ตอนที่ 829 เล่นเพลงราตรีบรรเลงของเซี่ยนอวี๋นี้เพื่อเธอ…
ในช่วงหลายวันต่อจากนั้น
สื่อแต่ละสำนัก พากันรายงานข่าวการที่เซี่ยนอวี๋ได้กลายเป็นพ่อเพลงกันอย่างแพร่หลาย
ส่วนหลินเยวียนก็ยุ่งอยู่กับการไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต่างๆ
เมื่อมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น ย่อมมีการเลี้ยงข้าวหรือแจกอั่งเปา
นี่ดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมอันทรงเกียรติของบลูสตาร์
การได้เป็นพ่อเพลงนั้นยิ่งไม่อาจหลีกหนีการตอบแทนไมตรีเหล่านี้ได้
หลินเยวียนไม่ได้ขัดข้องกับเรื่องนี้ ตรงกันข้าม เขาตอบรับคำเชิญทั้งหมด
ในวันนี้
หลินเยวียนในที่สุดก็มาถึงงานเลี้ยงมื้อสุดท้าย
การพบปะระหว่างเหล่าพ่อเพลง
คำเชิญครั้งนี้มาจากเจิ้งจิงและหยางจงหมิง
และสถานที่จัดงานเลี้ยงก็คือสโมสรที่หลินเยวียนเคยพบกับลู่เซิ่งเมื่อครั้งก่อน
ชื่อของสโมสรคือ ‘จวี้เสียน[1]’
เห็นได้ชัด
ว่าสโมสรจวี้เสียนแห่งนี้ เป็นสถานที่พบปะของเหล่าพ่อเพลงที่คุ้นเคยกัน
“หลังจากนี้ถ้าไม่มีธุระอะไร ก็สามารถมาเล่นที่นี่ได้ ประธานของพวกเราเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของสโมสรแห่งนี้ ส่วนผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ก็คือเจ้าของบริษัทบันเทิงรายใหญ่ๆ ในบลูสตาร์ ดังนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่นี่จึงเปิดให้พ่อเพลงใช้ได้ฟรี หากไม่มีพ่อเพลงพามา คนทั่วไปจะไม่มีทางเข้ามาได้เลย ต่อให้รวยแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะสถานะพ่อเพลงคือบัตรผ่านเพียงใบเดียวของที่นี่”
เจิ้งจิงยิ้มขณะกำลังแนะนำสถานที่ให้กับหลินเยวียน
เขามองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย
ครั้งที่แล้วที่เขามาที่นี่ เขาไม่ได้สังเกตอะไรละเอียดนัก แต่คราวนี้เมื่อมองดีๆ แล้วจึงพบว่าสถานที่นี้ตกแต่งอย่างเรียบหรู ภายในเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เกี่ยวข้องกับดนตรี ทั้งห้องโถงที่ยาวทะลุผ่านห้องต่างๆ แต่ละห้องมีการจัดวางเครื่องดนตรีหลากหลายแบบ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับสูง ทุกสิ่งทุกอย่างในที่นี่ล้วนแลดูมีราคาสูง ไม่ว่าจะเป็นของกินหรือเครื่องดื่ม ก็ล้วนแต่เป็นของระดับพรีเมียม สามารถหยิบใช้ได้ตามใจ หรือจะเรียกพนักงานมาบริการก็ได้เช่นกัน
“แล้วสถานที่แบบนี้หาเงินได้ยังไงครับ” คำถามของหลินเยวียนทำให้เจิ้งจิงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตอบว่า
“นี่เป็นสถานที่ที่พ่อเพลงมารวมตัวกันโดยเฉพาะ ลำพังแค่ทรัพยากรเหล่าก็มีมูลค่ามหาศาลแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากพ่อเพลงแล้ว ยังมีบางคนที่ต้องการหาพ่อเพลงมาร่วมงาน พวกเขาจะเข้ามาที่นี่ผ่านช่องทางต่างๆ และทุกครั้งที่เข้ามาก็ต้องจ่ายเงิน เพราะถึงอย่างไรอาจจะได้ตกลงร่วมงานใหญ่ในที่นี่ก็ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าของบริษัทที่พ่อเพลงเหล่านี้สังกัดอยู่ซึ่งเดิมทีมักเป็นผู้ถือหุ้นของที่นี่ อย่างประธานกรรมการของเราที่ถือหุ้นอยู่ คุณคิดว่าประธานจะเก็บเงินจากคุณหรือ?”
“อย่างนี้นี่เอง”
พ่อเพลงก็มีโลกของพ่อเพลง
จนกระทั่งหลินเยวียนกลายเป็นพ่อเพลงอย่างเป็นทางการ เจิ้งจิงและหยางจงหมิงถึงจะสามารถพาหลินเยวียนเข้าสู่โลกของพวกเขาได้
นี่เป็นเรื่องปกติ
ผู้คนในระดับที่ต่างกันจะมีกลุ่มสังคมที่ต่างกันไปด้วย บทสนทนาบางอย่างจะเข้าใจกันได้ก็ต่อเมื่อเป็นคนที่อยู่ในสาขาและระดับเดียวกัน ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นการพูดกันคนละภาษา
“รวมถึงจงโจวก็เช่นกัน”
เจิ้งจิงเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “แต่ละที่ก็มีวงสังคมของแต่ละที่ สโมสรนี้เป็นแวดวงพ่อเพลงของฉินโจว พ่อเพลงจากทวีปอื่นๆ ก็มีสถานที่รวมตัวของพวกเขาเอง ตอนนี้ฉันพาคุณเข้ามา หลายคนตั้งตารอการเข้าร่วมของคุณอยู่เลยละ”
เจิ้งจิงพูดพลางเปิดประตูห้อวห้องหนึ่ง
ทันทีที่หลินเยวียนเดินเข้าไปข้างใน และก็พบกับคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่หลายคน
อิ่นตง
เยี่ยจือชิว
รวมถึงลู่เซิ่ง
นอกจากนั้นยังมีพ่อเพลงคนอื่นๆ ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กันในรายการเพลงของพวกเรา
“เซี่ยนอวี๋ ยินดีต้อนรับ” พ่อเพลงคนหนึ่งยิ้มและกล่าวต้อนรับ
“สวัสดีครับ”
หลินเยวียนรู้จักคนคนนี้ เขาคือพ่อเพลงอันซิน ซึ่งเคยเจอกันครั้งหนึ่งบนชาร์ตเพลงในฤดูกาลก่อน
พ่อเพลงคนอื่นๆ ก็ต่างส่งยิ้มอย่างเป็นมิตร ตั้งแต่ที่หลินเยวียนก้าวเข้ามา ทุกคนก็หันมามองเขาโดยไม่ได้นัดหมาย
“เซี่ยนอวี๋!”
ลู่เซิ่งไม่ถือตัว เขาลุกขึ้นยืนทันทีที่เห็นหลินเยวียน พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ยินดีด้วยที่คุณได้เป็นพ่อเพลง อยู่ที่นี่ตามสบายเลยนะ ที่นี่ไม่มีระเบียบอะไรเป็นพิเศษ ทุกคนแค่นั่งกินของอร่อยแล้วก็คุยกันสบายๆ ”
หลินเยวียนพยักหน้าอย่างงงงวย
ห้องนี้มีพื้นที่กว้างขวาง มีทั้งโต๊ะและโซฟาวางหลายมุม ผู้คนต่างจับกลุ่มคุยกันเป็นกลุ่มเล็ก
ที่นี่แตกต่างจากงานเลี้ยงที่เขาเคยเข้าร่วมก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
“นั่งตามสบาย”
ลู่เซิ่งพาหลินเยวียนไปนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่ง
เจิ้งจิงและหยางจงหมิงก็นั่งลงด้วยกันข้างๆ หลินเยวียน
พ่อเพลงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่โต๊ะและกำลังฟังเพลงผ่านหูฟัง เมื่อเห็นทุกคน เขาจึงถอดหูฟังออกพร้อมรอยยิ้ม
“สวัสดี เซี่ยนอวี๋ ผมเฉินเฮ่อเซวียน เราเคยเจอกันมาก่อน”
“สวัสดีครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน