เข้าสู่ระบบผ่าน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 927

ตอนที่ 927 อย่าคิดจะหลอกกันอีก

นี่คือบทแรกของดาบมังกรหยก

ชื่อบทฉบับปรับปรุงใหม่คือ ‘ไกลสุดฟ้า คะนึงหามิเคยเลือน’

บนเส้นทางขึ้นเขาเส้าหลิน มารบูรพาน้อยก๊วยเซียงในชุดเหลือง เดินทางท่องยุทธภพไปพร้อมกับลาหนึ่งตัวและกระบี่หนึ่งเล่ม

เดิมที นับตั้งแต่ที่ก๊วยเซียงแยกจากเอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งที่เขาหวาซาน นางไม่ได้รับข่าวคราวของทั้งคู่เลยตลอดสามปีที่ผ่านมา

ด้วยความคิดถึงในใจ จึงขออนุญาตบิดามารดาออกเดินทางท่องเที่ยว เพื่อเสาะหาความงามของขุนเขาและสายน้ำ ทว่าความจริงแล้ว จุดประสงค์หลักของนางคือการสืบข่าวคราวของเอี้ยก้วย

ทว่าหลังจากกล่าวอำลาในวันนั้น สามีภรรยาคู่นี้ก็หายลับไปจากยุทธภพ ไม่รู้ว่าไปหลบเร้นอยู่ที่ใดกันแน่

ก๊วยเซียงเดินทางจากเหนือจรดใต้ จากตะวันออกไปถึงตะวันตก เรียกได้ว่าแทบจะย่ำครบครึ่งหนึ่งของดินแดนตงง้วน แต่นางก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวของวีรบุรุษอินทรีเอี้ยก้วยแม้แต่น้อย

กล่าวได้ว่า

ในบทเปิดของนิยายเล่มใหม่นี้ ฉู่ขวงได้พาผู้อ่านทุกคนย้อนกลับไปสัมผัสความรักข้างเดียวของก๊วยเซียงที่มีต่อเอี้ยก้วยอีกครั้ง

ต้นฉบับบรรยายไว้ดังนี้ [ก๊วยเซียงมิได้ต้องการพบสองสามีภรรยาโดยตรง ขอเพียงได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับการท่องยุทธภพของเอี้ยก้วย นางก็รู้สึกพึงพอใจเป็นที่สุดแล้ว]

จากนั้น เนื้อเรื่องก็เริ่มดำเนินต่อไป

หลวงจีนกักเอี้ยงได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

หลวงจีนน้อยเตียกุนป้อได้กลับมาสู่เรื่องราว

ฮ่อจ๊กเต๋าสามปราชญ์แห่งคุนหลุนจากแดนตะวันตกก็ออกโรง

เรื่องราวทั้งหมดดำเนินไปโดยมีวัดเส้าหลินเป็นศูนย์กลาง

และแน่นอน มุมมองหลักของเรื่องยังคงอยู่ที่ก๊วยเซียง

บทแรกนี้มีความยาวถึงสองหมื่นตัวอักษร ทุกครั้งที่บรรยายถึงความคิดจิตใจของมารบูรพาน้อยก๊วยเซียง มักจะเต็มไปด้วยเงาของวีรบุรุษอินทรีอยู่เสมอ นั่นทำให้ผู้อ่านพลอยรู้สึกทั้งเศร้าและสะท้อนใจไปพร้อมกัน

ไม่นานนัก

พื้นที่แสดงความคิดเห็นใต้บทความก็เต็มไปด้วยข้อความแน่นขนัด!

ฉู่ขวงเพียงแค่ใช้คำสองหมื่นคำแรกเป็นตัวจุดประกาย อิทธิพลที่สั่งสมมาจากมังกรหยกและศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีได้ระเบิดออกมาอย่างเต็มที่!

‘เปิดเรื่องด้วยมุมมองก๊วยเซียง สมบูรณ์แบบ!’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงรู้ใจคนอ่านมากเกินไปแล้วแล้ว เปิดมาวางไพ่ตายเป็นก๊วยเซียงทันที แถมยังผูกเรื่องเข้ากับการพบเอี้ยก้วยเพียงครั้งเดียว พลาดพลั้งทั้งชีวิตได้อย่างแยบยล ดึงดูดผู้อ่านได้ตั้งแต่แรกเลย!’

‘ตัวละครหลายตัวก็มาจากยุคศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี!’

‘งักเอี้ยงกับเตียกุนป้อ รวมถึงเพื่อนของเอี้ยก้วยอย่างหลวงจีนบ้อเส็ก แต่ถึงแม้ว่าจะมีการกล่าวถึงวีรบุรุษอินทรีอยู่ตลอดทั้งบท กลับไม่มีเอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งออกมาปรากฏตัวจริงๆ เลย’

‘เปิดเรื่องได้ดีมาก!’

‘วัดเส้าหลินได้มีบทบาทกับเขาสักที!’

แต่ในขณะที่หลายคนชื่นชม ก็มีเสียงโต้แย้งขึ้นมาเช่นกัน

‘ทุกคนบอกว่าดีงามกันหมด งั้นฉันขอติหน่อยแล้วกัน หนังสือเล่มนี้อิงกับเซ็ตติงเก่ามากเกินไปหรือเปล่า ในสองเล่มก่อน ไม่ว่าจะเป็นศึกประลองกระบี่เขาหวาซาน หรือการแนะนำยอดฝีมือระดับสูงในยุทธภพ ไม่เห็นจะมีใครพูดถึงเส้าหลินเลย แล้วทำไมอยู่ๆ ในเล่มนี้ เปิดเรื่องมาวัดเส้าหลินถึงโดดเด่นขึ้นมาแบบนี้เลย’

‘มันดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงขุดหลุมใหญ่ขนาดนี้ ทนอ่านต่อไปก่อน!’

การเปิดตัวของวัดเส้าหลินในนิยายเล่มใหม่ ยกระดับให้วัดเส้าหลินดูทรงพลังขึ้นอย่างมาก

ทั้งที่ในยุคของมังกรหยกและศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี วัดเส้าหลินแทบไม่มีบทบาทในเหตุการณ์ใหญ่ๆ ของยุทธภพเลย ทำให้บางคนรู้สึกว่าจุดนี้ไม่สมเหตุสมผลนัก

แน่นอน

ไม่มีใครยึดติดกับรายละเอียดปลีกย่อยมากขนาดนั้น

หลังจากที่ฉู่ขวงปล่อยบทแรกของดาบมังกรหยกออกมา ความนิยมของนิยายก็พุ่งทะยานขึ้นติดฮ็อตเสิร์ชในทันที กระแสการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถึงขั้นกลบข่าวซุบซิบดราม่าในวงการบันเทิงช่วงนี้ไปหมดสิ้น!

อันดับฮอตเสิร์ช

อันดับ 1: #ก๊วยเซียง

อันดับ 2: #ดาบมังกรหยก

อันดับ 5: #พบเอี้ยก้วยเพียงครั้งเดียว พลาดพลั้งทั้งชีวิต

จากห้าอันดับแรกของฮ็อตเสิร์ช มีถึงสามหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับดาบมังกรหยก!

ต้องไม่ลืมว่า นี่เป็นเพียงแค่บทแรกของนิยายเท่านั้น!

ลองคิดดูว่ามีผู้อ่านมากมายแค่ไหนที่ตั้งใจล็อกอินเข้าไปในบล็อกเพื่ออ่านบทแรกของนิยายเรื่องใหม่ของฉู่ขวง

แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ

เว็บบอร์ดต่างๆ ที่คล้ายคลึงกันต่างก็พูดถึงดาบมังกรหยก

แม้แต่ปู้ลั่วก็หนีไม่พ้นกระแสนี้!

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

แม้ว่าตอนนี้เซี่ยนอวี๋ ฉู่ขวง และอิ่งจือจะไม่ได้อยู่ในปู้ลั่วอีกต่อไป แต่การจัดอันดับฮ็อตเสิร์ชบนปู้ลั่วยังคงถูกพวกเขายึดครองเป็นระยะๆ ตามที่มีผู้ใช้รายหนึ่งให้ความเห็นว่า

เจ็บไม่มาก

แต่เสียหน้าเต็มๆ

แต่ปู้ลั่วกลับไม่กล้าแบนหัวข้อที่เกี่ยวกับทั้งสามคนนี้ เพราะหากทำเช่นนั้น ผู้ใช้จะลุกฮือขึ้นประท้วงทันที และพวกเขาก็ควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่

แต่เมื่อผู้อ่านจำนวนมากได้อ่านบทแรกของดาบมังกรหยกแล้ว

จู่ๆ ก็มีหัวข้อใหม่พุ่งทะยานขึ้นสู่การจัดอันดับฮ็อตเสิร์ชในทันที!

หัวข้อนั้นก็คือ #ใครคือตัวเอกของดาบมังกรหยก

และเหตุผลที่หัวข้อนี้กลายเป็นประเด็นนั้นช่างเรียบง่าย นั่นก็เพราะมีชาวเน็ตจำนวนมากเริ่มถกเถียงกันว่าใครคือตัวเอกตัวจริงของนิยายเรื่องใหม่ของฉู่ขวง!

ชาวเน็ตแบ่งออกเป็นสามกลุ่มหลักๆ

กลุ่มแรกเชื่อว่าก๊วยเซียงคือตัวเอกของเรื่อง

‘เนื้อหาในบทแรกทั้งหมดถูกเล่าผ่านมุมมองของก๊วยเซียง ดังนั้นตอนที่เราอ่าน เราก็เหมือนได้มองเรื่องราวผ่านสายตาของเธอ ถ้าเธอไม่ใช่ตัวเอก แล้วใครจะเป็นตัวเอก?’

แต่ก็มีบางคนแย้งว่า

‘ฉันไม่ได้รังเกียจที่ตัวเอกเป็นผู้หญิงนะ จริงๆ แล้วฉันชอบก๊วยเซียงมาก ฉันจะดีใจด้วยซ้ำถ้าก๊วยเซียงจะเป็นตัวเอก แต่ฉู่ขวงไม่เคยเขียนนิยายที่มีผู้หญิงเป็นตัวเอกเลยสักเรื่อง!’

‘พอเถอะ พระเอกยังไม่โผล่มาหรอก!’

‘ต้องใช้ตรรกะย้อนกลับในการวิเคราะห์นะ! อย่าลืมว่าฉู่ขวงคือปรมาจารย์แห่งกลเม็ดผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ ตัวเอกเรื่องนี้ยังไงก็ต้องออกมาอยู่แล้ว สองเรื่องก่อนตัวเอกโผล่มาช้าตลอด เพราะงั้นถ้าคราวนี้โผล่มาเร็วก็ไม่แปลกล่ะมั้ง เขาชอบทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับพวกเรา แล้วหักมุมใส่จนพวกเราหน้าแตก คราวนี้ฉันจะไม่หลงกลแล้ว!’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงนี่มันร้ายจริงๆ แค่หาพระเอกยังเล่นเอาปวดหัวขนาดนี้เลย!’

ในวงการนิยายกำลังภายใน

มีคนเห็นกระแสถกเถียงกันในโลกออนไลน์แล้วอดหัวเราะไม่ได้

‘แค่ตอนแรกก็ทำให้คนเถียงกันขนาดนี้ มีแค่ฉู่ขวงคนเดียวที่ทำได้!’

‘เมื่อไหร่ฉันจะเปิดนิยายแล้วสร้างกระแสแบบนี้ได้บ้างนะ?’

‘กวาดฮ็อตเสิร์ชซะขนาดนั้น คนพูดถึงไปทั่วอินเทอร์เน็ต คนที่ไม่รู้เรื่องคงคิดว่าเขาปล่อยทั้งเล่มออกมาแล้ว!’

‘นี่คือพลังจากสองเล่มก่อนที่สะสมมาถึงจุดระเบิด!’

‘ใช่แล้ว!’

‘ไม่ว่าจะเถียงกันขนาดไหน สุดท้ายก็เพราะทุกคนคาดหวังกับนิยายของฉู่ขวงมากจริงๆ!’

‘เอ๊ะ! ดูเร็ว!’

‘ฉู่ขวงปล่อยตอนที่สองมาแล้ว!’

‘ตอนสองออกแล้ว? จะไปอ่านเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะได้รู้สักทีว่าตัวเอกเป็นใคร!’

ใช่แล้ว

ในขณะที่ชาวเน็ตกำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือดว่าใครคือตัวเอกตัวจริงของเรื่อง

ฉู่ขวงก็ได้ปล่อยตอนที่สองของดาบมังกรหยกออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว!

ชื่อตอนว่า ‘ยอดเขาบู๊ตึ๊งต้นสนสูงตระหง่าน’!

นี่ไม่ใช่แผนที่วางไว้แต่แรก เดิมทีหลินเยวียนตั้งใจจะปล่อยวันละตอนเท่านั้น แต่เมื่อเห็นว่าผู้อ่านเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตายว่าใครเป็นตัวเอก เขาจึงนึกอยากแกล้งคนขึ้นมาทันที

เขาจะลวงผู้อ่านให้ถึงที่สุด!

ข้อเท็จจริงก็พิสูจน์แล้วว่า

กลลวงครั้งนี้ได้ผลอย่างยอดเยี่ยม

เมื่อผู้อ่านเปิดอ่านบทที่สองของดาบมังกรหยกอย่างอดใจไม่ไหว การถกเถียงเกี่ยวกับตัวเอกก็เงียบลงไปไม่น้อย

‘ผมบอกแล้วว่าตัวเอกคือเตีย! กุน! ป้อ!’

ผู้อ่านที่เชื่อมั่นว่าเตียกุนป้อเป็นตัวเอกถึงกับเผยรอยยิ้มอย่างกระหยิ่มใจ

‘คราวนี้แหละ เจ้าแก่ฉู่ขวงอย่าคิดจะหลอก ไม่มีทางหลอกกันได้อีกแล้ว!’

…………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน