ตอนที่ 847 ตำนานแห่งโถงทองคำ (2)
ห้องรับรองหมายเลข 013
หยางจงหมิงและเจิ้งจิงไม่ได้รีบร้อนออกไป ทั้งสองนั่งอยู่ที่เดิมอย่างสบายใจ
พวกเขาตั้งใจรอเซี่ยนอวี๋เดินออกไปพร้อมกัน
ทว่าเมื่อเสียงอินโทรของเพลงราตรีบรรเลงดังขึ้น สีหน้าของทั้งสองคนกลับแปลกพิลึกขึ้นมานิดหน่อย
เอ๊ะ?
ดูเหมือนว่าจะเค้นเพลงที่ไม่ธรรมดาออกมาเแล้วสินะ?
“ตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว”
เจิ้งจิงเหลือบมองเวลาบนโทรศัพท์พลางเอ่ยขึ้นราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้
เที่ยงคืน
เดือนธันวาคม
เพลงนี้หมายความว่าอย่างไร เข้าใจได้ไม่ยาก
หยางจงหมิงยิ้มพลางกล่าวว่า “ที่แท้ก็ยังมีเพลงที่ไม่ด้อยไปกว่าเครื่องลายคราม ผมนึกว่าแค่เพลงเปียโนสองเพลงนั้นจะเป็นอาวุธหนักที่สุดแล้วนะเนี่ย”
เพลงที่ไม่ด้อยไปกว่าเครื่องลายคราม!
หยางจงหมิงเพิ่งฟังได้แค่ท่อนแรกก็ได้ข้อสรุปออกมาในทันที
……
เสียงเพลงที่ตามมา ดูเหมือนจะยิ่งยืนยันคำตัดสินของหยางจงหมิงได้อย่างต่อเนื่อง!
“อา~ เมฆดำคล้ายบังนภา ยามราตรีไม่ผ่องใส
ความทรงจำงานศพในสวนลอยคว้างกลางท้องฟ้า
ดอกกุหลาบขาวมอบให้เธอเหี่ยวเฉาในอันธการ์
นกกาจับกิ่งไม้สงบนิ่งจนแปลกใจ
ฟังเสียงฉันเงียบๆ เสื้อคลุมสีดำของฉันจะให้ความอบอุ่นแด่ความทรงจำของเธอที่เย็นชา
ชีวิตที่เราได้ผ่านพ้นมา
อา~ หมอกเริ่มปกคลุมรอบด้าน
อา~ ฉันอยู่ท่ามกลางสุสานอันกว้างใหญ่
แม้ยามแก่เฒ่า รักเราไม่เสื่อมคลาย
หลินเยวียนนั่งอยู่หน้าเปียโน หลับตาลงอย่างแผ่วเบา
ขณะที่เสียงเปียโนดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ค้อนเปียโนกระทบกับสายอย่างแม่นยำ คีย์เปียโนสีขาวดำเรียงรายไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวของนิ้วทั้งสิบของหลินเยวียน
เสียงเพลงหยุดลงครู่หนึ่ง
แสงที่สะท้อนจากตัวเปียโนสีดำขลับ เผยให้เห็นสายที่ไหลลื่นอย่างงดงาม
……
กู้ซียังอยู่ในงานและยังไม่ได้ออกไป
แน่นอนว่าโถงทองคำนั้นส่องประกายสีทอง
แต่ในเวลานี้ สีทองอร่ามนั้นกลับเผยออกมาในบทเพลงราตรีบรรเลง!
ไม่ว่าจะเป็นเพราะถูกดึงดูดด้วยใจจริงจนทำให้ผู้คนหยุดฟัง หรือเป็นเพียงเพราะอุปาทานหมู่ หรืออาจแค่เพราะทางออกถูกขวางด้วยผู้ชมที่ยืนอยู่ สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ
บทเพลงส่งท้ายนี้กลับไม่ทำให้โถงทองคำเงียบลง!
ตรงกันข้าม ผู้คนยังคงตั้งใจฟังเพลงอย่างเงียบสงบ ราวกับกำลังชมการแสดงอย่างเป็นทางการ!
สิ่งนี้ทำให้กู้ซีรู้สึกถึงช่องว่างอันใหญ่หลวง
เธอเคยคิดว่าการแสดงเพลงส่งท้ายในโถงทองคำเป็นเหมือนช่วงเวลาขยะที่ไม่มีผู้ชมสนใจ ทุกคนจะทยอยออกไปพร้อมเสียงดนตรีเท่านั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้กลับลบล้างความเข้าใจของเธอที่มีต่อช่วงเวลาขยะไปโดยสิ้นเชิง!
ใครจะรู้ว่าเพลงส่งท้ายก็กลายเป็นการแสดงอย่างเป็นทางการได้?
ไม่สิ
บางทีอาจจะมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนช่วงเวลาสุดท้ายนี้ให้กลายเป็นคอนเสิร์ตของตัวเอง ดึงดูดทุกสายตาไว้ได้!
ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย!
……
สำหรับโถงทองคำแล้ว การแสดงส่งท้ายในวันนี้นับเป็นหนึ่งในเวทีที่พิเศษที่สุด
คลาสสิก
เศร้าหมอง
โรแมนติก
เสียงร้องและเสียงเปียโนของเซี่ยนอวี๋ทำให้ผู้ฟังบางคนอดนึกถึงเพลง ราตรีบรรเลงสองเพลงที่เขาเล่นบนเวทีวันนี้ไม่ได้
เป็นความเชื่อมโยงที่แปลกประหลาด
ทั้งที่เพลงนี้กับราตรีบรรเลง สองเพลงก่อนหน้านั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อยทั้งด้านทำนองและสไตล์ แต่กลับสามารถถ่ายทอดความรู้สึกที่มีความสอดคล้องกันอย่างไม่น่าเชื่อ
เหมือนจะเป็นทำนองแบบไมเนอร์?
ทำนองที่เศร้ามาก
นี่คือประสบการณ์อันชวนดื่มด่ำ หลายคนที่เพิ่งจะลุกขึ้นยืนได้ไม่นาน แทบจะลืมตัวและนั่งลงไปอีกครั้งเพราะถูกดึงดูดไว้ด้วยท่วงทำนองที่ดังก้องในหู
มีบางคนที่ยืนนานจนเมื่อยจึงเลือกนั่งลง
แต่ทันทีที่บั้นท้ายแตะกับเก้าอี้ก็กลับรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตไปทั้งตัว ทำให้ต้องทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างเต็มเปา!
เล่นเพลงราตรีบรรเลงของชอแป็งนี้เพื่อเธอ
ระลึกถึงรักลึกซึ้งที่ตายจาก
สดับเสียงสายลมยามราตรี
หัวใจแตกสลายแต่ไพเราะล้นปรี่
มือนี้สัมผัสลงบนคีย์เปียโน
ความคะนึงของฉันคอยระวังเสมอมา
สถานที่ที่ฝังความรักของเราไว้คือยมโลก
……
เล่นเพลงราตรีบรรเลงของชอแป็งนี้เพื่อเธอ?
ชอแป็งคือใคร อาจไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนสนใจในตอนนี้
สิ่งที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึง คือความเชื่อมโยงอันแปลกประหลาดระหว่างเพลงนี้กับสองบทบรรเลงเปียโนก่อนหน้านี้
ราวกับว่ากับว่าค่ำคืนนี้ มีการแสดงสามสามชุดซึ่งมีเซี่ยนอวี๋เป็นศูนย์กลาง เรียงกันเป็นเส้นตรง และเพลงนี้คือปลายสายซึ่งนำงานทั้งสามชิ้นมาเรียงร้อยเข้าด้วยกันด้วยเสียงเพลง จนเกิดเป็นความงดงามที่ไร้ซึ่งคำบรรยาย
ในขณะนี้
เมื่อท่อนฮุคของเพลงดังขึ้น ความเศร้าก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับว่ามดกำลังเสพเลือด พวกนกพิราบและอีแร้งต่างบินวุ่นวาย ดอกกุหลาบสูญเสียสีแดง และนกกามิอาจทนร้องออกมาได้ ความรู้สึกต่างๆ ที่สะสมไว้พรั่งพรูออกมา กลายเป็นความเศร้าอันงดงามและเย็นเยียบ!
ผู้ฟังค่อยๆ ดำดิ่งลงสู่บทเพลง!
เหล่าพ่อเพลงซึ่งนั่งฟังอยู่ในงานต่างเริ่มมีสีหน้าเปลี่ยนไป
ทั่วทุกแห่งหน
ปฏิกิริยานับไม่ถ้วน
เสียงจากที่ต่างๆ ค่อยรวมเข้ากันเป็นหนึ่งเดียวบนโลกออนไลน์ในท้ายที่สุด!
พร้อมกับเสียงตะโกนที่ดังก้องด้วยความประหลาดใจว่า ‘ทำไมถึงมีราตรีบรรเลงเพลงที่สาม’ และชาวเน็ตต่างก็ฟังเพลงนี้จนจบ
ครืน!
พื้นที่แสดงความคิดเห็นถูกถล่มทันที!
ความคิดเห็นซึ่งทะยานขึ้นอันดับหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ก็คือ
‘แชมป์ 12 สมัย สู้โว้ย!’
ไม่เพียงแฟนคลับตัวยงของเซี่ยนอวี๋ แม้แต่คนที่แค่เหล่าผู้สังเกตการณ์ทั่วไปก็ยังต้องตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
‘นี่คือราตรีบรรเลงเพลงที่สามเหรอ?’
‘เพราะจนน้ำตาไหล แค่ท่อนอินโทรก็ฆ่าฉันแล้ว!’
‘ใครบอกว่าพ่อเพลงไม่มีไพ่ตาย นี่เหรอที่เรียกว่าไม่มีไพ่ตาย? โยนไพ่ตายลงมาสามใบหน้าจนต้องถามว่าเก็บเศษหน้าไหวไหม!’
‘ไม่มีไพ่ตายแล้วจะชนะฉันได้งั้นเหรอ? โอ้โห…’
‘นี่มันฝีมือระดับเทพชัดๆ เพื่อแค่ประโยคในเนื้อเพลงที่บอกว่า เล่นเพลงราตรีบรรเลงของชอแป็งนี้เพื่อเธอเขาถึงกับแต่งเพลงเปียโนสองเพลงที่ระเบิดโถงทองคำเลยหรือ?’
‘ชอแป็งคือใคร?’
‘ใครจะไปรู้ล่ะ! คิดซะว่าเล่นเพลงราตรีบรรเลงของชอแป็งนี้เพื่อเธอก็จบแล้ว!’
‘การเชื่อมโยงแบบนี้ ผมยอมแล้ว!’
‘เพิ่งปล่อยเพลงเครื่องลายครามไปเมื่อพฤศจิกายน แล้วธันวาคมนี้ยังทำให้ขนลุกไปทั้งตัวอีก!’
‘แม่เจ้าโว้ย!’
‘รีบดูที่โถงทองคำสิ เซี่ยนอวี๋กำลังไลฟ์ร้องเพลงนี้อยู่เลย ผู้ชมยังไม่ยอมออกจากงานเลย!’
……
โถงทองคำ
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว
เซี่ยนอวี๋ก้าวลงจากเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง
ด้านหลังเวที เจ้าหน้าที่หลายคนมองเซี่ยนอวี๋ที่เพิ่งเดินออกไปด้วยความตกตะลึง ก่อนจะมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
ทันใดนั้น
มีคนหนึ่งเหมือนจะฉุกคิดอะไรออก
‘เอ๊ะ มีอะไรแปลกๆ !’
‘ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน เหมือนว่ามีอะไรผิดปกติอยู่!’
ใช่แล้ว!
เซี่ยนอวี๋ขึ้นเวทีเพื่อเล่นบทเพลงส่งท้ายส่งผู้ชมออกจากงานไม่ใช่หรือ?
ทำไมถึงกลายเป็นตรงกันข้าม…
ทั้งที่เป็นการแสดงส่งท้าย ทำไมกลายเป็นว่าการแสดงนี้กลับกลายเป็นผู้ชมใช้เสียงปรบมือเพื่อส่งเขากลับไปได้ซะล่ะ…
เอาเถอะ
นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโถงทองคำที่มีพ่อเพลงเปลี่ยนช่วงเวลาขยะให้กลายเป็นการแสดงอย่างเป็นทางการแบบนี้
นับเป็นตำนานแห่งโถงทองคำ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...