เข้าสู่ระบบผ่าน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 942

ตอนที่ 942 หากพวกเรากำลังสบายจงปรบมือพลัน (3)

ตกบ่าย

เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง

หลังจากที่ทุกคนตื่นได้ไม่นาน เด็กๆ ก็พากันมารุมล้อมหลินเยวียน

“พวกเราทำตามที่อาจารย์เซี่ยนอวี๋บอก นอนหลับเรียบร้อยแล้ว คุณครูก็ต้องทำตามสัญญานะ เล่าเรื่องที่เหลือให้จบ!”

“ปีเตอร์แพน!”

“ปีเตอร์แพน!”

“ปีเตอร์แพน!”

เด็กๆ พากันส่งเสียงร้องเรียกด้วยความตื่นเต้น

หลินเยวียนยิ้มบางๆ ก่อนจะเอ่ยว่า “งั้นครูจะเล่าต่อนะ… คราวนี้ ปีเตอร์แพนและพวกได้เจอกับกัปตันโจรสลัด…”

เขาลดรายละเอียดของเรื่องลง

เล่าเนื้อหาทั้งหมดอย่างกระชับและเข้าใจง่าย

ผ่านไปประมาณ 15 นาที

หลินเยวียนสรุปว่า “เรื่องราวของปีเตอร์แพนจบลงเท่านี้ เด็กๆ ต้องจำไว้นะ ว่าที่ที่ปลอดภัยที่สุดก็คือการอยู่เคียงข้างพ่อแม่ของเรา…”

เป็นการสรุปเนื้อหาและยกระดับให้มีความหมายเชิงสอนใจ

หลังจากนั้นเขามองนาฬิกาแล้วพูดว่า “ต่อไปเป็นเวลาทานของว่าง!”

“ได้เวลากินของว่างแล้ว!”

เด็กๆ ดีใจยกใหญ่ พร้อมหยิบขนมที่โรงเรียนแจกมากิน “ทาร์ตไข่อร่อยจังเลย!”

หลินเยวียน “…”

เขารู้สึกหิวขึ้นมาเหมือนกัน ทาร์ตไข่ที่เด็กๆ กิน ดูมีแรงดึงดูดมหาศาลสำหรับเขา

หลังจากเด็กๆ กินของว่างเสร็จ

หลินเยวียนจัดให้พวกเขาออกไปเล่นเกมในสนามตามตารางเวลา

ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งชั่วโมงก่อนโรงเรียนเลิก

หลินเยวียนเช็ดเหงื่อบนใบหน้า

ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยมาก

แต่แม้ร่างกายจะล้า แต่หัวใจกลับรู้สึกอิ่มเอม

การได้ใช้เวลาอยู่กับเด็กๆ ทำให้เขาผ่อนคลายจิตใจ

ถึงแม้ภายนอกจะดูวุ่นวาย แต่ภายในเขากลับรู้สึกสงบสุขและมีความสุข

ความไร้เดียงสา

ความสนุกสนานในวัยเด็ก

เมื่อมองเด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นและหัวเราะอย่างสนุกสนาน

แววตาของหลินเยวียนจึงค่อยๆ อ่อนโยนลง

ด้านข้าง

ช่างภาพที่เฝ้าสังเกตอยู่ เกิดความคิดบางอย่างในใจ และรีบยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปทันที

ในภาพ หลินเยวียนนั่งอย่างผ่อนคลายบนสนามหญ้า สองมือวางค้ำตัวไว้ข้างหลัง ดวงตาจับจ้องไปที่เด็กๆ ที่กำลังเล่นกัน ริมฝีปากแต้มด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

แสงอาทิตย์อาบไล้ร่าง

เสียงหัวเราะของเด็กๆ รวมกับภาพของหลินเยวียนที่นั่งมองเด็กๆ เล่นสนุกกันในสนามหญ้า ดูเหมือนถูกเติมด้วยสีสันของฟิลเตอร์บางอย่าง บรรยากาศทั้งหมดกลมกลืนกันอย่างไม่อาจพรรณาได้ และภาพที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเงาภาพที่สวยงามที่สุดท่ามกลางตะวัน

ชั่วขณะนั้นเอง

ช่างภาพก็เผลอคลี่ยิ้มออกมาด้วยความอบอุ่น ราวกับสัมผัสความรู้สึกได้อย่างประหลาด

“ดีจังเลย”

หลินเยวียนพูดขึ้น

ไม่รู้ว่าเขากำลังอิจฉาความไร้กังวลของเด็กๆ หรือกำลังรำลึกถึงวัยเด็กและความงดงามที่แสนบริสุทธิ์นี้

ทันใดนั้น

หม่าเสี่ยวเที่ยววิ่งมาหาหลินเยวียน พร้อมแอบหยิบขนมออกมาจากกระเป๋า

“คุณครูเซี่ยนอวี๋ นี่ขนมให้ครูครับ ขนมเปี๊ยะไข่แดงนี่อร่อยมากเลย!”

หลินเยวียนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แล้วทำไมไม่เก็บไว้กินเองล่ะ”

ขนมไข่แดงนี้เป็นของที่ทางโรงเรียนแจกให้เด็กๆ ซึ่งเด็กๆ ต่างก็ชื่นชอบมาก นึกไม่ถึงว่าหม่าเสี่ยวเที่ยวจะเก็บไว้ให้เขา

ก่อนหน้านี้เขาเองก็อยากจะกินเหมือนกัน แต่โรงเรียนมีกฎว่าคุณครูห้ามกินของที่แจกให้เด็กๆ

หลินเยวียนจึงได้แต่อดทน นั่งมองเงียบๆ ด้วยความอยากกิน

หม่าเสี่ยวเที่ยวมีสีหน้าเสียดายนิดๆ แต่ยังปากแข็งและพูดว่า

“ผมอิ่มแล้ว คุณครูกินเถอะ”

“งั้นเราแบ่งกันคนละครึ่ง”

ถึงจะโดนหักเงินนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร

หลินเยวียนไม่อยากปฏิเสธน้ำใจของเด็ก เพราะเขารู้ว่าถ้ารับขนมนี้หม่าเสี่ยวเที่ยวจะต้องดีใจอย่างแน่นอน

เขาแกะห่อขนมอย่างระมัดระวัง แล้วแบ่งขนมออกมา

หลินเยวียนกินไปคำเล็กๆ ก่อนจะส่งส่วนที่เหลือให้หม่าเสี่ยวเที่ยวพร้อมพูดว่า

“อ้าปาก”

“อ้า!”

“อร่อยไหม?”

“อร่อยที่สุดเลย!”

หลินเยวียนใช้มือข้างซ้ายซึ่งไม่ได้จับขนมลูบหัวหม่าเสี่ยวเที่ยวอย่างเอ็นดู

หม่าเสี่ยวเที่ยวทำท่าทางราวกับขนมนี้เป็นของล้ำค่า

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน