ตอนที่ 843 แสงสนธยา
แม้จะเป็นเพียงประโยคอันเรียบง่าย แต่อันที่จริงหยางจงหมิงแสดงออกถึงความน่าเกรงขามให้ได้เห็น
มีพ่อเพลงบางคนรู้สึกประหลาดใจ
ไม่คิดว่าเซี่ยนอวี๋จะทำให้หยางจงหมิงให้ความสำคัญถึงเพียงนี้ เพียงแค่ความสัมพันธ์ในบริษัทเดียวกันคงไม่ทำให้หยางจงหมิงออกมาพูดแบบนี้
แต่ทุกคนก็เข้าใจถึงเหตุผลที่หยางจงหมิงประกาศเช่นนี้
กระแสของพ่อเพลงหน้าใหม่อย่างเซี่ยนอวี๋กำลังโด่งดังเกินไป จึงจำเป็นต้องถูกกดไว้บ้าง
ดังนั้นจงโจวจึงลงมือ
นอกจากจงโจวแล้ว จะไม่มีคนแบบนี้อีกเชียวหรือ?
แน่นอนว่ามี
ระหว่างเพื่อนร่วมวงการ ความอิจฉาริษยานั้นยากจะหลีกเลี่ยง
ไม่ใช่เพียงแค่วงการดนตรีเท่านั้น ทุกวงการก็เป็นเช่นเดียวกัน
ในสถานการณ์เช่นนี้ คนที่หวังให้เซี่ยนอวี๋เกิดปัญหาก็มีไม่น้อย
บรรยากาศค่อนข้างแปลกไปชั่วครู่ ก่อนที่ทุกคนจะกลับมาพูดคุยหัวเราะกันต่อ เรื่องแบบนี้ต่างคนต่างรู้โดยไม่ต้องพูดออกมาก็พอ
อย่างไรก็ตาม หลินเยวียนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า
ท่าทีของพ่อเพลงคนอื่นๆ ที่มีต่อเขาดูจะกระตือรือร้นกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย
“พูดตอนนี้เร็วไปหน่อยนะ”
เจิ้งจิงมองไปรอบๆ ก่อนบ่นพึมพำ “คนยังมาไม่เยอะเลย”
แต่ก็ไม่เป็นไร
เพราะสุดท้ายเดี๋ยวพวกเขาจะได้ยินเอง
เจิ้งจิงยิ้มอย่างอารมณ์ดีและพาเซี่ยนอวี๋ไปร่วมวงสนทนา
ในขณะเดียวกัน ที่ประตูทางเข้าของโถงทองคำ…
พรมแดงเริ่มคึกคักแล้ว
คนดังจำนวนไม่น้อยปรากฏตัวบนพรมแดง
“ราชาเพลงจากฉินโจวมาถึงแล้ว!”
“นั่นนักราชินีเพลงจากฉีโจวก็มาเหมือนกัน!”
“ดูสิ ดาราภาพยนตร์จากฉู่โจวที่โด่งดังที่สุดในช่วงนี้ ขายาวจนแทบจะเดินเต็มพรมแดงเลย การได้ร่วมงานที่โถงทองคำนี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ ”
“ฮ่า เจ๋งสุดๆ !”
“ประธานหวังจากบริษัทเงินทุนผู่หลิง!”
“ทุกคนรู้ว่าท่านประธานหวังชอบดนตรีมาก ต้องมาฟังการแสดงดนตรีที่โถงทองคำทุกปี”
“ข้างหลังนั่นลูกชายประธานหวังใช่ไหมล่ะ?”
“นั่นลูกชายประธานหวัง แต่คนข้างๆ ลูกชายประธานหวังหน้าคุ้นๆ แฮะ”
“นั่นหลิงคง! ทายาทของกลุ่มปู้ลั่ว!”
มีนักข่าวคนหนึ่งอุทานขึ้นมา หลิงคง ผู้ซึ่งเพิ่งเปิดเผยตัวกับสาธารณชนไม่นานก็ปรากฏตัวที่นี่ด้วย
หลิงคงซึ่งมีหน้าตาหล่อเหลายิ้มทักทายกล้องอย่างเป็นมิตร
ด้านหลัง
เสียงเย็นชาก็ดังขึ้นจากข้างหลัง “หลีกทางหน่อย”
หลิงคงขมวดคิ้ว หันกลับไปมองแวบหนึ่งก่อนจะกระแอมเบา ๆ และขยับตัวหลีกทางให้อย่างเงียบ ๆ
นั่นคือผู้หญิงคนหนึ่ง เขาที่ไม่ควรไปยั่วโมโหด้วย
ถ้าหลิงโจ้วพ่อของเขามาด้วย ก็คงจะพอทำให้อีกฝ่ายเกรงใจได้บ้าง
“ยัยนี่อารมณ์ร้ายเป็นบ้า แต่งตัวก็ซะฉูดฉาดเกินไป ไม่เดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุปไปซะเลยล่ะ”
“เบาหน่อยสิหวังจื่อ”
หลิงคงพูดด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน ผู้หญิงคนนี้ซื้อวงเกิร์ลกรุปได้ตั้งกี่วง ยังต้องพูดเรื่องเดบิวต์อีกหรือ
หวังจื่อแค่นเสียง “ฉันไม่กลัวหรอก”
หลิงคงยิ่งรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น เขาน่ะกลัวจะแย่อยู่แล้ว!
ผู้หญิงที่ทำให้หลิงคงต้องหวั่นเกรงนั้นดูอายุประมาณยี่สิบกว่า หน้าตางดงามสะดุดตา เธอสวมชุดเดรสยาวสีดำกรุยกราย บนชุดเดรสตกแต่งด้วยไข่มุกนับไม่ถ้วน สร้อยคอที่ประดับคอนั้นส่องแสงระยับจนแทบจะแสบตา ทำให้เมื่อเธอดึงดูดความสนใจจากนักข่าวทันทีที่ปรากฏตัว!
“ลิเลีย!?”
“หญิงแกร่งในหมู่สาวสังคมชั้นสูงของจงโจวเลยนะ”
“เธอเรียกสาวสังคมได้ยังไงล่ะ? มีสาวสังคมคนไหนที่แบบเธอบ้าง?”
ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
เมื่อลิเลียก้าวเดินพรมแดงเสร็จ หญิงสาวด้านข้าง[1] ก็หัวเราะพลางเอ่ยถาม
“คุณมีปัญหากับเจ้าเด็กจากปู้ลั่วเหรอคะ?”
“ไม่มีหนิ”
“แล้วทำไมถึงไปแขวะเขาล่ะคะ”
“เขาบังช่างภาพฉันอยู่”
“…”
นักข่าวเยอะแยะถึงขนาดนี้ เธอยังพาช่างภาพส่วนตัวมาด้วยเหรอ?
หญิงสาวซึ่งอยู่ด้านข้าง ยิ้มอย่างขมขื่นแต่ก็ไม่ได้แปลกใจ เพราะรู้ดีว่านี่คือนิสัยของอีกฝ่าย “เราไปที่ห้องรับรองเลยดีกว่า หวังว่าวันนี้จะมีเพลงที่ทำให้เธอพอใจบ้างนะ”
“อืม”
ลิเลียพยักหน้า แต่กลับยังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ ไม่นานก็เห็นข่าวหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต
[ลิเลีย นักธุรกิจหญิงอันดับหนึ่งจากจงโจว ปรากฏตัวในโถงทองคำ สวยสะกดทุกสายตา!]
ข่าวนี้ออกมาอย่างว่องไว
มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นบทความที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแบบ ‘สวยสะกดทุกสายตา’
ลิเลียยิ้มอย่างพอใจแล้วเดินขึ้นชั้นบนไปพร้อมกับเพื่อนสาวข้างกาย
……
หลินเยวียนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก
หลังจากพักอยู่ในห้องรับรองไม่นาน เขาก็เข้าไปยังห้องวีไอพีพร้อมกับหยางจงหมิงและเจิ้งจิง
ห้องรับรองหมายเลข 013
โถงทองคำส่วนใหญ่เป็นที่นั่งสำหรับผู้ชมทั่วไป ในขณะที่สองชั้นด้านบนถูกจัดเตรียมไว้สำหรับแขกวีไอพีโดยเฉพาะ โดยห้องรับรองเหล่านี้ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก
ตามหลักแล้ว ประสบการณ์การรับชมจากห้องรับรองไม่สามารถเทียบกับที่นั่งในโถงใหญ่ได้
อย่างไรก็ตาม โถงทองคำเป็นสถานที่พิเศษ ห้องสำหรับแขกวีไอพีเหล่านี้ได้รับการออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีที่พิเศษมาก ทำให้ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับเสียงดนตรีจากในห้องได้ดียิ่งกว่าที่นั่งในโถงใหญ่ ดังนั้นผู้ที่ไม่มีสถานะสูงพอจึงไม่มีสิทธิ์เข้ามาในห้องเหล่านี้
แต่แน่นอนว่าพ่อเพลงสามารถใช้ห้องวีไอพีเหล่านี้ได้
หลังจากเข้ามาในห้อง เจิ้งจิงก็ยิ้มและพูดกับหลินเยวียน “พอคุณแตะถึงระดับที่สามารถจัดงานแสดงดนตรีเดี่ยวได้เมื่อไหร่ อย่าลืมไปหาลุงหยางนะ เขาบอกแล้ว จะปล่อยให้เขาหนีไปไหนไม่ได้”
หลินเยวียนถามขึ้นว่า “มันมีอะไรต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษไหมครับ”
เจิ้งจิงยิ้มพลางกล่าวตอบ “ถ้าลุงหยางของคุณช่วยจัดงานแสดงดนตรีให้ละก็ เขาสามารถเชิญบางคนที่พ่อเพลงทั่วไปอาจเชิญไม่ได้ เพื่อนร่วมวงการก็จะระวังคำพูดมากขึ้น ถ้าเขาไม่คุมสถานการณ์ไว้ ก็ไม่รู้ว่าคนในวงการกับสื่อจะวิจารณ์คุณยังไง แน่นอนว่าข้อดีอื่นๆ ก็ยังมี ในอนาคตคุณจะเข้าใจ อย่าคิดว่าจงโจวส่งคนสองคนมาขวางคุณ ที่จริงแล้วตอนนี้คุณยังไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งในสายตาของบางคนด้วยซ้ำ พวกเขาไม่เล่นเพลงพ็อปแล้ว และถึงขั้นมองไม่เห็นคุณค่าของเพลงประเภทนี้อีกต่อไป การได้แสดงในสถานที่อย่างโถงทองคำต่างหากคือสิ่งที่พวกเขาแสวงหา”
“ครับ”
ดูเหมือนว่าในเรื่องนี้จะมีความซับซ้อนอยู่มาก
ความแตกต่างระหว่างพ่อเพลงแต่ละคนอาจอยู่ที่เรื่องเหล่านี้เอง
งานแสดงดนตรีเดี่ยวที่พวกเขาพูดถึง แน่นอนว่าต้องประกอบไปด้วยหลากหลายรูปแบบ ทั้งเปียโน เชลโล ไวโอลิน และแม้กระทั่งการบรรเลงในรูปแบบวงออร์เคสตรา
อย่างหลังเป็นเส้นทางที่เขายังไม่เคยแตะ
แม้แต่เปียโนเอง หลินเยวียนก็เพิ่งจะก้าวเข้าไปเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น ผลงานที่เขามีอยู่ตอนนี้ยังมีจำนวนจำกัดมาก
ดูเหมือนว่าแม้จะกลายเป็นพ่อเพลงแล้ว เขาก็ยังมีหนทางอีกยาวไกลที่ต้องก้าวเดิน
“จริงสิ”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...