Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 87

ตอนที่ 87 อัดเพลงและเผยโฉมหน้า

หลินเยวียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย “จริงสิ ระบบ เงินที่ได้จากการสั่งทำเพลง นายคิดว่าจะเอาไปทำอะไร”

หรือว่าระบบจะใช้เงินอัปเลเวล?

แน่นอนว่าผลลัพธ์ไม่ใช่แบบนั้น คำตอบของระบบออกจะอยู่เหนือความคาดหมาย “บริจาคให้คนที่ขาดแคลนบนโลกนี้”

ที่แท้ก็เอาเงินไปทำการกุศล

หลินเยวียนพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรมาก

วันเวลาต่อมายังเหมือนเดิมทุกประการ จวบจนวันที่ 18 เดือนเมษายน ก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์อีกครั้งหนึ่ง ในที่สุดหลินเยวียนก็แจ้งซุนเย่าหั่วไป “เตรียมเข้าบริษัทนะครับ วันนี้เราจะเริ่มอัดเสียงกัน”

“ไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

เดิมทีซุนเย่าหั่วจะออกไปเที่ยวกับแฟนสาว ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างทาง ทว่าเมื่อได้รับโทรศัพท์ของหลินเยวียน ก็เลี้ยวรถกลับโดยไม่ลังเล เหยียบคันเร่งมิดตรงดิ่งไปที่บริษัท

“ไม่ค่อยสบายหรือเปล่าครับ”

เมื่อหลินเยวียนเห็นซุนเย่าหั่วที่หน้าปากประตูห้องอัดเสียง อีกฝ่ายกำลับหอบโกยอากาศเข้าปอด ราวกับเพิ่งออกกำลังกายอย่างหนักมา

“ไม่…เป็นไร”

ซุนเย่าหั่วกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก พยายามเค้นรอยยิ้มออมา เขาไม่มีทางบอกว่าตนกลัวว่าหลินเยวียนจะต้องรอนาน ดังนั้นทันทีที่มาถึงบริษัทก็สับเท้าวิ่งมาตลอดทาง

“ร้องได้หรือยังครับ”

หลินเยวียนเอ่ยถาม ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เขาส่งเพลงกุหลาบแดงให้ซุนเย่าหั่วไปแล้ว ช่วงนี้อีกฝ่ายจึงฝึกซ้อมพอได้แล้ว

“ให้ร้องกลับหลังยังได้เลย”

ซุนเย่าหั่วพูดอย่างจริงจัง

ก่อนหน้านี้เขาได้รับเนื้อเพลงกุหลาบแดงและเดโม หลังจากฟังเดโมจบ ความรู้สึกเดียวในใจก็คือ

‘สมแล้วที่เป็นหลินเยวียน!’

เพลงที่ดีขนาดนี้ ถ้าตนร้องแล้วไม่ดัง ก็คงไม่ได้ร้องเพลงของรุ่นน้องไปอีกตลอดชีวิต!

เพราะนั่นหมายความว่าตนไม่คู่ควร!

หลินเยวียนพยักหน้า เดินเข้าไปในห้องควบคุมของสตูดิโออัดเสียง เจ้าหน้าที่ทางนั้นเตรียมพร้อมอยู่แล้ว หยิบหูฟังขึ้นสวมอย่างคล่องแคล่ว

ห่างกันเพียงกระจกกั้น

ซุนเย่าหั่วในห้องอัดเสียงพยักหน้าให้หลินเยวียน หลังจากปรับอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วก็ทดสอบเสียงเป็นครั้งแรก “ความฝันในฝันที่ไม่ตื่นจากฝัน สีแดงถูกเหนี่ยวรั้งในด้ายแดง ตื่นเต้นเหลือเพียงความเจ็บปวดไร้เรี่ยวแรงแล้วก็ไม่แยแส…”

หลินเยวียนไม่ได้ขัดจังหวะ

จนกระทั่งร้องจบทั้งเพลงรอบหนึ่ง ซาวด์เอนจิเนียร์จึงกล่าวแนะนำขึ้นมาก่อน ส่วนหลินเยวียนซึ่งอยู่ด้านข้างก็พูดเสริมความคิดเห็นขึ้นมา “ความคุ้นเคยไม่มีปัญหาครับ แต่เสียงของพี่เปิดกว้างเกินไป ภาพรวมของเพลงนี้เสียงค่อนข้างเศร้า หาความรู้สึกเจ็บช้ำอย่างเดียวไม่พอ ตอนร้องพี่เก็บไว้ข้างในหน่อยครับ พวกเรามาลองกันอีกรอบ”

ซุนเย่าหั่วพยักหน้า

ร้องเพลงครั้งที่สอง เขาใช้วิธีที่ค่อนข้างเก็บเสียงไว้ ทว่าหลินเยวียนเอ่ยขัดขึ้นมา “เพลงนี้โดยพื้นฐานแล้วมีความเศร้าอยู่นะครับ แต่ความเศร้าก็แบ่งเป็นหลายระดับ ระดับของท่อนเปิด พี่เข้าใจว่าเป็นความเสียใจก็ได้ครับ”

“เสียใจ?”

ซุนเย่าหั่วพยักหน้าอีกครั้ง

เมื่อเขาร้องถึงท่อนคอรัส หลินเยวียนถึงได้เอ่ยถึงสิ่งที่ตนต้องการเป็นครั้งที่สาม “ไม่ได้มาครอบครองก็ต้องมืดมัว ได้รับความรักไปก็ไม่ต้องกลัว นี่เป็นความเศร้าในระดับที่สองของเพลง จัดอยู่ในการคร่ำครวญหลังจากรู้สึกเสียใจ”

คำแนะนำในการแบ่งมาจากระบบ

การแบ่งมาจากความเข้าใจของหลินเยวียน

ในการอัดเพลงก่อนหน้านี้ หลินเยวียนก็ใช้วิธีการประเภทนี้ เขาไม่ต้องการให้ซุนเย่าหั่วเลียนแบบต้นฉบับ ในการร้องเพลง แต่ละคนต่างก็มีวิธีการที่เหมาะสมกับตนเอง จางปี้เฉิน[1]ในโลกเดิมก็เคยร้องเพลงกุหลาบแดง ให้คนละความรู้สึกกับเวอร์ชันต้นฉบับเลย แต่ฟังแล้วก็เพราะเหมือนกัน ถึงแม้ว่าซุนเย่าหั่วจะมีช่วงเสียงเหมือนกับต้นฉบับ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องถึงขั้นเลียนแบบ

การแต่งเสียงหลังจากนี้ก็เหมือนกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน