เข้าสู่ระบบผ่าน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 871

ตอนที่ 871 จุดเริ่มต้นของความนิยม (1)

ใช่แล้ว

ห้องพักที่ฟางโม่ข่านเลือกนั้นแขวนภาพหงส์ฟ้าทระนงซึ่งครอบคลุมผนังทั้งด้าน และถูกกำบังไว้ภายใต้กระจกใส

ในภาพ

ใต้ต้นอู๋ถงสีน้ำตาลอมแดง

หงส์ฟ้ากางปีกอันงดงามตระการตา

หลังจากเสียงร้องอันก้องกังวาน ด้านหลังอันโค้งมนเชื่อมกับลำคอเรียวยาวที่ดูอ่อนช้อย ส่วนหางลากยาวราวกับเปลวเพลิงลุกโชน ประดุจดาวตกสีแดงเปล่งประกายเจิดจ้า ส่องประกายปกคลุมทั่วผืนฟ้าและแผ่นดิน!

จะงอยปากประหนึ่งเหยี่ยว

กรามประหนึ่งนกนางแอ่น

ช่วงขาเรียวยาวสูงโปร่ง

รูปร่างสง่างามประหนึ่งนกกระเรียน

ขนสีแดงสดใสเป็นประกาย ด้านในประดับด้วยจุดกลมสีขาวเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ เส้นสายที่ไหลลื่นเหล่านั้นยังมีลวดลายสีทองแทรกอยู่ ให้ความรู้สึกถึงความสูงศักดิ์และหยิ่งทะนงโดยธรรมชาติ ในทุกอิริยาบถที่มองดูเต็มไปด้วยความสง่างาม แต่ก็แฝงไว้ด้วยอำนาจราวกับกำลังครอบครองทุกสิ่งบนโลก!

อันว่าหงส์ฟ้าสูงศักดิ์!

ขนพลิ้วเปล่งประกายห้าสี!

ย่างกรายแต่ละก้าวแผ่รัศมีเจิดจรัส!

ทั้งที่เป็นเพียงภาพนิ่ง แต่ทั้งสามคนกลับรู้สึกราวกับได้เห็นภาพของหงส์ที่ทะยานขึ้นสู่ท้องนภา

มันกางปีกทั้งสองออกอย่างสง่างาม บินถลาแทรกผ่านระหว่างท้องฟ้าและสายรุ้ง ลงมาจนเกือบแตะถึงเนินดินอีกฝั่งของลำธาร ก่อนจะกระพือปีกขึ้นอย่างแรงในทันใด ส่งเสียงสะท้านก้องฟ้า พร้อมเสียงร้องของหงส์ดังกังวาน!

เร่าร้อน!

งดงามทว่าแฝงด้วยความเศร้า!

ภายใต้สรีระที่สมบูรณ์และงดงามนั้นปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีส้มอมแดง แลดูราวกับกำลังจะลุกโชนจนมอดไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน หรือไม่ก็เหมือนกำลังเฝ้ารอการฟื้นคืนชีพครั้งใหญ่ท่ามกลางเปลวเพลิง นำมาซึ่งชีวิตใหม่และความหวังอันไม่สิ้นสุด!

……

เบื้องหน้าภาพวาด

ฟางโม่ข่านรู้สึกราวกับมีเปลวไฟลุกโชนขึ้นในหัวใจของเขา

หัวใจของเขาเต้นระรัวดั่งเสียงกลองศึก เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นที่ร้อนแรงผิดวิสัยตามวัย

ส่วนด้านข้างของเขา

หวังซินและเหมียวไป่ดูเหมือนจะตกอยู่ในห้วงอารมณ์เดียวกัน ราวกับว่าอากาศรอบตัวได้กลายเป็นความร้อนระอุขึ้นมา!

……

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน

เหมียวไป่พลันหัวเราะขึ้นมาแล้วกล่าวว่า

“ที่นี่ร้อนเกินไป ไม่สู้ไปดูภาพพฤกษาในวสันต์น้ำค้างสารทฤดูที่ห้องของผมกันดีกว่า เย็นใจขึ้นแน่นอน”

“ดีเลย!”

ฟางโม่ข่านจ้องมองภาพหงส์ฟ้าทระนงอีกครั้งอย่างตั้งใจ ก่อนจะเดินตามเหมียวไป่ไปยังห้องพักของเขา

เมื่อได้ชม ภาพพฤกษาในวสันต์น้ำค้างสารทฤดู

ฟางโม่ข่านจับจ้องชื่อที่เขียนอยู่ตรงมุมของภาพนั้น เสียงของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างลึกซึ้ง

“อาจารย์อิ่งจือท่านนี้ ช่างเป็นอัจฉริยะแห่งยุคสมัยจริงๆ !”

“คำพูดนี้ผมเห็นด้วย!”

หวังซินถึงกับตื่นเต้นจนเผยความในใจออกมาเป็นครั้งแรก “พวกคุณสองคนคงรู้ดีว่าผมหวังซินเป็นคนยังไง ในวงการชอบหัวเราะเยาะลับหลังว่าผมเป็นเศรษฐีใหม่ที่ไม่มีรสนิยม ซึ่งผมเองก็ยอมรับว่าดูไม่ออกว่าภาพวาดที่พวกเขายกย่องเป็นผลงานชิ้นเอกนั้นมันยอดเยี่ยมยังไง เรื่องนี้ผมติดค้างอยู่ในใจมาตลอด แต่วันนี้ผมกลับรู้สึกปล่อยวางได้ เพราะมันไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจศิลปะหรอก แต่เป็นเพราะภาพที่บรรดาจิตรกรดังๆ ของพวกเขาวาด มันยังไม่ดีพอต่างหาก ดูผลงานของอาจารย์ท่านนี้สิ ภาพแต่ละภาพที่เขาวาด ผมกลับเข้าใจได้ นี่แหละที่เรียกว่างานศิลปะของจริง!”

หวังซินรู้สึกตื่นเต้นจนพูดออกมาอย่างจริงใจ

ไม่ใช่ว่าผมไม่มีรสนิยม และไม่ใช่เพราะมองศิลปะไม่ออกหรอก!

ที่ภาพของพวกคุณทำให้ผมเข้าถึงไม่ได้ ก็เพราะภาพของพวกคุณยังไม่ถึงขั้นต่างหาก!

ดูภาพของอาจารย์อิ่งจือนี่สิ ผมกลับเข้าใจได้ทันที ไม่ใช่แค่เข้าใจ ผมยังสัมผัสถึงความงดงามของอารมณ์และความหมายในภาพได้อีกด้วย!

เหอะๆ

นึกไม่ถึงเลยว่าวันหนึ่ง ฉันจะได้พูดคำว่า ‘จิตวิญญาณแห่งศิลปะ’ ออกมา ฉันเองก็เข้าใจเรื่องพวกนี้ได้เหมือนกัน!

“…”

คำพูดของหวังซินทำเอาฟางโม่ข่านและเหมียวไป่รู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ไม่น้อย

เพราะในใจลึกๆ พวกเขาเองก็เคยวิจารณ์หวังซินไว้เช่นนี้เหมือนกัน…

แต่หลังจากที่ได้ชมภาพของอาจารย์อิ่งจือในวันนี้ ทั้งฟางโม่ข่านและเหมียวไป่ก็เริ่มรู้สึกว่าคำพูดของหวังซินนั้นมีเหตุผลอยู่บ้าง

ในกลุ่มแช็ต

เหมียวไป่ส่งข้อความ [ผมกับฟางโม่ข่านอยู่ที่ห้องสวีตโรงแรมราชวงศ์ปลา ใครจะมาด้วยไหม มีเซอร์ไพรส์ ถ้าไม่มาอย่ามาเสียใจทีหลัง!]

กลุ่มแช็ตครึกครื้นขึ้นมาในทันที

[???]

[พี่เหมียว มีอะไรอยู่ในกอไผ่ล่ะเนี่ย?]

[หน่อไม้ปลอมอยู่ในกอไผ่]

[หน่อไม้ปลอมเป็นของเหล่าหลิวต่างหาก เขาเปิดโรงงานหน่อไม้กระป๋อง (อิโมจิแอบหัวเราะ) ถ้าฟางโม่ข่านอยู่ด้วย ผมจะรีบไปเลย บ้านเขามีภาพเขียนที่ผมอิจฉามานาน แต่เขาไม่ยอมแบ่งให้ วันนี้ต้องทำให้เขายอมให้ได้]

[โรงแรมราชวงศ์ปลา? ไม่เคยได้ยินเลย]

[ผมรู้จักนะ โรงแรมห้าดาวเพิ่งเปิดที่เมืองซู เจ้าของคือซุนเย่าหั่ว ไอ้หนุ่มนี่เป็นดารา ช่วงไม่กี่ปีมานี้ผันตัวมาลุยธุรกิจจนไปได้สวยมาก ก่อนหน้านี้เขาทำร้านอาหาร แล้วก็ไปทำเกม ตอนนี้เริ่มบุกธุรกิจโรงแรมแล้ว]

[ฉันก็รู้จักเขานะ เคยคิดจะขอร่วมลงทุนด้วย แต่เขาไม่ยอมให้]

[อย่าออกทะเลกันสิ! พี่เหมียวผมกำลังไป เย็นนี้ดื่มด้วยกัน!]

[ฉันก็จะแวะไปหน่อยละกัน ไม่ได้เจอพี่เหมียว มานานแล้ว คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง!]

ในแวดวงของเหล่ามหาเศรษฐี

บทสนทนามักเต็มไปด้วยการคุยโวและแซวกันสนุกสนาน

ไม่นานก็มีมหาเศรษฐีหลายคนมุ่งหน้าไปยังโรงแรมราชวงศ์ปลา

……

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

โรงแรมราชวงศ์ปลาพลันคึกคักขึ้นมาทันที

มหาเศรษฐีถึงแปดคนทยอยปรากฏตัวขึ้น ทั้งหมดล้วนถูกเหมียวไป่และพรรคพวกดึงดูดมา

ในนั้น มีมหาเศรษฐีอยู่สองคนซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความชอบทำตัวโดดเด่น ภาพถ่ายของพวกเขามักจะปรากฏในข่าวเสมอ ทำให้ผู้จัดการใหญ่ของโรงแรม หวังอวี่จดจำพวกเขาได้ทันที

โอ้โฮ!

แต่ละคนระดับตัวท็อปทั้งนั้น!

หวังอวี่รีบต้องรีบให้ความสำคัญกับพวกเขามากขึ้นในทันที!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน