เข้าสู่ระบบผ่าน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 899

ตอนที่ 899 เพลงประกอบ

ใช่แล้วทะเลสาบซีหูดังเปรี้ยงแล้วจริงๆ !

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาที่ทะเลสาบซีหูอย่างไม่ขาดสาย!

นักท่องเที่ยวบางคนถึงกับเปิด ‘ชมซีหูยามฟ้าหลังฝน’ ซึ่งเป็นวิดีโอโปรโมตทะเลสาบซีหู ดูไปพร้อมกับการเดินทางสำรวจสถานที่ในวิดีโออย่างเพลิดเพลิน และดูเหมือนจะสนุกไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว!

บางกลุ่มถึงขั้นจ้างมัคคุเทศน์

ระหว่างทาง มัคคุเทศน์ก็แนะนำสถานที่ต่าง พร้อมทั้งกล่าวถึงบทกวีของเซี่ยนอวี๋บทนั้นด้วย

“บทกวีชมซีหูยามฟ้าหลังฝน นี้เป็นผลงานของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ซึ่งแต่งขึ้นขณะเดินทางมาเที่ยวชมทะเลสาบซีหู มีบางคนในโลกออนไลน์ตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจเป็นผลงานที่อาจารย์เซี่ยนอวี๋เขียนเตรียมไว้ล่วงหน้า แต่ในวันนั้นมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่สามารถยืนยันได้ว่าอาจารย์เซี่ยนอวี๋แต่งบทกวีนี้ขึ้นโดยบังเอิญ ระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมที่ทางเขตทัศนียภาพซีหูจัดขึ้นในวันนั้น วันนั้นท้องฟ้าแจ่มใส แต่ช่วงเที่ยงกลับมีฝนโปรยปรายลงมาอย่างแผ่วเบา อาจารย์เซี่ยนอวี๋ในขณะนั้นคงสังเกตเห็นความงดงามแปลกตาของทะเลสาบซีหูยามฝนพรำ ขุนเขาถูกปกคลุมด้วยหมอกฝนบางเบา ค่อยๆ เลือนรางขึ้นเรื่อยๆ …”

มัคคุเทศน์พูดมาถึงตรงนี้ก็หยุดไปเล็กน้อย

เธอสังเกตเห็นว่านักท่องเที่ยวที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างพากันเงยหน้าขึ้นมองฟ้า บางคนบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด

“อะไรกัน!”

“ทำไมฝนถึงยังไม่ตก!”

เมื่อได้ยินดังนั้น มัคคุเทศน์ก็มุมปากกระตุกเล็กน้อย

นักท่องเที่ยวเหล่านี้ช่างมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครจริงๆ !

โดยปกติแล้ว เมื่อสภาพอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลง นักท่องเที่ยวก็มักจะกังวลกันไปต่างๆ นานา กลัวว่าฝนจะตกลงมากะทันหันจนทำให้หมดสนุก

แต่วันนี้กลับตรงกันข้าม

มีหลายคนที่ถึงกับรอคอยให้ฝนตก!

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนทะเลสาบซีหูในวันนี้ ดูเหมือนจะอยากเห็นภาพบรรยากาศ ‘ยามฟ้าหลังฝน’ ของทะเลสาบซีหู

น่าเสียดาย

สภาพอากาศเช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะพบได้ทุกวัน

ด้วยศักยภาพทางการเงินของเขตทัศนียภาพทะเลสาบซีหู พวกเขาสามารถจัดให้มีการทำฝนเทียมได้ แต่ของแบบนั้นจะเทียบกับเสน่ห์ของฝนที่ตกลงมาตามธรรมชาติได้อย่างไร ซ้ำร้ายยังอาจดูจงใจเกินไปด้วย

ในขณะเดียวกัน

สื่อมวลชนเองก็ไม่ได้อยู่ว่าง

มีข่าวหลายสำนักกำลังรายงานเกี่ยวกับประเด็นนี้อยู่ด้วย

“ฤดูกาลท่องเที่ยวในปีนี้ดูเหมือนจะมาเร็วกว่าปกตินะครับ เริ่มจากการจราจรติดขัดที่เขาหวาซาน และในช่วงสองวันที่ผ่านมา ทะเลสาบซีหูก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาอย่างเนืองแน่น ความคึกคักของเขาหวาซานมาจากนิยายของฉู่ขวง ส่วนความนิยมของซีหูก็มาจากบทกวีของเซี่ยนอวี๋…”

ในข่าว

ภาพของซีหูที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

ผู้ประกาศข่าวกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงเป็นเพื่อนสนิทกัน มาวันนี้คนหนึ่งเขียนถึง ประลองกระบี่ที่เขาหวาซานในหนังสือ อีกคนเขียนถึงฟ้าหลังฝนที่ซีหู กลายเป็นว่าทำให้สองแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ต่างได้รับความนิยมพร้อมกัน นี่นับว่าเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจจริงๆ ครับ”

ในตอนนั้น

ภาพในหน้าจอเปลี่ยนไปยังบทกวีชมซีหูยามฟ้าหลังฝนที่เซี่ยนอวี๋เขียนด้วยลายมือของตนเอง ตัวอักษรข่ายซูที่อ่อนช้อยงดงามดึงดูดความสนใจของผู้ชมในทันที

“ทุกท่านคงสังเกตเห็นกันแล้ว”

ผู้ประกาศกล่าว “งานเขียนตัวอักษรของอาจารย์เซี่ยนอวี๋งดงามมากจนถึงระดับปรมาจารย์ งานเขียนอักษรคัดลายมือของท่านได้รับการยกย่องแม้กระทั่งจากผู้เชี่ยวชาญด้านพู่กันในจ้าวโจวเอง หลายคนถึงขั้นนำบทกวีบทนี้ของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ไปเปรียบเทียบกับลายเซ็นที่ฉู่ขวงเขียนในอดีต ผลสรุปที่ได้คือ ลายมือของอาจารย์เซี่ยนอวี๋เหนือกว่าอีกฝ่ายไปอีกขั้นหนึ่งครับ”

นั่นก็แน่นอนอยู่แล้ว

ลายเซ็นของฉู่ขวงในตอนนั้น ระดับฝีมือการคัดอักษรของหลินเยวียนถือว่าอยู่ในระดับมืออาชีพ

แต่การเขียนบทกวีครั้งนี้ ระดับฝีมือการเขียนตัวอักษรของหลินเยวียนพัฒนาไปถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว

แม้ว่าครั้งแรกจะเป็นลายมือที่เขียนด้วยปากกาหมึกซึม ส่วนครั้งหลังเป็นลายมือที่เขียนด้วยพู่กัน ความสามารถในการเปรียบเทียบอาจไม่ชัดเจนเท่าไรนัก แต่ความแตกต่างในฝีมือก็ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจนอยู่ดี

อิทธิพลของวิดีโอโปรโมตและบทกวียังคงทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อย

ความคึกคักของทะเลสาบซีหูในครั้งนี้ตามหลังเขาหวาซานมาติดๆ !

บนโลกออนไลน์

ชาวเน็ตต่างพากันพูดคุยและถกเถียงกันไปสารพัด

บางคนถึงกับกล่าวว่า ‘กระแสนี้มันช่างให้ความรู้สึกของเซี่ยนอวี๋ใต้ ฉู่ขวงเหนือจริงๆ เลยนะ ผมเพิ่งลองเปิดแผนที่ดู แล้วพบว่าตำแหน่งของทะเลสาบซีหูกับเขาหวาซานนั้นดูลงตัวมาก ทะเลสาบซีหูอยู่ค่อนไปทางใต้ ส่วนเขาหวาซานอยู่ค่อนไปทางเหนือ’

บังเอิญเสียจริง!

สิ่งที่ทำให้หลินเยวียนประหลาดใจก็คือ

ชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมของเขากลับเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการโปรโมตซีหูในครั้งนี้

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้

ก่อนหน้านี้หลินเยวียนก็เคยแต่งบทกวีมาก่อน แต่แทบไม่มีบทไหนที่ช่วยผลักดันความโด่งดังของเขาได้สูงขนาดนี้

“หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับอิทธิพลของทะเลสาบซีหูเอง?”

จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนทะเลสาบซีหูนั้นมหาศาลเกินจินตนาการ บทกวีที่ถูกผนวกเข้ากับอิทธิพลที่ทะเลสาบซีหูมีอยู่แล้ว ส่งผลให้บทกวีได้รับการขยายความนิยมสูงสุด บางทีนี่อาจเป็นคำตอบของการที่ชื่อเสียงของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในครั้งนี้ก็ได้!

“อื้ม”

จินมู่ไม่ได้ถามรายละเอียดเพิ่มเติม แต่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เมื่อเช้านี้สตาร์ไลท์เพิ่งประกาศอย่างเป็นทางการว่ามังกรหยกเวอร์ชันซีรีส์จะเริ่มออกอากาศปลายเดือนนี้ คุณได้ยินข่าวนี้หรือยัง?”

“อื้ม”

หลินเยวียนพยักหน้า

กู้ตงได้บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว มังกรหยกดำเนินไปอย่างราบรื่น ตั้งแต่ขั้นตอนการถ่ายทำไปจนถึงกระบวนการโพสต์โพรดักชัน ถึงอย่างไรทีมงานกองถ่ายของสตาร์ไลท์มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก งานถ่ายทำไปพร้อมกับการออกอากาศยังเป็นเรื่องที่พวกเขาทำได้สบาย นับประสาอะไรกับการถ่ายทำที่มีการเตรียมพร้อมอย่างดีเช่นนี้เลย

“คุณเพลงประกอบซีรีส์ทำเสร็จหรือยังครับ?”

“อีกไม่กี่วันก็เสร็จแล้วครับ”

ซีรีส์มังกรหยกต้องการเพลงประกอบสามสี่เพลง หลินเยวียนตั้งใจให้สมาชิกราชวงศ์ปลารับผิดชอบทั้งหมด

ตัวอย่างเช่นเพลงโลหิตเหล็กใจภักดิ์ซึ่งเป็นเพลงคู่ชายหญิง

หลินเยวียนวางแผนให้เฉินจื้ออวี่และจ้าวอิ๋งเก้อร้องร่วมกัน โดยเขาจะสร้างสรรค์เพลงที่เหมาะกับเอกลักษณ์เสียงของพวกเขาทั้งสอง นี่จะเป็นเพลงที่แสดงตัวอย่างความเป็นเพลงประสานเสียงระดับตำราเรียนเลยทีเดียว!

นอกจากนี้ยังมีเพลง ‘ในโลกนี้เจ้าดีที่สุดเสมอ’ ซึ่งร้องคู่โดยเฉินจื้ออวี้และจ้าวอิ๋งเก๋อเช่นกัน

ทั้งสองเพลงนี้เป็นเพลงภาษาฉี

ส่วนที่เหลือจะเป็นดนตรีบรรเลงเป็นหลัก โดยบางฉากแค่มีดนตรีประกอบก็เพียงพอแล้ว การใส่เนื้อร้องอาจทำให้เสียบรรยากาศของเรื่องไป

อย่างไรก็ตาม หลินเยวียนพิจารณาว่าผู้ชมอาจอยากฟังเพลงที่เป็นภาษาจีนกลางด้วย เขาจึงเตรียมเพลง ‘ฟ้าดินล้วนอยู่ในใจข้า’ เพิ่มเข้ามา

หลายคนอาจไม่รู้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ถูกประเมินค่าต่ำไปมาก เพราะอินโทรของเพลงนั้นยาวเกินไป และยังมาจากเวอร์ชันมังกรหยก ของจางจี้จงอีกด้วย

เวอร์ชันนี้เป็นประเด็นถกเถียงอยู่มาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อความแพร่หลายของเพลงนี้

ที่จริงแล้ว หลินเยวียนคิดว่าเวอร์ชันนี้นับว่าเป็นผลงานที่โดดเด่นในบรรดาผลงานรีเมกหลายครั้ง

เพียงแต่ในช่วงเวลานั้น การวิจารณ์ผู้กำกับหนวดเฟิ้มคนนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ดูราวกับเป็นความถูกต้องทางการเมือง ไปอย่างน่าประหลาด

ในความเป็นจริง เพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลงที่หาได้ยากซึ่งไม่มีองค์ประกอบเกี่ยวกับความรัก แต่เต็มไปด้วยพลังและความยิ่งใหญ่ของจิตวิญญาณนักสู้ของแนวกำลังภายใน

แม้ท่อนอินโทรจะยาว ทว่าเสียงซอหัวม้าและการเปลี่ยนจังหวะของดนตรีกลับสร้างความฮึกเหิมได้อย่างยอดเยี่ยม เนื้อร้องก็เขียนออกมาได้ดีมาก ชวนให้สัมผัสถึงกลิ่นอายของนิยายกำลังภายในอย่างเข้มข้น

เนื้อเพลงที่มีท่อนว่า ‘อาชาหนึ่งตัวทะยานไป ยิงธนูใส่อินทรี ฟ้าดินล้วนอยู่ในใจข้า’ นั้นสะท้อนถึงความลึกซึ้งและความจริงจังได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเข้ากับบรรยากาศของมังกรหยก ซึ่งเชื่อมโยงกับบริบททางประวัติศาสตร์ในยุคสมัยนั้นได้อย่างแยบยล

หลินเยวียนมั่นใจว่า

เมื่อมีบทเพลงเหล่านี้นำมาประกอบ ซีรีส์มังกรหยกจะไม่ทำให้ผู้ชมต้องผิดหวังอย่างแน่นอน

[1] คู่รัก มาจากการถอดความหมายตรงตัวจากชื่อเรื่องต้นฉบับภาษาจีน ซึ่งได้ความว่า ‘คู่รักจอมยุทธ์อินทรี’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน