Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 90

ตอนที่ 90 ค่าครองชีพแพง

สำหรับนักอ่านแล้ว การจบของเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสนั้นไม่กะทันหัน เพราะในตอนจบของเล่มที่สี่ซึ่งวางขายในเดือนเมษายน แผนกบรรณาธิการก็ประกาศเรื่องที่ว่านิยายเรื่องนี้กำลังจะจบไปล่วงหน้าแล้ว ต่อให้บรรดานักอ่านจะยังตัดใจไม่ลงก็ตามแต่

ทุกคนกำลังอ่านกันอย่างได้อรรถรสอยู่เลย

แล้วมาบอกว่าหนังสือกำลังจะจบเนี่ยนะ?

นิยายขายดีแบบนี้ โดยทั่วไปมักจะเขียนสักสองสามล้านตัวอักษรขึ้นไป เพราะฉะนั้นแล้วถึงแม้นักอ่านจะไม่ได้รู้สึกว่าปุบปับ แต่ก็ยังไม่คุ้นชินนัก ความไม่คุ้นชินนี้ยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกทำใจไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม

ทว่าทำใจไม่ได้นี่สิถึงจะเป็นเรื่องปกติ

เพราะเรื่องราวของปรินซ์ออฟเทนนิสซึ่งเน้นเนื้อไม่มีน้ำนั้นเข้มข้นมาก ทุกฉบับนั้นเรียกได้ว่าพีคสุดๆ และในเล่มสุดท้ายนั้นเป็นการแข่งขันระดับประเทศชวนระทึกใจ นักกีฬาเทนนิสทีมโรงเรียนมัธยมชิงชุนกำลังต้อนรับการมาถึงของช่วงเวลาไคลแม็กซ์ที่สุดของพวกเขาในหนังสือ!

เนื้อเรื่องไม่ได้มีแนวโน้มเวิ่นเว้อออกทะเลเลย

นักเขียนจึงมีตอนจบอันสมบูรณ์แบบ

ตั้งแต่ที่ฉู่ขวงได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดของปู้ลั่ว และกลายเป็นที่พูดถึงจากผู้ที่ชื่นชอบเรื่องสั้นอย่างเป็นวงกว้าง เขาก็เป็นที่พูดถึงจากผู้ที่ชื่นชอบนิยายแฟนตาซีเยาวชนเพราะเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสเช่นกัน เวลาของทั้งสองอย่างนี้ห่างกันแค่เพียงวันเดียว

‘อ่านเล่มสุดท้ายจบรวดเดียวเลย!’

‘ถึงตอนจบจะสมบูรณ์แล้ว แต่พอเห็นว่าเป็นตอนสุดท้ายของปรินซ์ออฟเทนนิสก็รู้สึกโหวงๆ ขึ้นมา อาจเป็นเพราะตัวละครในหนังสืออยู่กับฉันมาเกือบครึ่งปี เหมือนกับอยู่ๆ พวกเขาก็จากไปไกลอย่างนั้นเลย’

‘ทำใจอ่านเรื่องนี้จบไม่ได้เลย’

‘เล่มก่อนๆ ยืมเพื่อนมาอ่าน แต่วันนี้พอเห็นว่านิยายจบแล้ว เลยซื้อเล่มก่อนๆ หน้ามายกชุดเลย เพราะผมกะว่าจะเก็บนิยายเซ็ตนี้ขึ้นชั้น ไม่แน่อาจกลับมาอ่านใหม่’

‘ผู้บุกเบิกแนวการแข่งขันกีฬา’

‘ฉันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมีวันนึงที่ฉันโดนนิยายแนวการแข่งขันกีฬาตกขนาดนี้ ถึงอ่านนิยายแล้วจะยังตีเทนนิสไม่ได้ แต่นี่ก็ไม่ได้มีผลกับความชอบของฉันต่อนิยายเรื่องนี้เลย’

‘…’

คอมเมนต์ของบรรดานักอ่านปรากฏบนเว็บบอร์ดแสดงความคิดเห็นในคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ปรากฏในกระทู้สนทนาเกี่ยวกับนิยายจำนวนมาก ปรากฏในโพสต์ใหม่ของบัญชีผู้ใช้จำนวนมากในปู้ลั่ว ถึงขั้นปรากฏในโมเมนต์[1]คนจำนวนมากอีกด้วย

นิยายเรื่องนี้ประสบความสำเร็จมาก

มันไม่ได้เพียงมีอิทธิพลต่อนักอ่าน แต่ยังมีอิทธิพลต่อนักเขียนจำนวนมาก ก่อนที่ฉู่ขวงจะตีพิมพ์ปรินซ์ออฟเทนนิส การแข่งขันกีฬาเป็นประเภทนิยายที่ไม่เฉพาะกลุ่มจนเรียกได้ว่าร้างผู้คนเชียวละ ทว่าหลังจากที่นิยายเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ในตลาดก็ปรากฏนิยายแนวการแข่งขันกีฬาขึ้นมาอีกมาก

บ้างก็เขียนเกี่ยวกับบาสเกตบอล

บ้างก็เขียนเกี่ยวกับฟุตบอล

บ้างก็ถึงขั้นเขียนเกี่ยวกับกรีฑา

เรื่องที่โด่งดังที่สุดในนั้นมีชื่อว่า ‘สแลมดังก์’ นักเขียนถึงกับเป็นเฮ่อหมิงเซวียนซึ่งถูกฉู่ขวงเบียดตกอันดับในรายการซูเปอร์โนวา หลังจากได้อ่านนิยายของฉู่ขวง เฮ่อหมิงเซวียนก็ค้นพบแนวนิยายที่เหมาะสมกับตนเอง เขาก็ยังเขียนคำประกาศในปู้ลั่วของตนว่า ‘เป็นฉู่ขวงที่ชักนำให้ผมเดินเส้นทางสายนิยายแนวการแข่งขันกีฬานี้ เขาเป็นผู้บุกเบิกแนวนิยายเฉพาะกลุ่มของพวกเรา!’

นิยายแนวกการแข่งขันกีฬาก็ยังคงไม่เป็นที่นิยม

แต่ฉู่ขวงก็ทำให้เป็นประจักษ์แล้วว่านิยายแนวนี้ไม่ได้ไม่มีตลาด นิยายที่ยอดเยี่ยมต่อให้ใช้แนวการแข่งขันกีฬา ก็ทำให้ผู้อ่านควักกระเป๋าจ่ายอย่างว่าง่ายได้เช่นกัน ฉะนั้นแล้วถึงได้มีความสำเร็จของนักเขียนคนต่อๆ มา และนักเขียนที่เดินตามรอยฉู่ขวงแล้วประสบความสำเร็จ ในใจย่อมยกให้ฉู่ขวงเป็นแบบอย่างของนิยายแนวการแข่งขันกีฬา!

ในสายอาชีพ

ผู้คนจำนวนมากกำลังถกเถียงกันเรื่องการจบของเรื่องนี้ ในใจของทุกคนนั้นคล้ายคลึงกับบรรณาธิการคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ล้วนแต่รู้สึกว่าหลินเยวียนเป็นเด็กใหม่ที่ช่างเอาแต่ใจ ที่ถึงกับตัดจบหนังสือขายดีอย่างปรินซ์ออฟเทนนิสง่ายๆ แบบนี้!

‘เขาชอบเนื้อๆ ไม่ใส่น้ำเหรอ’

‘หนึ่งล้านตัวอักษรก็จบซะแล้ว’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน