด้วยรอยยิ้ม
“พอไหวครับ”
หลินเยวียนต้องการคว้าแชมป์สิบสองสมัย จึงเตรียมใจมาเป็นอย่างดีเพื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่หลากหลาย
ยิ่งไปกว่านั้น กว่าลู่เซิ่งจะปล่อยเพลงก็เดือนพฤศจิกายน
ตนยังเหลือเวลาเตรียมตัวอีกสองเดือน
“เรื่องของคู่แข่งที่ฉันสอดแนมมาไม่ได้มีแค่นี้ ไม่งั้นฉันไม่จำเป็นต้องมาหาคุณถึงที่หรอก ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่คุณควรใส่ใจสักหน่อย นั่นคือเพลงใหม่ของลู่เซิ่งในเดือนพฤศจิกาเป็นเพลงสไตล์โบราณเหมือนกับลมบูรพาร้าวราน”
เจิ้งจิงเข้าใจเรื่องนี้อย่างละเอียดมากทีเดียว
หัวใจของหลินเยวียนกระตุกวาบเล็กน้อย
เหมือนกับลมบูรพาร้าวราน?
นั่นมันเพลงสไตล์จีนไม่ใช่หรือ?
“สไตล์โบราณ สามเก่าสามใหม่ นี่คือสไตล์โบราณแบบพิเศษที่บุกเบิกโดยเพลงลมบูรพาร้าวราน ผลงานเดือนพฤศจิกาของลู่เซิ่งน่าจะเรียนรู้มาจากเทคนิคการสร้างสรรค์เพลงของคุณ จุดนี้ฉันไม่สงสัยเลย ความสามารถในการเรียนรู้ของคนคนนี้แข็งแกร่งมาก เขาสามารถเลียนแบบเทคนิคในการสร้างสรรค์ผลงานของหยางจงหมิงได้เกือบทั้งหมด…”
เสียงของเจิ้งจิงดูเหมือนจะระคนความสะท้อนใจ
“อาจารย์หยางจงหมิง?”
“คุณคงไม่รู้ อันที่จริงลู่เซิ่งเคยเรียนดนตรีกับเหล่าหยางมาระยะหนึ่งก่อนที่เขาจะโด่งดัง ถือได้ว่าเป็นกึ่งลูกศิษย์ของเหล่าหยาง แต่ว่าโลกภายนอกไม่รู้เรื่องนี้ คุณเองก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกไป”
หลินเยวียนชะงัก ก่อนจะพยักหน้าในทันใด
เขาคาดไม่ถึงว่าลู่เซิ่งกับหยางจงหมิงจะมีที่มาที่ไปเช่นนี้
ความบังเอิญก็คือ ตนก็นับว่าเป็นกึ่งลูกศิษย์ของอาจารย์หยางจงหมิงเช่นกัน
ทุกวันนี้เขายังคงใช้การ์ดตัวละครหยางจงหมิงเพื่อศึกษาความรู้ด้านดนตรี
“คุณน่าจะเข้าใจดีกว่าความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแชมป์สิบสองสมัย ที่จริงแล้วคือมหาสงครามเทพเซียนในช่วงสิ้นปี ถ้าคุณแพ้ลู่เซิ่งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน มหาสงครามเทพเซียนก็จะหมดความหมาย เพราะความก้าวหน้าของเส้นทางแชมป์สิบสองสมัยได้พังทลายลงแล้ว”
เจิ้งจิงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลินเยวียนจะประสบความสำเร็จ
“ถ้าเทียบกันแล้ว เดือนกันยากับตุลาไม่น่าจะยากเกินไปสำหรับคุณ สองเดือนนี้ไม่น่าจะมีคนดนตรีเก่งๆ ออกมาร่วมสังเวียนกับคุณแล้ว ถึงยังไงคุณก็ชนะมาได้แปดเดือนแล้ว จะออกมาแข่งกับคุณก็ไปก็ไม่มีประโยชน์ มิหนำซ้ำอาจจะถูกพูดถึงในทางที่ไม่ดีด้วย ไม่มีหรอกที่คุณจะบุกคว้าแชมป์สิบสองสมัยแล้วทั้งโลกจะมารุมโจมตีคุณ โดยเฉพาะหลังจากที่ทุกคนรู้ว่าลู่เซิ่งจะปล่อยเพลงในเดือนพฤศจิกา”
หลินเยวียนเข้าใจแล้ว
นี่นับว่าเป็นข่าวดี
ถ้าหากในเดือนกันยายนและตุลาคมไม่มีคู่ต่อสู้รุ่นใหญ่ ความกดกันของเขาก็พอจะเบาลงไปบ้าง
ถึงแม้จะมีบทเพลงสุดคลาสสิกมากมายในคลังเพลง แต่หลินเยวียนก็ไม่กล้ารับประกันว่าเขาจะคว้าชัยชนะได้ทุกครั้ง
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาควรให้ความสำคัญกับเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม
ยังไม่ต้องพูดถึงมหาสงครามเทพเซียนในเดือนธันวาคม
คุณต้องผ่านด่านลู่เซิ่งไปให้ได้เสียก่อน
ถ้าอีกฝ่ายเขียนเพลงสไตล์ดนตรีจีนละก็ ตนก็ควรแต่งเพลงประเภทเดียวกันออกมาประชัน
ในขณะนั้น
หลินเยวียนพอจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะปล่อยเพลงอะไรในเดือนพฤศจิกายน
“ดูเหมือนว่าคุณจะมีความคิดคร่าวๆ แล้ว”
เจิ้งจิงดื่มชาที่กู้ตงชงให้ ท่าทางผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดันมานัก แค่เดือนพฤศจิการับมือกับลู่เซิ่งให้ได้ก็พอแล้ว เดือนธันวานี่สิถึงจะยากที่สุด พอถึงตอนนั้นจะมีคนจากทางจงโจวออกโรง พูดให้ชัดก็คือจะมีคนจากจงโจวลงมือแน่นอน ทางนั้นมีแต่พวกตัวประหลาด มีบางคนที่แม้แต่เหล่าหยางก็รับมือไม่ไหว”
“ครับ”
มหาสงครามเทพเซียนจะต้องมีความยากระดับขุมนรกอย่างแน่นอน
แต่หลินเยวียนพอจะรู้ว่าควรปล่อยผลงานชิ้นใดในเดือนธันวาคม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน