ตอนที่ 862 จ้าวโจวผนวกรวม
วิลลา
ในห้องหนังสือ
หลินเยวียนยืนอยู่ริมหน้าต่าง หายใจเข้าออกอย่างผ่อนคลาย แขนของเขาอยู่ในท่าที่ลอยอยู่กลางอากาศ ข้อมือเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบา ค่อยๆ วาดเส้นสายลงบนภาพตรงหน้า ปลายพู่กันลากผ่านกระดาษอย่างต่อเนื่อง เส้นหมึกสีดำไหลลื่นออกมาจากปลายพู่กันราวกับมีชีวิต…
ความงดงามของหมึกนั้นล้วนเกิดขึ้นจากปลายพู่กัน
เส้นสายที่ผสมผสานความจริงกับจินตนาการ แข็งแกร่งและอ่อนโยน หนาและบาง เข้มและอ่อน หรือแม้แต่การวาดซ้ำหรือการใช้เทคนิค ‘อาภรณ์ชุ่มน้ำ[1]’ ด้วยทักษะการวาดระดับปรมาจารย์ของหลินเยวียน ทำให้เขาสามารถถ่ายทอดเทคนิคนี้ออกมาผ่านปลายพู่กันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผลงานที่เขาสร้างขึ้นเต็มไปด้วยความงามที่เรียบง่ายและสง่างามโดยกำเนิด
และในขณะกำลังวาดภาพนั้นเอง
ในแววตาของหลินเยวียนเหมือนมีประกายแห่งจิตวิญญาณบางอย่าง สายตาของเขาเต็มไปด้วยสมาธิและความลึกซึ้ง
ประกายจิตวิญญาณนี้ราวกับหลั่งไหลลงสู่กระดาษในทุกครั้งที่พู่กันสัมผัส เป็นดั่งภาพเขียนภูเขาและสายน้ำที่พรมด้วยหมึกอย่างมีชีวิตชีวา
นั่นคือบรรยากาศบางอย่างที่ยากจะอธิบายให้ชัดเจน เป็นความงดงามที่ล่องลอยอยู่รอบภาพวาด แม้ภาพจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็สามารถก่อตัวกันอย่างเป็นรูปร่างและไม่สลายหายไป
นี่แหละคือ ‘มิติแห่งภาพวาด’
‘มิติแห่งภาพวาด’ เป็นทักษะที่ดูเหมือนจะมีความลึกลับเฉพาะตัว
เมื่อหลินเยวียนเปิดใช้ทักษะนี้ เขารู้สึกว่าทักษะการวาดของตัวเองพัฒนาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาก็ยังรู้สึกว่าระดับทักษะของตนยังคงเดิม เพียงแต่ความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ เขาสามารถถ่ายทอดความเข้าใจและความรู้สึกที่ลึกซึ้งของตัวเองผ่านปลายพู่กันออกมาให้โลดแล่นอยู่บนผืนกระดาษได้อย่างชัดเจน
ปลายพู่กันเคลื่อนไหวไปมา
ไม่นานนัก ภาพม้าควบอันเต็มไปด้วยเสน่ห์และความพริ้วไหวในแบบหมึกพู่กันโบราณก็ปรากฏขึ้นบนกระดาษ!
ภาพที่ดูเรียบง่ายนี้กลับแฝงไว้ด้วยความสูงส่งและวิจิตรศิลป์ ลายเส้นที่ใช้แสดงถึงความหนักแน่นและความดุดัน ม้าตัวนี้ไร้อาน ไร้บังเหียน แต่จากรายละเอียดในภาพ กลับทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความสง่างามและจิตวิญญาณอันอิสระและดื้อรั้นของมัน…
ฟู่!
เมื่อจรดพู่กันลงเป็นครั้งสุดท้าย
หลินเยวียนจึงวางพู่กันลง พรูลมหายใจออกอย่างผ่อนคลาย
ภาพนี้หลินเยวียนใช้เวลาวาดถึงหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ ระหว่างนั้นไม่เพียงแต่เขาได้ใช้ทักษะมิติแห่งภาพวาดที่เพิ่งได้รับมาเป็นครั้งแรก แต่ยังต้องพึ่งยาเสริมพลังไปหนึ่งขวดกว่าภาพวาดจะเสร็จสมบูรณ์
ส่วนเหตุผลที่ยังเลือกใช้ม้าควบเป็นต้นแบบ…
ก็เพราะภาพม้าควบที่เขาตั้งใจจะมอบให้ประธานกรรมการก่อนหน้านี้ถูกเจิ้งจิงแอบเอาไปเสียก่อน
วันนี้เขาจึงวาดภาพม้าควบอีกครั้ง เพื่อเตรียมมอบให้ประธานตามแผนเดิมที่วางไว้
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ
ด้วยการรังสรรค์ ใส่ทักษะมิติแห่งภาพวาดลงไป ทำให้ภาพม้าควบ ซึ่งหลินเยวียนวาดในครั้งนี้มีมูลค่าสูงกว่าภาพที่เจิ้งจิงเอาไปเสียอีก
หลังจากยืดเส้นยืดสาย
เขาพึมพำกับตัวเองว่า “ต่อไปลองวาดภาพแนวใหม่ให้รุ่นพี่เย่าหั่วดูบ้างดีกว่า”
หลินเยวียนไม่ได้ออกจากบ้านเลยหลายวันเพื่อวาดภาพเหล่านี้
และในขณะที่เขาหมกมุ่นอยู่กับการเก็บตัวสร้างสรรค์ผลงาน วันเวลาได้ล่วงเข้าสู่เดือนมกราคมอย่างไม่ทันรู้ตัว ปีใหม่ได้มาถึงแล้ว!
หลินเยวียนอายุครบ 25 ปี!
และนั่นยังหมายความว่า
จ้าวโจวได้เข้าร่วมกับกระบวนการผนวกรวม!
ผนวกรวมครั้งใหญ่ของบลูสตาร์ก้าวหน้าไปอีกขั้น!
แม้ว่าหลินเยวียนจะไม่ได้ก้าวเท้าออกจากบ้าน แต่เขาก็รับรู้ถึงผลกระทบจากการที่ จ้าวโจว เข้าร่วมการรวมตัว
กำแพงวัฒนธรรมใหม่ถูกทำลายลง ผู้คนจากจ้าวโจวแสวงหาความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมยอดนิยมของ ฉิน ฉี ฉู่ เยี่ยน และหานอย่างกระตือรือร้น ไม่นานพวกเขาก็ทำความรู้จักกับบุคคลผู้มีชื่อเสียงจากทั้งห้าทวีปเป็นจำนวนมาก!
เซี่ยนอวี๋!
ฉู่ขวง!
อิ่งจือ!
ชื่อทั้งสามนี้ของหลินเยวียนเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวจ้าวโจวอย่างรวดเร็ว เพราะผลงานของเขาในชื่อทั้งสามนี้ล้วนมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางในห้าทวีปใหญ่ ได้แก่ ฉิน ฉี ฉู่ เยี่ยน และหาน
ดนตรี
วรรณกรรม
จิตรกรรม
เกม
ชื่อเสียงของหลินเยวียนในทั้งสี่วงการเพิ่มขึ้นเนื่องจากการผนวกรวมของจ้าวโจว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวันนี้เพิ่งเป็นวันที่ 2 มกราคม และการผนวกรวมของจ้าวโจวเพิ่งเกิดขึ้นได้เพียงสองวัน การเพิ่มขึ้นของค่าความโด่งดังจึงยังไม่มากนัก คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง
……
ออนไลน์
เพราะการผนวกรวมของจ้าวโจว
ช่วงสองวันนี้เว็บบอร์ดต่างๆ คึกคักเป็นพิเศษ
ชาวเน็ตจากฉิน ฉี ฉู่เยี่ยน และหานต่างต้อนรับชาวจ้าวอย่างอบอุ่น พร้อมพูดคุยโต้ตอบกันอย่างต่อเนื่อง
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...