Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 900

ตอนที่ 900 ผมกับฉู่ขวงสูสีกันห้าสิบห้าสิบ

ราชวงศ์ปลาการบันทึกเพลงกับหลินเยวียน กระบวนการคล่องตัวเป็นอย่างมาก เพราะการทำงานร่วมกันมานานก็เหมือนกับผู้กำกับที่ทำงานกับนักแสดง

เข้าใจเข้าโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก…

หลินเยวียนกับนักร้องในราชวงศ์ปลา เองก็มีความเข้าขากันในแบบเดียวกัน

ใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์

เพลงทั้งหมดก็ถูกบันทึกเสียงเสร็จเรียบร้อยอย่างราบรื่น

การเลือกให้จ้าวอิ๋งเก้อและเฉินจื้ออวี่ร้องคู่กันในครั้งนี้ แน่นอนว่ามีเหตุผลที่ชัดเจนรองรับ

เนื่องจากซุนเย่าหั่วและเจียงขุยในราชวงศ์ปลา ได้ก้าวขึ้นเป็นราชาและราชินีเพลงไปแล้ว หลินเยวียนจึงต้องการผลักดันให้สมาชิกคนอื่นๆ ในก้าวไปสู่จุดสูงสุดเช่นเดียวกัน การทำเช่นนี้จึงเป็นการจัดสรรที่สมเหตุสมผล

เขาไม่ต้องการมุ่งดันแค่คนสองคนอย่างหนักจนเกินไป

ในระหว่างกระบวนการนี้ เสียงตอบรับจากโลกออนไลน์เกี่ยวกับซีรีส์ มังกรหยกก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ

ในบัญชีทางการของสตาร์ไลท์

พื้นที่แสดงความคิดเห็นเต็มไปด้วยเหล่าแฟนพันธุ์แท้ของนิยายต้นฉบับที่แสดงความตื่นเต้นกันล้นหลาม

สำหรับนิยายซึ่งดัดแปลงเป็นซีรีส์ ผู้ที่ตั้งตารอคอยมากที่สุดก็มักจะเป็นแฟนๆ ของต้นฉบับเหล่านี้นั่นเอง

ปรากฏว่า

ในขณะนั้นเอง

ปู้ลั่วภาพยนตร์ก็ได้ประกาศข่าวสำคัญว่า

‘ซีรีส์พิชิตพยัคฆ์ซึ่งดัดแปลงจากผลงานของอาจารย์หลิ่วเยี่ยเตา จะออกอากาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 เดือนนี้ โปรดติดตามชม!’

อย่าลืมว่า

ในวงการซีรีส์ช่วงนี้กำลังเกิดกระแสความนิยมแนวกำลังภายในอย่างร้อนแรง

ทุกๆ ระยะจะมีการโปรโมตหรือประกาศวันออกอากาศของผลงานรีเมกจากนิยายกำลังภายในคลาสสิก และบางเรื่องก็พร้อมออกฉายทันที

หลินเยวียนเองก็ถือโอกาสนี้หยิบปากกาเขียนขึ้นมา

ในบรรดาซีรีส์แนวนิยายกำลังภายในที่ถูกดัดแปลงในช่วงนี้ พิชิตพยัคฆ์ซึ่งเป็นผลงานร่วมกันระหว่างปู้ลั่วและอาจารย์หลิ่วเยี่ยเตา ถือเป็นผลงานที่ได้รับความนิยมสูงสุด และการเลือกออกอากาศในเดือนนี้ก็เป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง

และมีผู้ชมจำนวนมากตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ

เนื่องจากเรื่องพิชิตพยัคฆ์ของหลิ่วเยี่ยเตา นับว่าเป็นนิยายกำลังภายในที่ตราตรึงในความทรงจำของผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งยังถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่เป็นตัวแทนของปรมาจารย์นิยายกำลังภายในท่านนี้

อิทธิพลของผลงานเรื่องนี้ยิ่งใหญ่เสียจนเหนือกว่าหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอเวอร์ชันรีเมกของสตาร์ไลท์ที่เคยออกฉายมาก่อนหน้านี้เสียอีก

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง!

ละครเรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงบทโดยอาจารย์หลิ่วเยี่ยเตา ซึ่งเป็นผู้เขียนนิยายต้นฉบับด้วยตัวเอง!

ต่างจากละครกำลังภายในเรื่องอื่นๆ ที่มักจะถูกดัดแปลงบทโดยนักเขียนบททั่วไป แทบไม่เคยมีต้นฉบับที่ผู้เขียนลงมือปรับบทเอง

ด้วยเหตุนี้

ทุกคนจึงอยากรู้ว่าอาจารย์หลิ่วเยี่ยเตาจะดัดแปลงผลงานชิ้นเอกของตนเองพิชิตพยัคฆ์ออกมาในรูปแบบใด

หรือเขาอาจจะเลียนแบบวิธีของฉู่ขวง ทำการล้างบางตัวละครในเรื่องพิชิตพยัคฆ์ของตนเอง เปลี่ยนแปลงตัวละครเดิมๆ และปล่อยให้เหล่าตัวร้ายเปิดฉากไล่ฆ่าอย่างบ้าคลั่ง?

ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงจะสนุกแน่

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้อาจารย์หลิ่วเยี่ยเตาเคยให้สัมภาษณ์พร้อมกล่าวอย่างมั่นใจว่า

“การดัดแปลงบทครั้งนี้คือการพลิกโฉมตัวผมเอง จะทำให้ผู้ชมรู้สึกทั้งประหลาดใจและตื่นเต้น”

คำพูดนี้ช่วยเรียกความสนใจให้กับพิชิตพยัคฆ์ได้มากทีเดียว

เดิมที การที่ซีรีส์เรื่องนี้จะออกอากาศในเดือนเดียวกับไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย

อย่างไรก็ตาม

สิ่งที่ทำให้ทุกคนถึงกับอึ้งจนตาค้างก็คือ!

ไม่นานหลังจากที่พิชิตพยัคฆ์ประกาศวันออกอากาศอย่างเป็นทางการ

สตาร์ไลท์ ก็ประกาศวันออกอากาศของมังกรหยกอย่างเป็นทางการเช่นกัน

‘มังกรหยก ผลงานกำลังภายในระดับตำนานของฉู่ขวง จะออกอากาศในวันที่ 23 เดือนนี้ โปรดติดตามชม!’

แบบนี้เลยเหรอ!?

เล่นกันแบบนี้เลย!

นี่มันจงใจสร้างความขัดแย้งชัดๆ!

สตาร์ไลท์ต้องจงใจแน่ๆ!

ซีรีส์เรื่องใหม่ของพวกเขาดันไปออกอากาศวันเดียวกับพิชิตพยัคฆ์ของ ปู้ลั่ว!?

แค่การออกอากาศในเดือนเดียวกันนั้นแทบจะเรียกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเป็นความบังเอิญ

แต่การออกอากาศวันเดียวกันแบบนี้

แถมยังประกาศวันฉายตามกันแบบนี้อีก?

นั่นทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!

ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็คึกคักขึ้นมาทันที!

นี่เป็นครั้งแรกที่ สตาร์ไลท์ แสดงท่าทีโจมตีคู่แข่งอย่างชัดเจนแบบนี้!

‘ความบาดหมางระหว่าง สตาร์ไลท์กับปู้ลั่วดูท่าจะไม่มีทางประนีประนอมกันได้แล้ว ปีนี้นักแสดงของ สตาร์ไลท์เลิกใช้ปู้ลั่วแล้วย้ายไปใช้บล็อกกันหมด แบบนี้เรียกว่าตัดสัมพันธ์กันโดยสมบูรณ์แล้วสินะ แถมตอนนี้ยังชนกันตรงๆ เลย?’

หลิ่วเยี่ยเตาเลิกคิ้วเล็กน้อย พยายามสงบอารมณ์ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ

“ถ้าเป็นการประชันด้วยซีรีส์ ผมคิดว่าผมกับฉู่ขวงสูสีกันห้าสิบห้าสิบ”

แต่ในใจของหลิ่วเยี่ยเตา เขาเข้าใจดีว่า…

ถ้าเทียบกับนิยาย คงสู้ไม่ได้แน่

มังกรหยกเรื่องนั้นแทบจะสร้างแนวใหม่ในวงการนิยายกำลังภายในเลยทีเดียว แม้แต่หลิ่วเยี่ยเตาเองก็ต้องยอมรับว่า ความสามารถของฉู่ขวงนั้นถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ในวงการกำลังภายใน

แต่ในส่วนของซีรีส์ มันยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

ไม่ใช่ว่านิยายดังแล้ว ซีรีส์จะดังตามไปด้วย

นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดี!

หลิงคงที่ยืนอยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจโล่งอก

ห้าสิบห้าสิบเหรอ? ผลลัพธ์แบบนี้ก็ไม่ได้แย่เกินไป

แค่พอมีโอกาสสู้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ตอนนี้เขาเลิกหลงตัวเองแล้ว หลังจากพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง ก็เริ่มตระหนักรู้ถึงตัวตนของเขาเอง

หลิงคงยังย้อนนึกไปถึงสิ่งที่ผ่านมา

หลังจากที่เขาบาดหมางกับสามสหาย อิ่งจือคือคนที่จัดการเขาอย่างหนักหน่วงที่สุด

เซี่ยนอวี๋ก็เคยเล่นงานเขาเหมือนกัน แต่ไม่ได้รุนแรงนัก

ส่วนฉู่ขวง?

เขาแทบไม่ได้ถูกอีกฝ่ายโจมตีเลย

ถ้าคราวนี้เขาสามารถใช้ซีรีส์ตอบโต้ฉู่ขวงได้สำเร็จ ต่อไปเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสามสหาย เขาก็อาจกู้หน้ากลับมาได้ไม่น้อย

แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

บาปกรรมที่อิ่งจือและเซี่ยนอวี๋ก่อไว้ ก็ขอให้ฉู่ขวงรับไปแทนแล้วกัน ใครใช้ให้พวกแกสามคนร่วมมือกันตลอด แถมยังเป็นปฏิปักษ์กับพวกปู้ลั่วตลอดเวลา?

แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็หนีไม่พ้นพวกสามคนนี้จริงๆ

คิดมาถึงตรงนี้ หลิงคงอดรู้สึกปวดหัวไม่ได้

แค่จะไปโถงทองคำฟังเพลง ก็ยังบังเอิญเจอเซี่ยนอวี๋เข้าอีก ทำเอาอึดอัดจนแทบไม่ไหว ตอนนี้หนีมาหากินในวงการซีรีส์ ยังไม่วายต้องเจอสามสหายอย่างเจ้าแก่ฉู่ขวงอีกตั้งแต่ผลงานเรื่องแรก! นี่มันเวรกรรมอะไรกัน!

…

หลังจบงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์เรื่องพิชิตพยัคฆ์

หัวข้อข่าวหนึ่งก็พุ่งขึ้นสู่หน้าพาดหัวข่าวของสื่อหลายสำนักทันที

[ซีรีส์เรื่องใหม่ของสตาร์ไลท์และปู้ลั่วออกอากาศวันเดียวกัน อาจารย์หลิ่วเยี่ยเตากล่าวว่า ‘ผมกับฉู่ขวงสูสีกันห้าสิบห้าสิบ!’]