เข้าสู่ระบบผ่าน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 926

ตอนที่ 926 พบก๊วยเซียงอีกครั้ง

เดือนมิถุนายนมาพร้อมกับแสงแดดแผดเผา

ภาพยนตร์เรื่องผีชีวะยังคงฉายต่อเนื่องจนถึงกลางเดือนและยังไม่มีทีท่าว่าความนิยมจะลดลง

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ จู่ๆ สตาร์ไลท์ก็ปล่อยซีรีส์ใหม่ออกมา เผยแพร่ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ในเวลาเดียวกัน

ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี!

ในฐานะที่เป็นภาคต่อของมังกรหยก ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีไม่เพียงแต่สานต่อกระแสของภาคก่อนแต่ยังทำได้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม!

สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า

เรตติ้งตอนแรกพุ่งทะลุสามเปอร์เซ็นต์!

ไม่เพียงแค่เหล่านักแสดงที่โด่งดังขึ้นหลังจากซีรีส์ออกอากาศ แต่เพลงประกอบที่เซี่ยนอวี๋เป็นผู้ประพันธ์ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน!

หวนคืน

โรงเตี๊ยมโลกีย์

ใต้หล้าหาใดเปรียบ

คำรักดั่งตำนาน

ผู้มีรักในใต้หล้า

ทั้งห้าเพลงถูกปล่อยออกมาเป็นอัลบั้มเพลงประกอบซีรีส์

น่าเสียดายที่อัลบั้มนี้ถูกปล่อยในช่วงกลางเดือน จึงไม่ส่งผลต่อชาร์ตเพลงประจำฤดูกาลมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นทุกเพลงต่างก็ติดสิบอันดับแรกได้ไม่ยาก ทั้งยังช่วยเพิ่มกระแสในการฟื้นคืนชีพของผลงานแนวกำลังภายในได้อีกด้วย

และในวันดียวกันนั้นเอง

หลินเยวียนก็ส่งต้นฉบับดาบมังกรหยกให้กับจินมู่

แต่เมื่อจินมู่รับต้นฉบับมาเขากลับไม่ได้แสดงความตื่นเต้นเหมือนเช่นเคย เขากลับจ้องมองหลินเยวียน ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างระแวดระวัง

“คราวนี้มันไม่ดราม่าใช่ไหมครับ?”

“คราวนี้พระเอกเทพเน้นสะใจ”

หลินเยวียนต้องอธิบายอีกครั้ง

เพราะตอนนี้จินมู่เริ่มหมดความไว้วางใจกับเขาแล้ว

โชคดีที่สุดท้ายจินมู่ก็ยอมเชื่อหลินเยวียนอีกครั้ง ก่อนจะติดต่อไปยังเหล่าสยงหัวหน้าบรรณาธิการแผนกนิยายแฟนตาซีของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู

“ต้นฉบับนิยายเล่มใหม่ของฉู่ขวง ผมกำลังจะส่งให้คุณแล้วนะครับ”

“ยังเป็นแนวกำลังภายในอยู่ใช่ไหมครับ?”

“แผนของอาจารย์ฉู่ขวงคือการเขียนให้เป็นมังกรหยกไตรภาค นิยายเล่มใหม่ที่มีชื่อว่าดาบมังกรหยกนี้ จะเป็นเล่มสุดท้ายของมังกรหยกไตรภาคนี้ เพราะฉะนั้นแน่นอนว่ายังคงเป็นกำลังภายในครับ”

“มังกรหยกไตรภาค ดาบมังกรหยก?”

ดวงตาของเหล่าสยงเป็นประกายขึ้นมาทันใด ทว่าทันใดนั้นก็ปรากฏความเคลือบแคลงใจ “ครั้งนี้อาจารย์ฉู่ขวงมีการเตรียมการล่วงหน้าอะไรหรือเปล่าครับ?”

“ไม่มีครับ”

“งั้นก็ดี”

เหล่าสยงถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

เขายังกังวลว่าเจ้าแก่ฉู่ขวงจะงัดพล็อตเรื่องแบบเดียวกับเซียวเหล่งนึ่งขึ้นมาอีก

แม้ว่าท้ายที่สุดพล็อตเรื่องจะได้รับการแก้ไขในที่สุด แต่ช่วงเวลาสองวันนั้นที่บรรดาแฟนๆ ปิดล้อมคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ก็ทำให้ทุกคนตั้งแต่ผู้บริหารไปจนถึงพนักงานใจหายใจคว่ำ ด้วยกลัวว่าผู้อ่านจะเดือดดาลจนบุกเข้ามาทำลายข้าวของในกองบรรณาธิการ

แต่ว่า…

ฉู่ขวงเป็นคนที่ไว้ใจได้ที่ไหนกัน!

เหล่าสยงไม่กล้าฟังคำพูดของจินมู่เพียงฝ่ายเดียว

หลังจากวางสาย เขาจึงรีบพาบรรณาธิการทุกคนมาช่วยกันอ่านต้นฉบับของดาบมังกรหยกในทันที

อ่านไปหนึ่งวันเต็ม

ตกเย็น

ณ แผนกนิยายแฟนตาซี

ถึงแม้จะยังไม่มีบรรณาธิการคนไหนอ่านจบ ทว่าสีหน้าของทุกคนก็เต็มไปด้วยความโล่งใจ

เมื่อใกล้เลิกงาน

เหล่าบรรณาธิการก็เริ่มถกเถียงกันอย่างออกรสเกี่ยวกับเนื้อหาของนิยาย

“ในฐานะภาคจบของมังกรหยกไตรภาค นิยายเรื่องนี้ไม่นับว่าทำร้ายจิตใจคนอ่าน แต่กลับทำให้รู้สึกสะใจสุดๆ ด้วยซ้ำ!”

“ถึงเรื่องราวจะมีระยะห่างของเวลาที่กว้างมาก และตัวเอกที่แท้จริงจะโผล่ออกมาค่อนข้างช้า แต่ทุกอย่างที่ควรได้รับการอธิบายในภาคก่อนๆ ก็ได้รับการสรุปอย่างชัดเจนแล้ว”

“ก๊วยเซียงไม่มีคู่ครองไปตลอดชีวิตจริงด้วย”

“สาวๆ จากศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี ก็เป็นไปตามคาด เจอเอี้ยก้วยครั้งเดียว ชีวิตรักพังกันหมด”

“ส่วนที่สะเทือนใจที่สุดคือมองโกลชนะสงคราม และก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้งเสียชีวิตในศึกป้องกันเมืองเซียงเอี้ยง ฉากนี้ในนิยายจะถูกพูดถึงแค่ผ่านๆ แต่ก็ยังทำให้คนอ่านรู้สึกสะเทือนใจอยู่ดี แต่ด้วยการปูเรื่องในสองเล่มก่อนหน้า รวมถึงการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย ทำให้ผลกระทบทางอารมณ์ที่ผู้อ่านมีต่อเหตุการณ์นี้ลดลง”

“ตอนแรกผมนึกว่าตัวเอกคือก๊วยเซียงซะอีก”

“ฉันก็คิดว่าเป็นเตียกุนป้อ แต่ปรากฏว่าฉู่ขวงลากไปทีเดียว โอ้โห เตียกุนป้อกลายเป็นปรมาจารย์เตียซำฮงวัยเก้าสิบกว่าเฉยเลย”

“เตียบ่อกี้น่าจะเป็นพระเอกที่โผล่มาช้าที่สุดในประวัติศาสตร์นิยายเลยล่ะมั้ง?”

พูดคุยกันไปสักพัก

บรรณาธิการหยางเฟิงก็หันไปมองหัวหน้าบรรณาธิการเหล่าสยง “ผมมีไอเดียหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าควรพูดหรือเปล่า?”

เหล่าสยงเลิกคิ้ว “พูดมาเลย”

หยางเฟิงคลี่ยิ้มก่อนเอ่ยว่า

“เนื้อหาและการปูเรื่องช่วงต้นของนิยายเล่มนี้ค่อนข้างยาว เปิดเรื่องด้วยก๊วยเซียงเป็นตัวดำเนินเรื่อง จากนั้นก็เปลี่ยนไปใช้เตียซำฮงเป็นตัวเชื่อมโยงเนื้อเรื่อง เหมือนเป็นการหลอกล่อผู้อ่านให้สับสน แถมยังซับซ้อนกว่าที่ทำในมังกรหยกซะอีก งั้นพวกเราลองปล่อยตอนต้นๆ ของเรื่องออกไปให้อ่านทางออนไลน์ก่อน เพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่าน จากนั้นค่อยประกาศเปิดตัวฉบับเต็ม จะเข้าใจว่าเป็นกลยุทธ์การโปรโมตหนังสือที่แหวกแนวหน่อยก็ได้ครับ”

‘อย่าเพิ่งพูดถึงจักรวาลต่างๆ ก่อน สิ่งที่ฉันกังวลที่สุดตอนนี้คือ เขาจะมาไม้เดิมอีกไหม’

‘ถึงฉู่ขวงจะบ้าดีเดือดแค่ไหน แต่หลังจากเรื่องประตูมังกรเกิดขึ้น เขาก็น่าจะไม่กล้าทำให้คนอ่านหัวร้อนขนาดนั้นอีก…ล่ะมั้ง?’

‘ก๊วยเซียง ก๊วยเซียง น้องก๊วยเซียงของฉันต้องมีบทเด่นสิ นั่งรออ่านตอนสองทุ่มแล้วเนี่ย!’

‘อ๊ากกก หวังว่าหนังสือเล่มใหม่จะเป็นเรื่องของก๊วยเซียงนะ!’

ครั้งนี้กลับไม่มีผู้อ่านคนไหนกล้าขอให้เจ้าแก่ฉู่ขวงปลดปล่อยจินตนาการตามใจชอบอีกแล้ว

ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีทำให้ผู้อ่านทุกคนได้เห็นขีดจำกัดต่ำสุดของเจ้าแก่ฉู่ขวงคนนี้แล้ว ขืนยังปล่อยให้เขาเขียนแบบไม่ยั้งมือละก็ เขาอาจจะแต่งเนื้อเรื่องที่โหดร้ายและบ้าคลั่งออกมาอีกก็ได้!

ท่ามกลางความคิดเห็นมากมาย

ผู้อ่านทั้งคาดหวังและกังวลใจไปพร้อมกัน!

จากนั้นบล็อกก็ร่วมมือกับการโปรโมต เปิดโหมดกระจายข่าวไปทั่วอินเทอร์เน็ต!

ข่าวว่าฉู่ขวงจะปล่อยนิยายเล่มใหม่คืนนี้เวลาสองทุ่มตรงบนแพลตฟอร์มบล็อกถูกเผยแพร่ออกไปถึงปู้ลั่วและเว็บบอร์ดใหญ่ๆ อย่างรวดเร็ว

ในปู้ลั่ว

ผู้ใช้จำนวนมากเริ่มออกมาบ่นกัน

‘ให้ตายเถอะ เจ้าแก่ฉู่ขวงบีบให้ฉันต้องไปใช้บล็อก?’

‘ถ้าไม่มีบัญชีบล็อก ก็จะอดอ่านนิยายเล่มใหม่ของเขา?’

‘ลาก่อนปู้ลั่ว’

‘บล็อก ฉันมาแล้ว!’

‘เพื่อก๊วยเซียง เทพธิดาของผม!’

‘ให้มันได้อย่างนี้สิ ที่จริงแล้วพวกคุณก็ทำเพื่อเจ้าแก่ฉู่ขวงทั้งนั้นแหละ’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงของคุณต่างหาก เจ้าแก่ฉู่ขวงที่ทุกคนเกลียด ใครอยากได้ก็เอาไป ฉันเลือกเซี่ยนอวี๋ดีกว่า!’

‘ดาบมังกรหยกงั้นเหรอ แค่มังกรหยกยังไม่พอสินะ คราวนี้เขามาเป็นดาบแล้ว?’

ในค่ำคืนที่ผู้บริหารของปู้ลั่วต้องนั่งดูปริมาณผู้ใช้ลดลงอีกครั้งและพากันสบถด่าด้วยความหัวเสีย บล็อกกลับได้รับความสนใจจากผู้คนทั้งอินเทอร์เน็ต!

เมื่อเวลาสองทุ่มตรงมาถึง

บทแรกของนิยายใหม่ของฉู่ขวงก็ถูกเผยแพร่ออกมาตามกำหนดเวลา!

ขณะที่แพลตฟอร์มบล็อกมีปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ก๊วยเซียงก็ควบเจ้าลาตัวน้อยของเธอ ค่อยๆ เดินทอดน่องเข้ามาในสายตาของผู้อ่านนับไม่ถ้วน…

และในวินาทีนั้นเอง

หัวใจของผู้อ่านพลันหลอมละลาย

หลังจากศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี เราได้พบกับก๊วยเซียงอีกครั้ง!

……………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน